-

        ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" ตะบันคนเดียวสองตุงช่วย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดถิ่น ไล่ต้อนเก็บชัยเหนือ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม แบบสบายๆ 4-1 ส่งผลให้แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบต่อไป ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ4 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ4

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2556

แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) 4   -   1 ฟูแล่ม (พรีเมียร์ลีก)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

        คู่ปิดท้ายของวัน แมนฯ ยูไนเต็ด หมุนนักเตะอีกตามเคยโดยจัดให้เวย์น รูนีย์ลงประสานงานร่วมกับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้ ขณะที่ ชินจิ คางาวะ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ นั่งเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับริโอ เฟอร์ดินานด์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค

        ฝ่ายฟูแล่มส่ง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กลับมาเยือนถิ่นเก่า แต่ปราศจาก คีแรน ริชาร์ดสัน อดีตขุนพลผีแดงอีกรายเนื่องจากบาดเจ็บบริเวณน่อง

        เริ่มเกมได้แค่ครึ่งนาที ปีศาจแดงเกือบออกนำเมื่อ รูนีย์ พาบอลลุยเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วกลับตัวยิงจังหวะขลุกขลิก แต่บอลกระทบกองหลังอาคันตุกะเฉี่ยวเสาแรกไปนิดเดียวเท่านั้น

        อย่างไรก็ดี จากลูกเตะมุมทางซ้ายในจังหวะนี้ อาร่อน ฮิวจ์ ทำพลาดกระโดดใช้มือปัดบอลก่อนเข้าหัว คริส สมอลลิ่ง จึงเสียลูกโทษตามระเบียบ  และ ไรอัน กิ๊กส์ วิ่งเข้าสังหารไปทางซ้ายของตัวเองโดน มาร์ค ชวาร์เซอร์ พุ่งปัดได้ แต่บอลยังทะลักเข้าปะทะตาข่าย จึงเป็นอันว่าแมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 3

        เกมจืดลงไปพักใหญ่หลังจากนั้น กระทั่งนาทีที่ 15 นานี่ก็ควบบอลลุยเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วจัดแจงสับไกยัดใส่เสาแรกทันที แต่เบาเกินกว่าที่จะผ่านมือของ ชวาร์เซอร์

        ขยับมาถึงนาทีที่ 20 กิ๊กส์ ตักบอลจากกราบซ้ายหมายให้ ปาทริซ เอวร่า ที่วิ่งไปรอในเขตโทษแล้ว เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ยกแขนดักบอลเอาไว้  แต่แทนที่จะได้ลูกโทษผู้ตัดสินกลับทำเอางงกันไปทั้งสนามเมื่อเตือน ดัฟฟ์ ว่าทำแฮนด์บอลโดยไม่เป่าให้เป็นลูกโทษซ้ำอีกท่ามกลางความไม่เข้าใจของขุนพลปีศาจ

        กระนั้นนาทีต่อมา เจ้าบ้านก็น่าจะสอยตาข่ายได้อีกเมื่อ อันแดร์สัน ไหลบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้นานี่ปาดไปเสาสองโดยมี รูนีย์ ตวัดยิงระยะแปดหลา แต่ ชวาร์เซอร์ ปัดไปชนคานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

        นาทีที่ 23 เป็นโอกาสของจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกเมื่อกิ๊กส์ตบบอลจากกราบซ้ายให้ รูนีย์ ปาดเข้ากลางอีกทีโดยมีนานี่สับไกจาก 20 หลา แต่บอลเข้าซอง ชวาร์เซอร์ พอดี

        เกมยังเป็นของเจ้าถิ่นข้างเดียว แต่นาทีที่ 31 พลาดโอกาสคลำเป้าเพิ่มอีกตามเคยเมื่อ รูนีย์ เข้าฮอสลูกผ่านจากทางซ้ายในระยะเผาขนถูก ชวาร์เซอร์ บล็อคที่เสาแรกได้

        นาทีต่อมา เจ้าสัวได้เสียวหนแรกจากจังหวะที่ ซาสช่า รีเธอร์ พาบอลลุยขึ้นมาแล้วลองยิงไกลจากหน้าเขตโทษด้านขวาหลุดเสาสองไปแค่คืบเท่านั้น กระทั่งจบครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดจึงนำไปก่อน 1-0

     เริ่มครึ่งหลัง ฟูแล่ม เปลี่ยน จอร์จอส คารากูนิส ลงไปแทน คริส แบร์ด แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูเพิ่มในนาทีที่ 47 เมื่อนานี่พาบอลโขยกเข้าไปจนสุดเส้นหลังด้านขวาทำเอา ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ หัวทิ่มก่อนจ่ายคืนให้รูนีย์ซัด แต่ติด ฮิวจ์ส ที่ยืนเกะกะอยู่บนเส้นประตู

     อย่างไรก็ดี นาทีที่ 50 ผีแดงก็เช็คบิลเพิ่มจนได้จากการแทงบอลยาวแถวกลางสนามของ อันแดร์สัน ที่เปิดทางให้ รูนีย์ ลากเข้าไปล็อคหลบ ฮิวจ์ส ก่อนตะบันจาก 16 หลาตุงตาข่ายให้ปีศาจแดงนำ 2-0

     ถัดมาอีกนาทีเดียว สกอร์ก็เปลี่ยนอีกเมื่อ รูนีย์ ตามไปเก็บบอลสุดเส้นหลังด้านขวาแล้วตวัดยิงมุมแคบทันทีโดนกองหลังทีมเยือนแหย่ขาสกัด แต่บอลหลุดไปเข้าทางให้ ชิชาริโต้ วอลเลย์จากหน้าประตูระยะแปดหลาตุงตาข่ายทำให้เจ้าบ้านนำห่าง 3-0

     ล่วงเข้าสู่นาทีที่ 61 ผีแดงปล่อย พอล สโคลส์ ลงเล่นแทนไมเคิ่ล คาร์ริคพร้อมกับที่ฟูแล่มใช้งาน อูโก้ โรดาเยก้ าแทน ดัฟฟ์

     จากนั้นอีกห้านาที กิ๊กส์ ก็แทงบอลขึ้นทางซ้ายให้ ชิชาริโต้ ลากเข้าเขตโทษไปยิงแฉลบจังหวะเข้าสกัดของ ฮิวจ์ส เปลี่ยนทิศเข้าปะทะตาข่ายที่เสาแรก จึงเป็นอันว่าแมนฯ ยูไนเต็ดนำเพิ่มเป็น 4-0

     นาทีที่ 71 ฟูแล่มเปลี่ยน อาชกาน เดเยกาห์ ลงไปแทน ไบรอัน รุยซ์ ขณะที่เจ้าบ้านถอด กิ๊กส์ กับ อันแดร์สัน ออกให้ คางาวะ กับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงไปสัมผัสเกม และเริ่มเพลาเกมทำให้เจ้าสัวได้บุกบ้าง

     และแล้วนาทีที่ 76  จากลูกเตะมุมด้านขวาของ คารากูนิส ฮิวจ์ส ก็สลัดหนีการประกบของ รูนีย์ โดดโขกที่เสาแรกระยะหกหลาเสียบมุมจนได้ จึงเป็นอันว่าทีมเยือนตีไข่แตกตามหลังเป็น 4-1

     ช่วงที่เหลือ อสูรแดงเล่นแบบคุมจังหวะปิดเกมเอาไว้ แต่นาทีที่ 83 น่าจะได้สกอร์เพิ่มจากการบุกขึ้นฝั่งขวาแล้ว ราฟาเอล ดา ซิลวา ตบบอลมาหน้าประตูโดยที่ ชิชาริโต้ พลิกหนีรีเธอร์แล้วบอลหลุดไปเสาไกลให้ รูนีย์ ซัดตุงตาข่ายโล่งๆ แต่ผู้ตัดสินเป่าว่าเจ้าถั่วน้อยทำฟาวล์กองหลังฟูแล่มก่อนแล้ว หมดเวลาผีแดงจึงเข้ารอบไปแบบไม่ลำบากด้วยการเผด็จศึกเจ้าสัว 4-1 ผ่านเข้าไปเล่นรอบที่ 5 ต่อไปแบบสบายๆ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

     แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริซ เอวร่า, นานี่, ไมเคิ่ล แคร์ริค (พอล สโคลส์ น.60), อันแดร์สัน (อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.70), ไรอัน กิ๊กส์ (ชินจิ คางาวะ น.70), เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้"

     สำรองไม่ได้ใช้ : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์, แดนนี่ เวลเบ็ค, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์, ซาช่า รีเธอร์, เบรเด้ ฮันเกลันด์, อารอน ฮิวจ์ส, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, เดเมียน ดัฟฟ์ (อูโก้ โรดาเยก้า น.60), สตีฟ ซิดเวลล์, คริส แบร์ด (จอร์จอส คารากูนิส น.46), อเล็กซ์ คาชานิคลิช, ไบรอัน รูอิซ (อัชคาน เดยากาห์ น.69), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

     สำรองไม่ได้ใช้ : นีล เอเธอริดจ์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, แม็ทธิว บริกก์ส, มลาเดน เพทริช

