''พัตเตอร์'' ปัดขโมยของในบ้าน ยันแค่ไปหาแม่แต่ได้ยินเสียงผิดปกติจึงปีนระเบียงเข้าไปตรวจสอบ เหตุทำให้มีร่องรอยในที่เกิดเหตุ ''แพนเค้ก'' ยิ้มควง ''สารวัตรหมี'' หวานใจไปปิดคดีที่โรงพักมีนบุรีกลางดึก แสดงหลักฐานของกลางพร้อมกับครอบครัว

    กรณี ''แพนเค้ก'' เขมนิจ จามิกรณ์ เข้าใจผิดว่าถูกคนร้ายแอบเข้าไปขโมยนาฬิกาโรเล็กซ์และเครื่องเพชรกว่า 2 แสนบาท จากห้องน้ำบ้านเลขที่ 295/1-3 หมู่บ้านริมสวน ซอยรามอินทรา 119/1 เขตมีนบุรี โดยอ้างว่ายังไม่ว่างติดธุระ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่านางเอกชื่อดังที่มีผลงานละครทางช่อง 7 สี และครอบครัวพยายามปกป้อง ''พัตเตอร์'' ภทรนันท์ จามิกรณ์ น้องชาย หลังผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าพบลายนิ้วมือแฝงของน้องชายดาราดังปรากฏอยู่ภายในบ้านหลังเกิดเหตุตามที่รายงานข่าวไปนั้น
    

    ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ''แพนเค้ก-เขมนิจ'' พร้อม นายนทีเทพ นางนวลนง บิดา-มารดา, ''พัตเตอร์-ภทรนันท์'' น้องชาย และ ''สารวัตรหมี'' พ.ต.ต.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์ หวานใจหนุ่มของนางเอกสาว พร้อมทนายความ เดินทางด้วยรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน ศท 959 กรุงเทพมหานคร มายังสน.มีนบุรี เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก., พ.ต.ท.เทพทัต เมตตาพันธุ์ พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ เจ้าของคดี ช่วงเวลา 23.00 น. ของวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมาทั้งหมดมีสีหน้ายิ้มแย้มยกมือไหว้ทักทายผู้สื่อข่าวที่ไปเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ก่อนขอตัวเข้าให้ปากคำภายในห้องสอบสวน
    

    พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี เปิดเผยหลังจากได้ทำการสอบสวนครอบครัวของนางเอกชื่อดังเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงว่า วันนี้ทางแม่และพัตเตอร์ได้เดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยาน ส่วนทางแพนเค้กเดินทางมาให้การเพิ่มเติมหลังจากที่แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากสอบปากคำทั้งหมด เจ้าหน้าที่พบว่าคดีนี้เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริง โดยเมื่อวันเกิดเหตุทางผู้เสียหายคิดว่ามีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ แต่ต่อมาพบว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดและมาให้การเพิ่มเติมว่าได้ของกลางที่เข้าใจว่าถูกคนร้ายลักทรัพย์ไปกลับคืนมาครบทุกอย่าง และทางผู้เสียหายก็มั่นใจว่าไม่มีการลักทรัพย์ จึงไม่มีการกระทำผิด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำเรื่องถอนแจ้งความต่อไป
    

    ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวด้วยว่าคดีนี้ไม่ถือว่าผู้เสียหายแจ้งความเท็จ เพราะเจ้าหน้าที่วิเคราะห์จากเจตนาการแจ้งความในวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียหายเห็นร่องรอยปรากฏว่ามีร่องรอยคนร้ายเข้ามาในบ้าน พร้อมกับทรัพย์สินหายไป จึงคิดว่ามีคนเข้ามาลักทรัพย์ จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางตำรวจได้สอบปากคำคนในบ้านทันทีในวันเกิดเหตุ พออีกวันก็ได้นำคนในบ้านมาพิมพ์ลายนิ้วมือและนิ้วเท้าเพื่อส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ต่อมาในวันที่ 28 ม.ค. ทางครอบครัวของนักแสดงชื่อดังก็ได้เดินทางมาพิมพ์ลายนิ้วมือเพิ่มโดยมากันครบ ทำให้เชื่อได้ว่าไม่มีเจตนาแจ้งความเท็จ แต่เป็นการสำคัญผิด อีกทั้งการสอบปากคำครอบครัวของนักแสดงชื่อดังไม่พบพิรุธ ทางพัตเตอร์ก็ให้การไม่พบพิรุธ ทุกคนให้การสอดคล้องกันเป็นประโยชน์ ซึ่งตอนพิมพ์ลายนิ้วมือเมื่อวันที่ 28 ม.ค.นั้นทางพัตเตอร์ก็เข้าใจว่ามีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ภายในบ้านจริงๆ จนเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ทางแม่ของนักแสดงสาวพบทรัพย์สินในบ้านเกิดเหตุ พร้อมทั้งพบว่าเป็นการวางทรัพย์สินผิดที่ ก็เลยรีบมาให้ข่าวทันที
    

