เกมใหญ่เกมแรกของปี 2013 ของทัพช้างศึก พวกเขาต้องลงฟาดฟันกับทีมที่แกร่งอย่าง คูเวต ทั้งที่ได้เตรียมทีมมาไม่ค่อยเข้มข้นนัก

สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพ

ไทย (138) – คูเวต (120)

ทีมชาติไทยมีการเตรียมทีมที่ไม่ดีนักก่อนเกมนี้โดยพลาดการอุ่นเครื่องกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ประเทศจีนโดยได้ลองทีมเพียงนัดเดียวแถมแพ้ให้กับราชบุรี มิตรผล เอฟซี น้องใหม่ไทยพรีเมียร์ลีก 0-1

ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าเลือดร้อนของบางกอกกล๊าส ที่มีชื่อกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งแต่จะพลาดลงสนามเพราะต้องชดใช้โทษแบนจำนวน 4 นัดโดยเขาเป็นผู้ยิงจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทัพ "ช้างศึก" เอาชนะ คูเวต 1-0 ในรอบแรกของเอเชียนเกมส์ ที่โดฮา เมื่อปี 2006 แต่ไม่น่าเป็นปัญหามากนักเพราะนักเตะตัวหลักที่อยู่ในทีมชุดรองแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เมื่อปลายปียังอยู่กันครบ

ดัสกร ทองเหลา และ อดุล หละโสะ สองห้องเครื่องคนสำคัญและ อนุชา กิจพงษ์ศรี ปีกซ้ายจากชลบุรี เอฟซี หายจากอาการบาดเจ็บทันเวลาในเกมนี้ เช่นเดียวกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว มิดฟิลด์ของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีข่าวว่าอาจจะถูกโทษแบนก็ได้รับคำยืนยันจากเอเอฟซี ให้ลงสนามในเกมนี้ได้เช่นกัน

วินฟรีด เชเฟอร์ จะฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไปอัพเกรดฝีเท้ามาจากแอตเลติโก มาดริด กว่า 20 วันเพื่อกลับมาลงเล่นในแมตช์นี้

ทีมชาติคูเวตซึ่งเป็นอดีตแชมป์เมื่อปี 1980 เพิ่งคว้าอันดับ 3 ในรายการ กัลฟ์ คัพ ออฟ เนชั่น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เดินทางมาปักหลักเก็บตัวที่เมืองไทยก่อนแข่งถึง 5 วัน ทำให้มีความพร้อมพอสมควร

คูเวตชุดนี้นำทัพมาโดย บาเดอร์ อัล-มูตาวา กองหน้าตัวเก่งที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดโดยยิงไป 38 ประตูจากการรับใช้ทีมชาติ 116 นัด และยังเคยเป็นนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 2 ของเอเชียเมื่อปี 2006 และ ยูเซฟ นาสเซอร์ หัวหอกดาวโรจน์จากทีมคาซม่า ที่ติดทีมชาติไปแล้วถึง 31 นัดในวัย 22 ปีและทำได้ถึง 15 ประตู

สำหรับสถิติที่พบกันของทั้งสองทีมโดยเจอกันมาทั้งหมด 9 นัดในทีมชาติชุดใหญ่ ไทย ชนะ 4 เสมอ 0 และ คูเวต ชนะ 5 ไทยยิงได้ 15 คูเวตยิงได้ 22 ประตู