''วินนี่'' วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยประกาศเชือด ประหยัด บุญญา และ ไพโรจน์ โสคำ 2 แข้งดังที่ตัดสินใจไม่ร่วมทัพชุดคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 รายแรกสร้างความฉุนให้วินนี่เหตุอ้างถอนตัวเพราะบาดเจ็บ แต่ล่าสุดเพิ่งลงรับใช้ต้นสังกัดบู๊ทัวร์นาเมนต์พิเศษ ส่วนรายหลังไม่มาแบบที่ไม่ทราบสาเหตุ ชี้ชัดนี้คือการขัดขว้างการพัฒนาบอลไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้ นับจากนี้จะขอเรียกแต่คนที่มีใจให้ชาติเท่านั้น

ทัวร์นาเมนต์ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 42 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทัพของ "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือเมืองเบียร์ดูท่าจะประสบปัญหาเรื่องของการเรียกตัวผู้เล่นหลายราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน้าใหม่ที่เลือกปฏิเสธที่จะติดทีมชาติด้วยเหตุผลบางประการ โดยเรื่องนี้เฮดโค้ชผมสีดอกเลาได้เผยความรู้สึกผ่านล่ามออกมาอย่างชัดเจนว่า
 
"หลังเสร็จภารกิจในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ตลอด 8 สัปดาห์นับตั้งแต่การเรียกเก็บตัวจนกระทั่งถึงนัดชิงชนะเลิศ ผมเองในฐานะเฮดโค้ชย่อมรู้ดีว่าในทัวร์นาเมนต์คิงส์คัพจะต้องเลือกผสมผสานนักเตะแกนหลักกับเหล่าผู้เล่นใหม่เพื่อหวังหาสูตรสำเร็จที่ลงตัวให้ได้มากที่สุด หลายคนอาจจะถามว่า ทำไมถึงไม่ใช้ชุดเดิมจากซูซูกิ คัพ มาแข่งขันในคิงส์คัพ แต่หากผมเลือกที่จะทำแบบนั้นคงไม่เป็นผลดีกับผู้เล่นแกนหลักแน่"
 
"ต้องไม่ลืมว่าก่อนการแข่งขันซูซูกิ คัพ ผู้เล่นแกนหลักที่มาจากทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี ต่างกรำศึกหนักมาตลอดทั้งปี พวกเขาต้องการเวลาพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายคืนสภาพสำหรับการเตรียมลุยศึก 2013 ผมเข้าใจในการเตรียมทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีคิวลงเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก
 
ดังนั้นผมจึงไม่เลือก กวิน ธรรมสัจจานันท์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ติดทีมคิงส์คัพ พร้อมกับเลือกที่จะเน้นไปเหล่าดาวรุ่งที่มีพัฒนาการน่าจับตามองอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม รวมถึงอีกหลายๆ รายที่พร้อมแจ้งเกิดในทีมชาติไทยชุดคิงส์คัพหนนี้"
 
"มันดูจะไม่แฟร์แน่หากว่าตัวที่เรียกเข้ามาใหม่ดันแจ้งเข้าว่าตัวเองเจ็บไม่พร้อมลงเล่น แต่แท้ที่จริงแล้วเจ้าตัวดันไปเล่นให้กับต้นสังกัด ผมยกตัวอย่างกับในรายของ ประหยัด บุญญา เซนเตอร์ฮาล์ฟจากทีมราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่มีชื่อในชุดเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
 
กระทั่งต่อเนื่องถึงชุดคิงส์คัพ แต่ในวันที่เรียกรายงานตัว ประหยัด แจ้งเข้ามาว่าขอถอนตัวเพราะมีปัญหาบาดเจ็บ กระนั้นผมเองเพิ่งรับรายงานว่าเมื่อไม่นานมานี้ ประหยัด บุญญา ลงสนามให้ต้นสังกัดลงเล่นรายการ 4 เส้าที่ ม.เกษตรฯ รวมถึงในรายของ ไพโรจน์ โสคำ ที่ไม่มาตามหมายเรียกแบบไม่ทราบสาเหตุ"
 