    ทั้งนี้นายพัตเตอร์มีเหตุอันควรให้เข้าไปในบ้าน แต่รายละเอียดที่ว่าเข้าไปทำไมเป็นเรื่องของการสอบสวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พบว่าสามารถรับฟังได้ ส่วนขั้นตอนการถอนคดี ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเอกสารเสนอตามลำดับขั้นบังคับบัญชา โดยจะส่งผ่านทางบก.น.3 ในช่วงเช้าของวันนี้เพื่อเสนอแก่ผู้บังคับบัญชาในบช.น. เพื่อทำเรื่องขอถอนเลขคดีต่อไป ซึ่งการถอนคดีดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นเรื่องภายในครอบครัวสามารถยอมความกันได้ แต่เป็นการสำคัญผิดทางข้อเท็จจริงว่ามีการลักทรัพย์ แต่เมื่อต่อมาไม่พบว่ามีเหตุ ก็ทำเรื่องถอนแจ้งความต่อไป
    

    อนึ่งมีรายงานข่าวแจ้งว่า เหตุเข้าใจผิดกันครั้งนี้มาจาก ทางพัตเตอร์ได้เข้ามาที่บ้านของนักแสดงสาว ซึ่งปกติบ้านหลังดังกล่าวมีแม่แพนเค้กและน้องสาวพักอยู่ด้วยกัน และพัตเตอร์พักอยู่กับพ่อที่บ้านอีกหลัง วันเกิดเหตุพัตเตอร์มาที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อมาหาแม่ แต่พบว่าบ้านปิดเพราะทางแพนเค้กแม่และน้องสาวเดินทางออกไปรับประทานอาหารข้างนอกบ้านตั้งแต่ช่วง 21.00 น.
    

    ขณะนั้นพัตเตอร์ได้ยินเสียงคล้ายมีคนอยู่ในบ้าน จึงปีนที่ระเบียงเข้ามาทางหน้าต่างเพื่อตรวจสอบ แต่ไม่พบใคร จึงออกจากบ้านไปตามปกติ ทำให้มีร่องรอยเท้าและลายนิ้วมือแฝงอยู่ในจุดเกิดเหตุ เมื่อคนในบ้านกลับมาก็ไม่ได้เอะใจไปพักผ่อน จนอีกวันจึงพบว่าทรัพย์สินซึ่งวางไว้ที่อ่างล้างหน้าในห้องน้ำไม่อยู่ที่เดิม พร้อมกับพบรอยเท้า จึงคิดว่ามีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์เลยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
    

    ต่อมาทางแม่ของนักแสดงสาวไปพบทรัพย์สินอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานชั้นแรก จึงพบว่าเป็นการเข้าใจผิดเพราะปกติทางแม่แพนเค้กจะวางทรัพย์สินที่อ่างล้างหน้า แต่วันที่กลับจากการรับประทานอาหาร แล้วได้กินยาแก้แพ้อากาศทำให้เกิดอาการเบลอจำไม่ได้ว่าวางทรัพย์สินไว้ที่ไหน เมื่อตื่นมาอีกวันไม่เห็นทรัพย์สินแต่เห็นรอยเท้าปรากฏ จึงรีบแจ้งความทันที สำหรับทรัพย์สินของกลางนั้นแม้เป็นของนักแสดงสาว แต่ทางแม่และแพนเค้กผลัดกันใช้
    

    ขณะที่นางเอกสาวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อถอนแจ้งความ ความจริงตนจะมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ติดภารกิจจึงต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ในช่วงดึก ในเรื่องนี้ถือได้ว่าดำเนินการเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว ทรัพย์สินได้ที่คิดว่าหายไปคือ ต่างหู แหวนเพชร และนาฬิกาก็ได้คืนหมดแล้ว