สนาม : ซาน ซิโร่

        เกมบิ๊กแมตช์ เพื่อชิงอันดับ 2 ของตาราง เอซี มิลาน เจอศึกหนักกับ นาโปลี เจ้าถิ่นต้องปราศจาก มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ติดโทษแบน ทำให้ต้องปรับแนวรุกด้วยการใช้ เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง, จามเปาโล ปาซซินี่ และ โรบินโญ่ ส่วนทีมเยือนมาแบบเต็มสูบ นำโดย มาเร็ค ฮัมซิค; โกรัน ปานเดฟ และ เอดินสัน คาวานี่

        เริ่มมา "ปีศาจแดง-ดำ" ได้ลุ้นทันที บัวเต็ง ส่องไกลแฉลบ เปาโล คันนาวาโร่ เปลี่ยนทาง แต่ มอร์แกน เด ซานช์ติส ยังไวกลับมาปัดได้หวุดหวิด

        เจ้าบ้านยังเดินเกมต่อเนื่อง ซัลลีย์ มุนตารี่ ซัดนอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบ อูโก้ คัมปันญาโร่ ก่อนที่ เด ซานช์ติส จะรับเข้าซองสบาย

        นาทีที่ 13 เกวิน กงสต็องต์ แย่งบอลได้แล้วเปิดทันทีให้ บัวเต็ง ชาร์จที่เสาสองหลุดไปไม่มาก

        มิลาน มาได้ลูกเตะมุม โรบินโญ่ เขี่ยให้ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ โยนไปเสาไกล คริสเตียน ซาปาต้า โหม่งตั้งให้ ปาซซินี่ พยายามชาร์จ ทว่า เด ซานช์ติส ยังพุ่งออกมาบล็อกเร็ว

        ความพยายามของ "รอสโซเนรี่" มาเป็นผลในนาทีที่ 30 จากการทำชิ่งกันสวย บัวเต็ง จ่ายให้ โรบินโญ่ เบิ้ลต่อไปยัง ปาซซินี่ แต่มี มิเกล บริตอส ที่แหย่สกัดไปเข้าทาง มาติเยอ ฟลามินี่ วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 20 หลา บอลพุ่งเรียดเสียบตาข่าย ขึ้นนำ 1-0

        อย่างไรก็ตาม ผู้มาเยือนตีเสมอเป็น 1-1 ในอีกเพียง 3 นาทีต่อมา เมื่อ ฮวน ซูนิก้า จ่ายให้ ฮัมซิค ปาดกลับเข้ากลาง ปานเดฟ จับหนึ่งจังหวะแล้วจิ้มจ่อๆ ไม่เหลือ

        เจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนตัวคนแรกในนาทีที่ 36 หลัง บัวเต็ง มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ส่ง เอ็มบาย เนียง ลงเล่นแทน

        ท้ายครึ่งแรก คันนาวาโร่ วางยาวให้ คาวานี่ เกี่ยวเอาบอลลงได้สวยในกรอบเขตโทษ ก่อนกระดกไปติดมือ คริสเตียน อับเบียติ หวุดหวิด จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อน 1-1

        เปิดฉากครึ่งหลัง ปานเดฟ ได้จังหวะกระหน่ำด้วยซ้ายเต็มข้อจากระยะประมาณ 25 หลา บอลไปตรงตัว อับเบียติ รับเข้าซองไม่กระฉอก

        ถัดมาไม่นาน โรบินโญ่ ตอกส้นให้ ฟลามินี่ กดด้วยขวา หนนี้ เด ซานช์ติส ป้องกันไว้ได้ไม่มีปัญหา

        มิลาน ต้องมาเหลือ 10 คนในนาทีที่ 72 หลัง ฟลามินี่ ไปเสียบหนักใส่ ฮวน ซูนิก้า ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

        ช่วงเวลาที่เหลือพลพรรค "อัซซูร์ร่า" อาศัยตัวผู้เล่นที่มากกว่าโหมบุกหวังเอาประตูชัยให้ได้ แต่แนวรับเจ้าบ้านยังช่วยกันสกัดไว้ได้หมด จบเกมทั้งสองทีมจึงเสมอ 1-1 ทำให้ นาโปลี ยังนำ มิลาน อยู่ 4 คะแนนเท่าเดิม

        มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ; อินยาซิโอ อบาเต้ (มัตเตีย เด ชิโญ่ น.86), คริสเตียน ซาปาต้า, ฟิลิปป์ เม็กแซส, เกวิน กงสต็องต์; มาติเยอ ฟลามินี่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่, ซัลลีย์ มุนตารี่; เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง (เอ็มบาย เนียง น.36), จามเปาโล ปาซซินี่, โรบินโญ่ (สเตฟาน เอล ชาราวี น.74)

        นาโปลี : มอร์แกน เด ซานช์ติส; อูโก้ คัมปันญาโร่, เปาโล คันนาวาโร่, มิเกล บริตอส; คริสเตียน มาจโจ้ (เอมานูเอเล่ คาลาโย่ น.82), วาลอน เบห์รามี่, เบลริม เซมายลี่, ฮวน ซูนิก้า; มาเร็ค ฮัมซิค (ปาโบล อาร์เมโร่ น.70); โกรัน ปานเดฟ (ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ น.67), เอดินสัน คาวานี่

 

 

กายารี่ 2   -   0 อินเตอร์ มิลาน

 

