''คันหู'' เป็นเหตุ นักร้องสาว ''ตุ๊กตา'' เจ้าของเพลงคันหูพ้อร้องเพลงตนเองแต่โดนจวกยับหาว่าก๊อปปี้เพลงจากสาวเกาสะเด่า ''จ๊ะ คันหู'' รับน้อยใจผู้ใหญ่ไม่ดำเนินเรื่อง บอกปล่อยวางถือว่าให้โอกาสคนอื่นดัง

    กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งกับเรื่องราวของเพลงลูกทุ่งสุดสะเด่าที่มาแรงมากๆ เมื่อช่วงปีที่แล้วอย่างเพลงคันหู ที่เดิมทีเป็นต้นฉบับของนักร้องลูกทุ่งสาว ''ตุ๊กตา'' ศศิกานต์ สุวรรณราช แต่เมื่อเจ้าตัวเองนำมาร้องในงานต่างๆ กลับโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่าก๊อปปี้เพลงของ ''จ๊ะ'' นงผณี มหาดไทย ทั้งที่ตนเป็นต้นฉบับนำมาร้องก่อน ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 56 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เจอสาวตุ๊กตาในงานเปิดร้านทำเล็บของตัวเอง ในชื่อร้าน ''Nail Gallery'' ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามถึงประเด็นข่าวดังกล่าวว่ามีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งด้านเจ้าตัวชี้แจงถึงเรื่องราวตั้งแต่ต้นให้ฟังว่า
     
    ''หนูมีโอกาสได้ทำเพลงกับค่ายเพลงหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว มีช่วงนึงที่จ๊ะเอามาร้อง แต่ช่วงนั้นกระแสยังไม่ดังมาก เราก็หยิบเอาเพลงนี้มาทำเพราะเราก็เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง และทำถูกต้องตามกฎหมาย ก็มีหนูและลูกตาลนางเอกภาพยนตร์เรื่องบ้านผีเปิบมาทำเพลงด้วยกัน จนวันก่อนที่ปล่อยเพลง วู้ดดี้ก็เชิญจ๊ะไปออกรายการเพราะช่วงนั้นจ๊ะก็เริ่มกระแสมาแล้ว เราก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาเวอร์ชั่นของเราไปร้อง อาจจะเป็นผู้ใหญ่ให้ไปหรือเปล่า เราก็ไม่ทราบตรงนั้น กลายเป็นว่าวันนั้นที่เขาไปออกรายการเขาก็เอาเวอร์ชั่นเราไปร้อง ซึ่งมันยังไม่ได้โปรโมตแต่ก็มีปล่อยตามคลื่นวิทยุแล้ว และกำลังจะปล่อยเอ็มวีด้วย พอเขาเอาไปร้องในการวู้ดดี้ เขาก็ไม่ได้ให้เครดิตเรา กลายเป็นว่าพอเวอร์ชั่นของเราออกปั๊บก็โดนด่าเยอะมาก เขาคิดว่าเราไปก๊อบปี้เขา พูดถึงถ้าเปิดคาราโอเกะหรือตามห้องอาหาร แผ่นซีดีที่วางขายก็เป็นเอ็มวีขอหนู แต่คนจะไม่รู้จักเรา''
     
    ต่อข้อสอบถามถึงการนำเพลงไปร้องและทำใหม่นั้นได้ยกไปทั้งเนื้อร้องและทำนองเลยหรือไม่ สาวตุ๊กตาก็กล่าวต่อในทันทีว่า
     
    ''ค่ะ ลองไปเปิดรายการวู้ดดี้ดู ขนาดเสียงแบ็กกิ้งแทร็กก็ยังมีเสียงเราอยู่ เราก็รู้สึกแย่ คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่โต พอเราได้อ่านกระทู้ กลายเป็นว่าเขามาด่าเราเสียหาย หยาบคาย จนหนูร้องไห้เลยนะ ในเมื่อมันเป็นของเราแล้วทำไมทุกคิดว่าเราไปก๊อบปี้เขามา ซึ่งเราเองก็มีการพูดคุย ทีแรกเขาก็จะทำเรื่องฟ้องแต่ก็หายกันไป ไม่ได้ติดตาม หนูเองเป็นแค่ศิลปินนำเพลงมาเผยแพร่ถ้าเขาจะมีปัญหาฟ้องร้องกันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่ต้องไปคุยกันเอง''
     
    จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าด้านสาวจ๊ะนั้นทราบหรือไม่ว่าเพลงนี้เป็นเพลงของตนมาก่อน ด้านสาวตุ๊กตาก็ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ต่อว่า
     
    ''เขาน่าจะรู้อยู่แล้วค่ะ ประมาณว่าเอาเพลงนี้ไปให้จ๊ะร้องเพลงให้เครดิตศิลปินใหม่ด้วยนะ แต่วันนั้นบังเอิญว่าอาจจะยังไม่มีการพูดคุย ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ตกลงแล้วอาจจะไม่อยากให้เป็นเรื่องแล้วก็คงเงียบกันไปค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ก็ขอบคุณครั้งนึงที่ให้โอกาส ดังหรือไม่ดังก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าถามในส่วนตัวหนูว่าเสียดายไหมก็บอกเลยว่านิดนึง อย่างที่บอกเพลงลูกทุ่งถ้ามันดังเพลงนึงก็หากินได้ตลอด บังเอิญว่าเราได้โอกาสแต่ผิดจังหวะเท่านั้นเอง เรื่องนี้ผ่านมาปีกว่าแล้ว รู้จักหรือไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร แต่ก็มีพี่ชายแฮ็คส์ให้โอกาสมาเล่นละคร เราทำงานตรงนี้ไปมันก็สนุกดี แต่เวลาที่เราไปร้องตามที่ต่างๆ เวลาโชว์ตัวหนูก็กล้าพูดว่าเพลงนี้เป็นเพลงของหนู โอเคหลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักแต่ก็ไม่เป็นไร แต่เราก็ภูมิใจว่าเพลงนี้เราเป็นคนร้อง มันคือเสียงของเรา มันคือดนตรีที่เขาแต่งให้เราค่ะ อย่างที่บอกตัวหนูเป็นแค่สื่อๆ นึง ส่วนคนที่เขาจะเป็นคนดูแล ป้องกันก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่เข้ามาซัพพอร์ตเรา เราเองก็มีน้อยใจทางผู้ใหญ่บ้างนิดนึง เหมือนกับว่าเขาก็ไม่ได้ไฟต์อะไรให้เรา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่เข้าใจเขาคงมีเหตุผลเหมือนกัน เขาอาจจะอยากทำให้เราแหละแต่มันคงมีเรื่องของผลประโยชน์และอะไรหลายๆ อย่าง''
     
    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าอยากจะฝากอะไรถึงสาวจ๊ะบ้างหรือไม่กับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวยิ้มก่อนให้คำตอบเพียงสั้นๆ ว่า
     
    ''ไม่ได้อยากบอกอะไร ถ้าอะไรที่มันเป็นของคนอื่นก็ควรจะให้เคารพหรือสิทธิของเขานิดนึง เวลาหนูร้องเพลงใครก็จะบอกว่าเพลงนี้เป็นของวงนี้นะ เราก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย อย่างน้อยเราก็ยังรู้สึกดีที่มีคนเอาไปร้องแล้วเขารู้จักเพลงของเรานะ'' ตุ๊กตากล่าว