หลุยส์ นานี่ ตะบันประตูเปิดฝากโลงช่วย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนเก็บชัยเหนือ "เดอะ รอยัลส์" เร้ดดิ้ง ไปแบบหืดขึ้นคอ 2-1 ส่งผลให้ผีแดงเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเปิดรังรอพบกับผู้ชนะระหว่าง มิดเดิ้ลสโบรช์ หรือ เชลซี ต่อไป ในศึกฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ (รอบ 5 ฤดูกาล 2012-13) เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ

(รอบ 5 ฤดูกาล 2012-13)

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556

แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ ลีก) 2   -   1 เร้ดดิ้ง (พรีเมียร์ ลีก)

สนาม: โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, แมนเชสเตอร์, อังกฤษ

        "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ทำการพักผู้เล่นชั้นนำอย่าง เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่ง และ ปาทริซ เอวร่า แบ็คซ้ายตัวหลักเอาไว้ ส่วน พอล สโคลส์ กองกลางจอมเก๋าชวดบู๊เพราะเจ็บหัวเข่า

        นอกจากนั้นยังใส่ชื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงสูงสุดของทีมชาวดัตซ์ และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังคนสำคัญ เป็นแค่ตัวสำรอง

        คู่หน้าวาง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" ดาวยิงเลือดเม็กซิกัน พร้อมได้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ แอชลี่ย์ ยัง ทำเกมตามริมเส้น โดยมี ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ กับ อันแดร์สัน คุมเกมตรงกลาง

        ทางด้าน "เดอะ รอยัลส์" เร้ดดิ้ง ผู้มาเยือนจัดผู้เล่นชุดใหญ่มาทำศึก มี โนเอล ฮันท์ กับ อดัม เลอ ฟอนเดร ยืนเป็นคู่หน้า

        เกมนี้มี โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชของวีแกน แอธเลติก เข้ามานั่งชมเกมอยู่บนอัฒจันทน์ด้วย เพราะ วีแกน มีโปรแกรมบุกไปเยือน เร้ดดิ้ง ในพรีเมียร์ ลีก วันเสาร์ที่ 23 ก.พ. นี้ เลยมาซุ่มดูฟอร์ม "เดอะ รอยัลส์" ไว้ก่อน

        ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 2 นาที แมนฯยูไนเต็ด ได้โอกาสทันที ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" กองหน้าดีกรีทีมชาติเม็กซิโก โยกหลอกกองหลังก่อนจะซัดไปติดกองหลังของเร้ดดิ้งที่ลงมาช่วยคุมหน้าปากประตู บอลมาทาง แดนนี่ เวลเบ็ค ตามซ้ำโดนไม่เต็มปลิ้นมาทาง อันโตนิโอ วาเลนเซีย โหม่งโดนไม่ดีบอลไม่มีน้ำหนักเข้ามือของ อดัม เฟเดริซี่ นายทวารเร้ดดิ้ง

        สามนาทีต่อมา เจ้าบ้านบดต่อ แอชลี่ย์ ยัง เปิดบอลให้กับ แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงไปติดบล็อคของ อดัม เฟเดริซี่ นายทวารเร้ดดิ้ง อีกแล้ว

        ถึงนาทีที่ 11 เกมต้องหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจาก โนเอล ฮันท์ หัวหอกของเร้ดดิ้ง ขึ้นโหม่งปะทะกับ เนมานย่า วิดิช กองหลังของแมนฯยูไนเต็ด จนบาดเจ็บทั้งคู่ ในรายของ ฮันท์ หัวแตกบริเวณกลางศีรษะ เลือดอาบ ส่วน วิดิช มีรอยปริแตกที่เหนือคิ้วซ้ายจนต้องปฐมพยาบาลห้ามเลือดกันซักพัก ทาง โนเอล ฮันท์ ของทีมเยือนถึงขนาดต้องเปลี่ยนเสื้อใหม่กันเลยทีเดียว เพราะเลือดเลอะเปรอะประเต็มไปหมด ก่อนที่ ฮันท์ จะขออนุญาติลงสนาม เมื่อทำการเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว

        ผ่านมา 22 นาที แมนฯยูไนเต็ด ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ กองกลางดาวโรจน์สับไกด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลพุ่งเข้ากรอบน่ากลัว อดัม เฟเดริซี่ นายทวารเร้ดดิ้งพุ่งปัดไว้บอลมาทาง แอชลี่ย์ ยัง ตามซ้ำ แต่ เฟเดริซี่ ปิดมุมไว้ดีปัดออกหลังไปได้

        นาทีเดียวกันนั้น โนเอล ฮันท์ หัวหอกของเร้ดดิ้งต้องออกไปเปลี่ยนเสื้อเป็นตัวที่สาม เนื่องจากเลือดยังไหลมาเลอะเสื้ออยู่ตลอด

        เร้ดดิ้ง มาได้ลุ้นบ้าง แกราธ แม็คเคลียรี่ ลากบอลจากทางขวาเข้ากลางก่อนยิงจากนอกเขตบอลข้ามคานไปไกลในนาทีที่ 29

        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 39 ฟิล โจนส์ ปาราการหลังของแมนฯยูไนเต็ด
มีอาการบาดเจ็บข้อเท้าขวาจากการปะทะกับผู้เล่นของเร้ดดิ้ง ปฐมพยาบาลครู่หนึ่งเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนออกให้ นานี่ ลงมาแทน พร้อมปรับตำแหน่งการยืนให้ คริส สมอลลิ่ง หุบมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ วิดิช แล้วถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย มายืนแบ็คขวา ให้ นานี่ ลงเล่นตัวริมเส้นทางขวาแทน

