โกรธจนไม่ยอมเผาผี ! จอห์น เทอร์รี่ กองหลังจอมแกร่ง เชลซี รับตนเมินที่จะจับมือและพูดคุยกับ เดวิด เบิร์นสไตน์ บิ๊กบริการสมาคมลูกหนังเมืองผู้ดี ในงานพิธีส่งคืนโทรฟี่บิ๊กเอียร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังยังเคืองที่คู่กรณีเป็นตัวการสำคัญที่ถอดเขาออกจากตำแหน่งกัปตันทัพ "สิงโตคำราม" และสั่งแบนยาว 4 เกม ด้าน หัวเรือใหญ่เอฟเอ ทำตีมึนบอกไม่เห็นกรณีดังกล่าวเลย

จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม เชลซี สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยอมรับตนปฏิเสที่จะจับมือกับ เดวิด เบิร์นสไตน์ ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ระหว่างที่ร่วมงานพิธีการส่งคืนถ้วยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา
 
เบิร์นสไตน์ กล่าวทักทายกับนักเตะคนอื่นๆ ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ขณะที่ร่วมงานพิธีดังกล่าวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่สนามเวมบลีย์ ในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ "เจที" เมินเฉยที่จะจับมือ และพูดคุยกับ หัวเรือใหญ่วงการลูกหนังเมืองผู้ดี
 
เหตุที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นตอนที่ เบิร์นสไตน์ ถอด เทอร์รี่ ออกจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เมื่อปีที่แล้ว จากกรณีที่โดนกล่าวอ้างว่าพูดจาเหยียดผิว แอนทอน เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟเพื่อนร่วมชาติ ในเกมลีกที่ เชลซี พบ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ที่สำคัญเหตุการณ์ครั้งนั้น ฟาบิโอ คาเปลโล่ ถึงขนาดลงทุนลาออกจากการกุมบังเหียนทัพ "สิงโตคำราม" เพื่อปกป้อง "เจที" เลยทีเดียว
 
นอกจากนี้ เทอร์รี่ ยังไม่พอใจที่ เบิร์นสไตน์ เคยวิจารณ์เขาระหว่างที่ขึ้นให้การในชั้นศาลจากคดีดังกล่าว แม้ศาลจะตัดสินให้เขาเป็นผู้บริสุทธ์ แต่ เอฟเอ กลับไม่หยุดโดยจัดการสั่งแบน 4 เกม โดยจากคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ เบิร์นสไตน์ รวมทั้งหากต้องจับมือกับ บิ๊กบริหารเอฟเอ เรื่องนี้ เทอร์รี่ แสดงความเห็นว่า "ฟังนะไม่มีทาง มันเป็นหนึ่งในเรื่องที่ยากมากสำหรับผม แน่นอนว่าเขาเคยพูดถึงผมในศาล และผมไม่อยากคุยกับเขา"
 
ขณะเดียวกับ เบิร์นสไตน์ ยืนยันเขาไม่รู้ว่า อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เมินที่จะจับมือด้วย "ผมไม่ได้สังเกตอะไรเลย ความสัมพันธ์ของผมกับทุกๆ คนที่นี่ดีเยี่ยม ผมไม่ได้สังเกตอะไรทั้งนั้น และผมคิดว่าเราน่าจะคุยเกี่ยวกับเรื่องดีๆ มากกว่าเรื่องไร้สาระ"
 
ส่วนคำถามที่ว่า เทอร์รี่ ไม่พอใจตัวเขา เรื่องนี้ เบิร์นสไตน์ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า "ผมไม่ได้กังวลใจอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่ต้องคิด ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผมมีสิ่งอื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องพวกนี้ซะอีก"