     
ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ทเทนเบิร์ก

     ไรอัน กิ๊กส์กองกลางรุ่นเดอะของแมนฯ ยูไนเต็ดตั้งเป้า หวังพาผีแดงผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพหลังมีส่วนช่วยให้ต้นสังกัด กำราบฟูแล่ม 4-1 ในการฟาดแข้งรอบสี่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด


     สตาร์เวลส์เปิดฉากสังหารลูกโทษพาเจ้าบ้านนำก่อนตั้งแต่นาทีที่สาม และด้วยเหตุที่ราชาถ้วยน็อคเอาท์ล้มเหลวในรายการนี้หลายปีติดต่อกันแล้ว จึงทำให้ดาวเตะพ่อมดหวังนำทีมผ่านไปถึงนัดชิงชนะเลิศ


     "ชัยชนะมีความหมายมากเพราะเราทำได้ไม่ดีอย่างที่เราควรทำได้ในฟุต บอลเอฟเอคัพมานานแปดหรือเก้าปีแล้ว" กิ๊กส์เอ่ยก่อนที่เกมต่อไปแมนฯ ยูไนเต็ดมีคิวบุกไปเยือนเจ้าสัวในฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์หน้า


     

     
     มาร์ติน โยลผู้จัดการทีมฟูแล่มยอมรับตามตรง โชคดีมากแล้วที่แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด 4-1 ทั้งๆที่น่าจะโดนสอยตาข่ายครึ่งโหลมากกว่า

     เจ้าสัวเสียประตูตั้งแต่ไก่โห่ และนับจากนั้นเกมก็เป็นรองเจ้าบ้านชัดเจนกระทั่งจบเกมจึงทำให้นายใหญ่เจ้า สัวชี้ว่าแพ้น้อยไปด้วยซ้ำ

     "เราพยายามเล่นให้ดี แต่เราทำไม่ได้ เราไม่อาจต่อเกมกันได้เลย เราครองบอลไม่ได้แม้แต่น้อย"

     "ครึ่งแรกเราอาจตามหลังแค่ 1-0 และทำให้เรายังมีลุ้น แต่ครึ่งหลังพวกเขาได้อีกสองประตูติดๆกัน และมันทำให้เกมจบลง"

     "โชคดีมากแล้วที่พวกเขายิงได้แค่สี่ประตูเพราะมันเป็นวันที่พวกเขา น่าจะยิงได้หกหรือเจ็ดประตู แต่มันเป็นเกมแค่นัดเดียว และเราแพ้ สำหรับเราตอนนี้สิ่งที่สำคัญคือเกมในลีก" โยลเอ่ย

     
     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ดออกปากเร้าให้นักเตะพยายามคว้าแชมป์เอฟเอคัพในซีซั่นนี้มาครองให้ ได้หลังจากร้างรามานานโดยเฉพาะริโอ เฟอร์ดินานด์ยังไม่เคยได้สัมผัสแชมป์ใบนี้

     ปีศาจแดงไม่ได้แชมป์น็อคเอาท์มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว และหลังเห็นนักเตะไล่ต้อนเจ้าสัว นายใหญ่ชาวเมืองน้ำเมาก็หวังว่าทีมจะครองแชมป์ใบนี้อีกคำรบ

     "มันเป็นฟอร์มที่ดี ผมคิดว่าเราเคารพฟูแล่มเพราะเราส่งทีมที่แข็งแกร่งลงสนาม"

     "เอฟเอคัพเป็นโทรฟี่ที่สำคัญสำหรับเราในซีซั่นนี้ เราไม่ได้แชมป์มาสิบปีแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องพยายามเล่นให้ดีในปีนี้"

     "ริโอ เฟอร์ดินานด์ยังไม่เคยได้เหรียญแชมป์เอฟเอคัพ เราจึงจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง" ป๋าเผยเจตนารมณ์

สรุปผลฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ4
- สโต๊ค แพ้ แมนฯ ซิตี้  0 - 1
- โบลตัน แพ้ เอฟเวอร์ตัน  1 - 2
- ไบรท์ตัน แพ้ อาร์เซน่อล   2 - 3
- ดาร์บี้ แพ้ แบล็คเบิร์น  0 - 3
- ฮัดเดอร์สฟิลด์ เสมอ เลสเตอร์  1 - 1
- ฮัลล์ ซิตี้ แพ้ บาร์นสลี่ย์  0 - 1
- แม็คเคิ่ลส์ฟิลด์ แพ้ วีแกน  0 - 1
- มิดเดิ้ลสโบรช์ ชนะ อันเดอร์ช็อต  2 - 1
- นอริช แพ้ ลูตัน ทาวน์  0 - 1
- ควีนส์ปาร์ค แพ้ มิลตัน คีนส์  2 - 4
- เร้ดดิ้ง ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด  4 - 0
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ ฟูแล่ม  4 - 1