"ผมเห็นแบบนี้ก็รู้สึกไม่ดีและขอตำหนิทั้งตัวนักเตะและสโมสรที่ไม่ให้ความร่วมมือกับทีมชาติ การกระทำเช่นนี้เป็นการขัดขว้างการพัฒนาบอลไทย ซึ่งทำให้ผมเสียความรู้สึกมาก ต่อจากนี้ไปผมจะขอเรียกตัวนักเตะที่เต็มใจจะรับใช้ชาติเท่านั้น ดังนั้นหากใครไม่อยากเล่นให้ทีมชาติไทย ผมก็จะไม่เรียกตัวเขาเข้ามาร่วมทีม
 
และหลังจากนี้ไปหากมีนักเตะคนไหนที่ผมเรียกตัวมาแล้ว แต่กลับขอถอนตัว ผมจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่ถอนตัว โดยหากไม่มีเหตุผลอันจำเป็นผมก็จะไม่ใช้งานผู้เล่นรายนั้นๆ อย่างแน่นอน"
 
พร้อมกันนั้น "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยยังได้เผยถึงแนวทางการพัฒนาและยกระดับวงการฟุตบอลไทยให้รุดหน้าตามแผนการพัฒนาที่เล็งไว้ด้วยว่า "หลังจบรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 อันดับโลกของไทยขยับขึ้นมาถึง 21 อันดับ
 
นับจากนี้ต่อไปผมเชื่อมั่นว่าไทยจะมีอันดับที่ดียิ่งขึ้น ผมได้หารือกับ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถึงแผนการพัฒนาที่ยั่งยืน นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเข้าหารือร่วมกับ
 
โวล์ฟกัง เนียร์สบัค นายกสมาคมฟุตบอลเยอรมันถึงแผนการสร้างทีมชาติไทย ต้องไม่ลืมว่า เยอรมันคือ 1 ใน 2 ประเทศที่มีพัฒนาการด้านฟุตบอลเป็นเลิศที่สุด เชื่อว่าจากนี้ต่อไปหากแผนการหารือทุกอย่างลงตัวก็น่าที่จะช่วยให้ทีมชาติไทยมีแผนการสร้างทีมจากรุ่นเยาวชนสู่ชุดใหญ่ได้แบบไม่มีติดขัด"
 
ขณะเดียวกัน "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยได้เผยถึงการเปรียบเทียบความตื่นตัวของลีกภูมิภาคหรือลีกท้องถิ่นระหว่างของไทยกับเยอรมันบ้านเกิดของวินนี่เองเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของแฟนบอลทั้ง 2 ประเทศว่าจะออกมาในรูปแบบใดบ้าง ซึ่งกุนซือผมสีดอกเลาแห่งเมืองเบียร์ได้เผยผ่านล่ามว่า
 
"ผมเห็นความตื่นตัวของแฟนบอลในลีกภูมิภาคครั้งนี้มันทำให้ผมตะลึงและทึ่งอย่างมาก ลีกท้องถิ่นของไทยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดีหากเทียบกับของเยอรมันที่ยังมีแฟนบอลน้อยกว่า อีกอย่างที่เยอรมันคงหาโอกาสไม่ได้ที่ทีมระดับท้องถิ่นจะได้คิวอุ่นเครื่องกับทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่

โอกาสความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์ ดังนั้นแรงจูงใจของแฟนคลับที่จะเข้ามาเชียร์ก็ดูจะน้อยลงหากว่าทีมๆ นั้นไม่ใช่ทีมระดับท็อปจริงๆ ผิดกับของไทยที่ไม่ว่าจะเป็นสโมสรไหนในระดับลีกภูมิภาคก็มักจะมีแฟนคลับประจำท้องถิ่นนั้นๆ ช่วยหนุนหลังเป็นอย่างดี
 
โดยเฉพาะ 2 สโมสรที่ผมเคยผ่านประสบการณ์ในเกมอุ่นเครื่องมาแล้วอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี และ ลำพูน วอริเออร์ ซึ่งการได้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ลงทีมอุ่นเครื่องด้วยน่าจะเป็นสิ่งที่แฟนคลับของทั้ง 2 สโมสรรวมถึงสโมสรอื่นๆ ที่หวังไว้ว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ชมและเชียร์ทีมชาติไทยลงแข่งขันที่ท้องถิ่นนั้นๆ ก็เป็นได้"