สนาม : เนเรโอ ร็อคโค่


         อินเตอร์ มิลาน ที่ยังแอบลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ บุกเยือน กายารี่ โดยที่ อันเดรีย สตรามัชโชนี่ ต้องปรับทัพเยอะเมื่อนักเตะเจ็บกันบาน แถม เอเซเกล สเคล็อตโต้ ติดแบน ยังดีได้ วอลเตอร์ การ์กาโน่ พ้นแบนกลับมา หน้าสุดใช้ ตอมมาโซ่ ร็อคคี่ เพราะหัวหอกที่เหลือเดี้ยงหมด


          ส่วน เจ้าถิ่นไม่มี รัดย่า เนียงโกลัน ที่ติดแบน แต่ได้ นิโกล่า มูร์รู และ อันเดรีย คอสซู พ้นแบนสวนกลับมา ข้างหน้าใช้ ติอาโก้ ริเบยโร่ ยืนกับ วิกเตอร์ อิบาร์โบ


          ช่วงต้นเกมยังสูสี อินเตอร์ ครองบอลมากกว่าเล็กน้อย แต่ไม่อาจหาโอกาสจะแจ้งอะไรได้ตลอด 10 นาทีแรก โดยนาทีที่ 7 กายารี่ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกแล้ว อันเดรีย คอสซู บาดเจ็บถูกถอดออกให้ มาติอัส กาเบร่า ลงไปแทน 


          แต่ นาทีที่ 13 น่าเป็นประตูนำของ อินเตอร์ อย่างยิ่ง เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ เล่นชิ่งเบสิกวันทูกับเพื่อนจนหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับนายประตู ไมเคิ่ล อากัซซี่ และชิปข้ามไปแล้ว ทว่าบอลกลับชนเสาเด้งออกมา


          เกม ของ อินเตอร์ เริ่มกุมความได้เปรียบ ครองบอลรุกไล่ฝ่ายเดียวหลังจากนั้น ทว่าเกือบเป็น กายารี่ ที่ได้เฮในนาที 35  บอลปาดเข้ามาบนเส้นกรอบหกหลา วิกเตอร์ อิบาร์โบ เข้าชาร์จหลุดเสาออกไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ 


          ทีมงูใหญ่ครองบอลได้มากกว่าในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่โอกาสลุ้นสกอร์ก็ยังหาไม่มี จนหมดไปก่อนยัง 0-0


          ต่อ ครึ่งหลังนาที 52 อินเตอร์ น่าได้อีกครั้ง เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ทะลุเข้าไปส่องเต็มเท้าโล่งๆ ระยะ 10 หลา บอลพุ่งแรงแต่ยังติดซูเปอร์เซฟ ไมเคิ่ล อากัซซี่ และ สตรามัชโชนี่ ก็เปลี่ยนตัวแก้เกมทันที ส่ง ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช ลงไปเติมเกมแทน วอลเตอร์ การ์กาโน่


          นาที 62 ริคาร์โด้ อัลวาเรซ ได้ตั้งป้อมซัดหน้าเขตโทษ ก็บานออกข้างเสาไปอีก


          สถานการณ์ พลิกผันกลายเป็น กายารี่ มาได้จุดโทษในนาทีต่อมา เมาริซิโอ ปินิย่า ลุยเข้าไปชนกับ มาติอัส ซิลเวสเตร จนล้มลง และผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษท่ามกลางการประท้วงของแฟนทีมเยือน ซึ่ง เมาริซิโอ ปินิย่า ก็รับหน้าที่กดเข้าตุงตาข่ายไม่เหลือ 1-0 ของเจ้าถิ่น


          จังหวะ จบถัดมายังเป็นของทีมชาวเกาะ บอลเปิดจากข้างเข้าใน ติอาโก้ ริเบยโร่ ขึ้นโหม่งที่ระยะ 10 หลา ตรงตัว ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช นาที 70


          แล้ว ก็เป็น กายารี่ ที่ทิ้งเป็น 2-0 ในนาที 74 บอลชิ่งกันสวย 2-3 ทอดจนทะลุเข้าเขตโทษทางขวา เมาริซิโอ ปินิย่า ดีดสวนตัว ฮันดาโนวิช เสียบใต้คานง่ายๆ 


          อินเตอร์ พยายามโถมเกมรุกสุดตัวในช่วงที่เหลืออยู่ ทว่าก็ฉวยโอกาสที่มีไม่สำเร็จ เกมจึงจบไปที่ กายารี่ กินนิ่ม 2-0

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

 กายารี่: ไมเคิ่ล อากัซซี่; กาบริเอเล่ เปริโก้, ลูก้า รอสเซ็ตตินี่, ดาวิเด้ อัสตอรี่, นิโกล่า มูร์รู; ดานิเอเล่ เดสเซน่า, ดานิเอเล่ คอนติ, อัลบิน เอ็คดัล; อันเดรีย คอสซู; ติอาโก้ ริเบยโร่, วิกเตอร์ อิบาร์โบ

 อินเตอร์: ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช; อัลวาโร่ เปเรยร่า, มาติอัส ซิลเวสเตร, ฮวน เฮซุส; ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่, มาเตโอ โควาซิช, วอลเตอร์ การ์กาโน่; ริคาร์โด้ อัลวาเรซ, เฟรดี้ กัวริน; ตอมมาโซ่ ร็อคคี่