ทีมเซาะกราว จะต้องบุกไปเยือนเซนได ภายใต้สภาพอากาศที่หนาวเหน็บโดยทั้งสองฝ่ายต่างหวังที่จะเก็บสามคะแนนเพื่อประเดิมชัยในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก

สไตล์การเล่นของเซนไดเน้นไปที่การโจมตีอย่างรวดเร็วจากทางด้านข้าง และเพรสซิ่ง โดยในช่วงที่ผ่านมา ทีมจากญี่ปุ่นพยายามฝึกซ้อมรูปแบบนี้อย่างหนัก และในแมตช์ปรีซีซั่น พวกเขาก็ได้ทดลองการเล่นนี้รูปแบบมาแล้ว แต่ก็ยังพ่ายต่ออูลซาน

ช่วงที่ผ่านมาเซนไดต้องเสียผู้เล่นมากมายไปเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ข่าวดีคือทีมยังมีผู้เล่นเยาวชนขึ้นมาทดแทนได้ นอกจากนี้ผู้จัดการทีมยังมีอิทธิพลต่อนักเตะมาก

ปัจจุบันแผงหลังของทีมเจ้าบ้านยังมีหลายตัวที่น่าจะยังไม่สามารถลงสนามในเกมนี้ เริ่มที่ อูเอโมโต้ ที่ต้องปิดเทอมยาวไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วน คามาตะ และ ซูกาอิ ยังต้องเก็บตัวฝึกซ้อมแบบพิเศษ

อีกเรื่องที่น่ากังวลคือสภาพอากาศ พวกเขาไม่ได้ลงซ้อมแบบเต็มที่เท่าที่ควร เพราะหิมะตกหนัก และทางผู้จัดการทีมรวมถึงแฟนบอลได้พยายามช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ด้วยการเอาหิมะออกประมาณครึ่งสนามเพื่อให้ทีมฝึกซ้อมได้ รวมถึงยังช่วยจัดการเคลียร์สนามฝึกซ้อมให้กับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย

เกมการแข่งขันระหว่างเวกัตตะ เซนได และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจจะต้องระเบิดศึกกันท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นปกคลุมไปด้วยหิมะก็เป็นได้

ทัพ "เซราะกราว" จะลงประเดิมสนามนัดแรกโดยการบุกไปเยือนเวกัลตะ เซนไดก่อน พวกเขาเดินทางไปด้วยสภาพอิดโรยเนื่องจากเพิ่งผ่านเกม "ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก." ไปหมาดๆ

แถมยังต้องพบกับฝันร้ายลำดับที่สองคือสภาพอากาศที่เซนไดยังหนาวเหน็บสุดขั้ว ทั้งเมืองเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้ผู้เล่นโดยเฉพาะนักเตะไทยพันธ์ร็อคเซราะกราวทั้งหลาย อาจเกิดอาการขาแข็งขึ้นมาได้ ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นแล้วกับยอดทีมอย่างชลบุรี เอฟซี ที่บุกไปเจออากาศติดลบกันที่โปฮัง ประเทศเกาหลีใน ACL เพลย์ออฟปีที่แล้ว ผลคือพ่ายไปอย่างราบคาบ 0-2

ในขณะที่เวกัลตะฯ จะได้เปรียบสุดๆ ในทุกๆ ทาง เกมที่หินระดับ 8 ดาวครั้งนี้ เห็นทีบุรีรัมย์ฯ อาจจะต้องพึ่งดวงมากกว่าที่คิด