ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » เลวานดอฟสกี้เหมา4!เสือเหลืองถล่มชุดขาว4-1

เลวานดอฟสกี้เหมา4!เสือเหลืองถล่มชุดขาว4-1

Posted 25/04/2013 by siamsport

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ระเบิดฟอร์มเก่งเหมาคนเดียว 4 ลูก พาทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดรังถล่ม เรอัล มาดริด 4-1 ยังต้องไปลุ้นกันต่อนัดสองที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว วันอังคารที่ 30 เมษายน นี้ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 24 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา

 

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

วันพุธที่ 24 เมษายน 2556

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) 4 - 1 เรอัล มาดริด (สเปน)
 


ผู้ชม : 85,522 คน
สนาม : บีวีบี สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ (ดอร์ทมุนด์, เยอรมัน)

 
        โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูงบุนเดสลีกา เยอรมัน เปิดบีวีบี สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์ ปะทะ เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลา ลีกา สเปน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
  
        เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ได้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ที่ยิงตลอด 12 เกมหลังสุดหายเจ็บกล้ามเนื้อช้ำ ลงสนามทันเวลา
 
        ส่วน โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเรอัล มาดริดขาด อัลบาโร่ อาร์เบลัว วิงแบ็กกราบขวาที่ติดโทษแบน แต่ ดีเอโก้ โลเปซ ผู้รักษาประตูหายเจ็บสะโพกคงฟิตลงเฝ้าเสาได้ เกมรุกนำโดย เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้นำดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยิงไปแล้ว 11 ประตูในฤดูกาลนี้ 
 
        ครึ่งแรก นาทีที่ 8 ดอร์ทมุนด์นำ 1-0 อย่างรวดเร็ว อิลคาย กุนโดกัน ทำชิ่งให้ มาริโอ เกิทเซ่ โยนบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายอย่างแม่นยำไปให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงเท้าขวาที่เสาสองระยะ 6 หลาตุงตาข่าย
 
        จากนั้นบอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนาม ผ่านไป 20 นาที ราชันชุดขาวยังทำอะไรไม่ถนัด และมาถึงนาที 26 ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์เรอัลสังหารฟรีคิกเท้าขวาทางฝั่งซ้ายระยะ 25 หลา  โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ นายทวาร กัปตันทีมชกบอลออกไปได้
 
        นาที 41 ราฟาแอล วาราน เซนเตอร์ฮาล์ฟเรอัล มาดริด ทำฟาวล์ มาร์โค รอยส์ ในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน บียอร์น คุยเปอร์ส จากฮอลแลนด์ ไม่ได้เป่าให้ "เสือเหลือง" ได้ลูกจุดโทษแต่อย่างใด
 
        และนาที 43 เรอัล มาดริดโต้กลับเร็วจนได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกทุ่มทางฝั่งขวา ซามี่ เคดิร่าโหม่งบอล มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ สกัดบอลได้แต่ คืนหลังเบา โดน กอนซาโล่ อิกวาอิน แย่งบอลไปได้และจ่ายไปที่เสาสองให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงเผาขนตุงตาข่าย นับเป็นประตูที่ 12 ของเขาในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1
 
        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เจ้าบ้านลงสนามมาอย่างคึกคัก ก่อนมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 51 จากจังหวะที่ มาร์โค รอยส์ วอลเลย์ด้วยขวามาเข้าทางของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จับบอลแล้วพลิกมาสะบัดยิงด้วยขวาเข้ามุมประตูไปให้ ดอร์ทมุนด์ นำ 2-1 และเป็นประตูที่สองของเลวานดอฟสกี้ ในเกมนี้แล้ว ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเรอัล มาดริด ที่มองว่าจังหวะนี้เป็นลูกล้ำหน้า แต่ไม่เป็นผล ซึ่งจากภาพช้าก็ยืนอยู่ในไลน์เดียวกันพอดี
 
        ห้านาทีให้หลัง เสือเหลืองมาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปอีกจากจังหวะที่ มาร์เซล ชเมลเซอร์ ยิงด้วยซ้ายบอลทะลักมาเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกตัวเก่งจับบอลแล้วดึงมาปั่นด้วยขวาเสียบใต้คานเข้าไปให้ดอร์ทมุนด์ นำ 3-1 เป็นแฮททริคของเลวานดอฟสกี้ และเป็นประตูที่ 9 ของเจ้าตัวในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้
 
        เรอัล อยู่ไม่ได้แล้วต้องลุยขึ้นมาบ้าง ลูก้า โมดริช ได้ซัดจากริมกรอบเขตโทษ แต่ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ นายทวารดอร์ทมุนด์ รับไว้ได้ในนาทีที่ 57
 
        กระเถิบมานาทีที่ 62 เสือเหลือง เกือบได้ประตูที่สี่ เมื่อ อิลคาย กุนโดกัน ลากเลื้อยหลบกองหลังเรอัลเข้าไปสามราย ก่อนจะซัดเต็มๆ แต่ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารเรอัล มาดริด ปัดข้ามคานไปได้
 
        อย่างไรก็ตาม เสือเหลือง มาได้ประตูที่สี่จนได้ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ ชาบี อลอนโซ่ กองกลางของราชันชุดขาว ตามมากระแทกหลัง มาร์โค รอยส์ จนร่วงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ ดอร์ทมุนด์ นำขาด 4-1 เป็นประตูที่ 4 ของเจ้าตัวในเกมนี้ อีกทั้งเป็นประตูที่ 10 ของเลวานดอฟสกี้ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้แล้ว
 
        นาทีต่อมา เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา คาริม เบนเซม่า กับ อังเคล ดิ มาเรีย ลงมาเล่นแทน กอนซาโล่ อิกวาอีน และ โมดริช
 
        เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ดอร์ทมุนด์ เปิดรังไล่ถล่ม เรอัล มาดริด 4-1 เก็บความได้เปรียบมหาศาลก่อนบุกไปเยือนซานติอาโก้ เบร์นาเบว ถิ่นของ "ราชันชุดขาว" ในนัดที่สอง วันอังคารที่ 30 เมษายน นี้


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ :
โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ (กัปตันทีม) - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, เนเว่น ซูโบติช,
มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์, อิลคาย กุนโดกัน - ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้, มาริโอ เกิทเซ่, มาร์โค รอยส์ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
สำรอง : มิทเชลล์ ลันเกรัค (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน เคห์ล, โมริทซ์ เล็ตเนอร์, นูริ ซาฮิน, เควิน โกรสส์ครอยท์ซ, ยูเลี่ยน ชีเบอร์, เฟลิเป้ ซานตาน่า

เรอัล มาดริด : ดีเอโก้ โลเปซ - เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), ราฟาแอล วาราน, เปเป้, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ซามี่ เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - เมซุต โอซิล, ลูก้า โมดริช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน
สำรอง : อีเคร์ กาซิยาส (ผู้รักษาประตู), กาก้า, คาริม เบนเซม่า, ราอูล อัลบิโอล, โฆเซ่ กาเยฆอน, อังเคล ดิ มาเรีย, นาโช่

ผู้ตัดสิน : บียอร์น คุยเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »