เซนิต ทีมจากรัสเซียยังแกร่งหลังเปิดบ้านอัด "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมดังจากอังกฤษ 2-0 โดยได้ประตูจาก ฮัล์ค กับ เซมัก ที่ซัดไปคนละลูก นัดที่สองจะกลับไปเตะที่แอนฟิลด์วันที่ 21 ก.พ. นี้ ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก

รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556

เซนิต (รัสเซีย) 2 - 0 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)

สนาม : สตาดิโอน เปตรอฟสกี้

 
        เซนิต เปิดรังรับมือ ลิเวอร์พูล ในเกมเลกแรกของถ้วยยุโรปใบเล็ก โดยเกมนี้เจ้าถิ่นมี ฮัล์ค, ดานนี่ และ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ เป็นสามแนวรุก ส่วนทีมเยือนส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด คุมกลางแล้วให้ หลุยส์ ซัวเรซ ยืนค้ำในแดนหน้า
 
        เริ่มเกมมา นาทีที่ 2 เซนิต ได้ลุ้นก่อน เมื่อ โฆเซ่ เอ็นริเก้ สกัดบอลไม่ขาดเข้าทาง โรมัน ชิโรคอฟ ได้ซัดในเขตโทษ แต่ โฆเซ่ เรน่า ก็พุ่งปัดได้สวย
 
        นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ได้สวนกลับ ลูกนี้ หลุยส์ ซัวเรซ พริ้วหลอกกองหลัง เซนิต แล้วยิงด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งเรียดเฉี่ยวเสาไกลออกไปนิดเดียว
 
        ทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกกันสนุก นาทีที่ 28 จังหวะนี้ ฮัล์ค ลากตัดจากฝั่งขวาเข้ามาตะบันด้วยซ้ายเน้นๆ หน้าเขตโทษ บอลผ่านตัว เรน่า ไปแล้ว แต่ดันชนเสาแรกอย่างจัง
 
        นาทีที่ 40 หงส์แดง ได้โอกาสทอง เมื่อ โจ อัลเลน เปิดจากฝั่งขวาเลยไปเสาไกล ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บได้แล้วปาดเข้ากลางให้ ซัวเรซ ไขว้ยิงจ่อๆ แต่บอลดันออกข้างอย่างน่าเขกกบาล หมดครึ่งแรกยังเจ๊ากัน 0-0
 
        เข้าสู่ครึ่งหลัง นาาทีที่ 49 ลิเวอร์พูล มีโอกาส เมื่อ เกล็น จอห์นสัน ลากเข้าเขตโทษฝั่งขวาไปยิง แต่ก็ยังไปติดตัว เวียเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ ป้องกันได้
 
        กลายเป็น เซนิต ที่มาขึ้นนำ 1-0 สมใจ นาทที่ 69 จากจังหวะที่ ฮัล์ค ลากจี้ขึ้นมาแล้วตะบันด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งวาบเสียบใต้คานเด็ดขาด
 
        นาทีที่ 72 เจ้าบ้านมาหนีห่าง 2-0 เมื่อ อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ เปิดเรียดจากฝั่งขวาทะลุไปเสาไกลให้ เซอร์เก เซมัก เข้าชาร์จตุงตาข่ายไม่เหลือ
 
        ช่วงท้ายเกม ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่ม จบเกม เซนิต เอาชน ลิเวอร์พูล 2-0 ตุนความได้เปรียบไว้ก่อนที่จะไปเล่นเลกสองที่แอนฟิลด์วันที่ 21 ก.พ.

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เซนิต : เวียเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ, อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ, หลุยส์ เนโต้, นิโกลัส ลอมแบร์ตส์, โทมัส ฮูโบชาน, อีกอร์ เดนิซอฟ, โรมัน ชิโรคอฟ, อักเซล วิตเซล, ฮัล์ค, ดานนี่ (เซอร์เก เซมัก น.54), อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ (วิคเตอร์ ไฟซูลิน น.82)

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, โจ อัลเลน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, ราฮีม สเตอร์ลิง (ลูคัส เลวา น.78), หลุยส์ ซัวเรซ

ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)

บีร็อดยังมั่นหงส์เข้ารอบได้แม้พ่ายเซนิต

 
        เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล มองโลกในแง่ดี ทีมของตนยังมีหวังผ่านรอบ 32 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้ แม้จะบุกไปพ่าย เซนิต 0-2 ในการแข่งนัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็ตาม ชี้ วันนี้ "หงส์แดง" เล่นกันได้ดีแล้ว แต่พลาดไปนิดหน่อยกับการจบสกอร์ และการตั้งรับในจังหวะที่เสียทั้ง 2 ประตู

        เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งวงการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า ตนยังไม่ยอมแพ้กับความหวังที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ถึงแม้ "หงส์แดง" จะออกไปแพ้ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมแกร่งแห่งเวทีรัสเซียน พรีเมียร์ลีก 0-2 ถึงสนาม เปตรอฟสกี้ สเตเดี้ยม ในการแข่งรอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาก็ตาม

        เกมนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่ไม่คมพอ จนในที่สุดก็โดนเจ้าถิ่นรัวทีเดียว 2 ลูกจาก ฮัล์ค ในนาทีที่ 69 และ เซอร์เก เซมัก ในอีก 3 นาทีต่อมา ทำให้ทีมของ ร็อดเจอร์ส ต้องเอาชนะด้วยสกอร์ 3-0 เป็นอย่างน้อย ในการแข่งนัด 2 ที่จะกลับไปดวลแข้งกันใน แอนฟิลด์ สนามเหย้าของ "หงส์แดง" วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อที่จะคว้าตั๋วผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

        ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์ว่า "ถ้าเราสามารถตั้งรับกันได้อย่างเหนียวแน่นทั้งทีมแล้วล่ะก็ เราก็รู้ดีว่า เรามีโอกาสที่จะทำประตูได้ ซึ่งประตูต่อไปเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเรา ถ้าเราทำประตูต่อไปได้แล้วล่ะก็ มันก็จะเป็นการเปิดโอกาส (สำหรับการเข้ารอบ) ได้ทันที"

        "เราผิดหวังกันมากๆ ที่แพ้เกมนี้ ผมคิดว่า เรามีฟอร์มการเล่นเกมเยือนที่เกือบจะสมบูรณ์แบบเลย หลังจากที่เปิดตัวได้สวย และในตอนที่พวกเขา (เซนิต) เปิดพื้นที่ให้เราเล่นเยอะมาก เรามีโอกาสที่จะทำประตูได้หลายครั้ง และน่าเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนด้วย แถมเรายังตั้งรับกันได้เหนียวแน่นสุดๆ อีกต่างหาก"

        "ดังนั้นการเสีย 2 ประตูในช่วง 20 นาทีสุดท้ายจึงเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเสียลูกที่ 2 หลุยส์ ซัวเรซ น่าจะทำแฮตทริกได้ตั้งแต่ช่วงพักครึ่งด้วยซ้ำ แต่นี่ไม่ใช่คืนของเขาเลย อย่างไรก็ตาม เขาก็เล่นให้เราได้อย่างสุดยอดมาตลอดฤดูกาลนี้เหมือนกันนะ" กุนซือวัย 40 ปี ร่ายยาว


สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก
- อันจิ มาคัชคาล่า (รัสเซีย) ชนะ ฮันโนเวอร์ 96 (เยอรมัน) 3-1
- เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) ชนะ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 2-0
- บาเต้ บอริซอฟ (เบลารุส) เสมอ เฟเนร์บาห์เช่ (ตุรกี) 0-0
- เลบันเต้ (สเปน) ชนะ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 3-0
- ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) เสมอ บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) 1-1
- ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน) แพ้ เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 0-1
- อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) 2-0
- สปาร์ต้า ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) แพ้ เชลซี (อังกฤษ) 0-1
- นาโปลี (อิตาลี) แพ้ วิคตอเรีย พิลเซ่น (สาธารณรัฐเช็ก) 0-3
- แอตเลติโก มาดริด (สเปน) แพ้ รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 0-2
- เอฟซี บาเซิ่ล (สวิตเซอร์แลนด์) ชนะ ดนิโปร ดนิโปรเปตรอฟส์ค (ยูเครน) 2-0
- มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมัน) เสมอ ลาซิโอ (อิตาลี) 3-3
- อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) ชนะ ซีเอฟอาร์ คลูช (โรมาเนีย) 2-0
- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (อังกฤษ) เสมอ เมตาลิสต์ คาร์คีฟ (ยูเครน) 0-0
- สตุ๊ตการ์ท (เยอรมัน) เสมอ เกงค์ (เบลเยียม) 1-1
- ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ (อังกฤษ) ชนะ โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 2-1