        ก่อนหมดครึ่งแรกแค่นาทีเดียว เร้ดดิ้ง ได้ลุ้นจากจังหวะที่ อดัม เลอ ฟอนเดร รับบอลจาก แกราธ แม็คเคลียรี่ ก่อนกดด้วยซ้ายจากนอกกรอบ ดาบิด เด เคอา นายทวารปีศาจแดง บินรับติดมือ

        ช่วงทดเจ็บนาทีแรก แมนฯยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูขึ้นนำจริงๆ เมื่อ แดนนี่ เวลเบ็ค เปิดจากกราบขวาเข้ากลางประตู ฌอน มอร์ริสัน กองหลังเร้ดดิ้ง สกัดไม่ดีเข้าทาง นานี่ วอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับบอลพุ่งแรงไปกระแทกเสาโครมเบ้อเริ่มกระดอนออกมา

        จากนั้นเจ้าบ้านยังได้โอกาสอีกครั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไหลให้กับ นานี่ ล็อคแล้วปั่นด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษเล่นเอา อดัม เฟเดริซี่ นายทวารเร้ดดิ้ง ต้องบินปัดออกหลังไปอย่างหวุดหวิด หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

        มาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ปีศาจแดง พยายามบุกมีโอกาสในนาทีที่ 51 เมื่อ นานี่ ลองซัดไกลจากระยะ 40 หลา แต่บอลเบาหวิว อดัม เฟเดริซี่ นายทวารของเร้ดดิ้งรับไว้ได้สบาย

        หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน แมนฯยูไนเต็ด มีโอกาสอีกจากจังหวะที่ อันแดร์สัน ลากทะลุมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนซัดด้วยขวามุมแคบ แต่ อดัม เฟเดริซี่ วันนี้หนึบเหลือเกินปัดทิ้งออกหลังไปได้อีกครั้ง

        มาถึงนาทีที่ 63 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของแมนฯยูไนเต็ด ทนไม่ไหวแล้วส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงพระกาฬของทีมลงมากระซวกตาข่ายแล้วถอด แอชลี่ย์ ยัง ที่เพิ่งหายเจ็บหัวเข่าออกมาพัก ส่วน เร้ดดิ้ง เปลี่ยนให้ แดนนี่ กัทธรี ลงมาเล่นในแดนกลางแทน มิเคเล่ ไลเกิร์ตวู้ด

        หลังจากบดอยู่นาน แมนฯยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 69 จากจังหวะที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เปิดเรียดจากขวาเข้ามาในเขตโทษให้กับ นานี่ จับด้วยซ้ายแล้ววอลเลย์ด้วยขวาส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาดให้ ปีศาจแดง นำก่อน 1-0

        นาทีต่อมา เร้ดดิ้ง เกือบได้คืน เมื่อ โนเอล ฮันท์ โหม่งตั้งให้กับ อดัม เลอ ฟอนเดร ซัดเต็มๆแต่ไม่ผ่านการเซฟของ ดาบิด เด เคอา นายทวารแมนฯยูไนเต็ด พอบอลมาถึง ฮันท์ จะซ้ำอีกที แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้า ฮันท์ แล้ว

     นาทีที่ 72 เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ นานี่ โยนจากขวามาเสาแรกให้กับ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" โฉบมาขวิดบอลเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงามให้ แมนฯยูไนเต็ด หนีไปเป็น 2-0 แล้ว

        ท้ายเกมนาทีที่ 82 เร้ดดิ้ง ไล่ขึ้นมา 1-2 จากจังหวะที่ วิดิช กองหลังแมนฯยูไนเต็ด สกัดไม่ดีบอลมาเข้าทางของ โจบี้ แม็คอนั๊ฟฟ์ จับบอลได้ก่อนแต่งไปยิงด้วยซ้ายเสียบตาข่าย

        ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ เร้ดดิ้ง ไปได้ 2-1 ตบเท้าเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ ไปเปิดรังรอพบกับผู้ชนะระหว่าง มิดเดิ้ลสโบรช์ หรือ เชลซี ต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        แมนฯยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา - คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์ (นานี่ น.41), เนมานย่า วิดิช, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์ - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, อันแดร์สัน, แอชลี่ย์ ยัง (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.63) - แดนนี่ เวลเบ็ค, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้"

        สำรอง: อันเดอร์ส ลินเดการ์ด (ผู้รักษาประตู) - ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิล คาร์ริค, ชินจิ คางาวะ

        เร้ดดิ้ง: อดัม เฟเดริซี่ - สตีเฟ่น เคลลี่, อาเดรียน มาริอั๊ปป้า, ฌอน มอร์ริสัน, นิคกี้ ชอรี่ย์ - แกราธ แม็คเคลียรี่ (ฮัล ร็อบสัน-คานู น.69), มิเคเล่ ไลเกิร์ตวู้ด (แดนนี่ กัทธรี น.63), เจม คาราซาน, โจบี้ แม็คอนั๊ฟฟ์ - โนเอล ฮันท์, อดัม เลอ ฟอนเดร

        สำรอง: มิคเคล อันเดอร์เซ่น (ผู้รักษาประตู) - คริส กันเตอร์, อเล็กซ์ เพียร์ซ, พาเวล โปเกร็บเนี๊ยค, ดาเนี่ยล คาร์ริโซ่

        ผู้ตัดสิน: อังเดร มาร์ริเนอร์