ราฟาเอล นาดาล ยอดนักหวดลูกสักหลาดจากเมืองกระทิง เปิดเผยว่าเขาตัดสินใจเปลี่ยนเกมของตัวเองจากที่เร่งรีบเกินไปในช่วงต้นจนเสียเซตแรก ก่อนทุบ ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร คู่ปรับอาร์เจนไตน์ 2-1 เซต คว้าแชมป์เอทีพี มาสเตอร์ส รายการที่ 22 ของตัวเองได้แบบหืดจับในศึกบีเอ็นพี ปาริบาส โอเพ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
           
ราฟาเอล นาดาล แร็กเกตชาวสแปนิช ยอมรับว่าเขาออกสตาร์ตด้วยความดุดันมากเกินไป ก่อนจะพยายามปรับเกมของตัวเองให้ช้าลง ก่อนพลิกกลับมาชนะ 2 เซตตัดสินเหนือฮวน มาร์ติน เดล โปโตร นักหวดจากอาร์เจนติน่า 2-1 เซต 4-6, 6-3, 6-4 ในศึกเทนนิส เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ และ ดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ รายการ บีเอ็นพี ปาริบาส โอเพ่น รอบชิงชนะเลิศ ที่เมืองอินเดียน เวลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา
 
นาดาล ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บหัวเข่าซ้ายนานกว่า 7 เดือนเมื่อปีก่อน โดยเขาสามารถปราบนักหวดอาร์เจนไตน์ พร้อมคว้าแชมป์เอทีพี มาสเตอร์ส สมัยที่ 22 ได้สำเร็จ ทั้งที่โดนไล่หวดแพ้ไปก่อนในเซตแรก ก่อนพลิกกลับมาเก็บ 2 เซตรวดในช่วงท้าย
 
แชมป์แกรนด์สแลม 11 สมัย ให้สัมภาษณ์หลังจากรับแชมป์ว่า "ผมเริ่มต้นเกมได้อย่างสุดยอด จากนั้น เดล โปโตรเริ่มเล่นด้วยความดุดันมากกว่าเดิม ตามความเห็นของผมนั้น ผมพยายามเปลี่ยนบอลโฟร์แฮนด์ของเขาเร็วเกินไป ผมเร่งเกมของตัวเองมากเกินไป เมื่อผมสามารถทำให้ตัวเองสงบลงได้แล้ว ผมก็เริ่มเล่นได้ดีขึ้น ผมเริ่มต้นเล่นช้าลงเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวของผมนั้นน่าเหลือเชื่อมากๆ จากนั้นผมก็มีแมตช์ที่แสนวิเศษ"
 
ทั้งนี้ นาดาลคว้าแชมป์ชายเดี่ยวเอทีพี ทัวร์ เป็นรายการที่ 53 ของตัวเอง และเป็นแชมป์รายการที่ 3 หลังจากผ่านเข้าชิงชนะเลิศ 4 รายการติดต่อกัน รวมถึงยังเป็นการคว้าแชมป์บนฮาร์ดคอร์ตครั้งแรกนับตั้งแต่การเถลิงแชมป์ที่โตเกียว เมื่อปี 2010