ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 

                                                              รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี นัดที่ 6

                                                               วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556

                                             เอฟซี โซล (เกาหลีใต้) 2-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย)


        สนาม : โซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม


        การ แข่งขันฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี นัดที่ 6 ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากไทย ยกพลไปเยือน เอฟซี โซล ทีมแกร่งจากเกาหลีใต้ ที่สนามโซล เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม


        ผล งานที่ผ่านมาของทั้งสองทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมแรกบุกไปเสมอ เวกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) 1-1 ก่อนเปิดรังเสมอกับ เอฟซี โซล (เกาหลีใต้) 0-0 เกมที่สามบุกไปพ่าย เจียงซู เซียนตี้ (จีน) 0-2 ต่อมาเปิดรังทุบ เจียงซู เซียนตี้ (จีน) 2-0 และปิดท้ายเปิดรังเสมอกับ เวกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) 1-1


        ด้าน เอฟซี โซล เกมแรกเปิดรังถล่ม เจียงซู เซียนตี้ (จีน) 5-1 ก่อนนัดสองบุกไปเสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) 0-0 เกมสามกลับมาเล่นในถิ่นชนะ เวกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) 2-1 เกมต่อมาบุกไปพ่าย เวกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) 0-1 และปิดท้ายมาบุกไปทุบชนะ เจียงซู เซียนตี้ (จีน) 2-0


        ทำให้สถานการณ์ของกลุ่มเวลานี้ เอฟซี โซล มี 10 แต้มจาก 5 เกม เข้ารอบเป็นที่ 1 ของสายอย่างแน่นอนแล้ว ขณะที่ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมตัวแทนจากประเทศไทย มี 6 คะแนนจาก 5 เกมรั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม เทียบเท่ากับ เวกัลตะ เซนได ทีมแกร่งจากญี่ปุ่นที่ตามมาเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม มีอยู่ 6 คะแนนจาก 5 เกมเช่นกัน แถมประตูได้-เสีย รวมถึงเฮดทูเฮดยังเท่ากันทุกอย่าง เพียงแต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นรองเรื่องของกฎแฟร์เพลย์ที่นับใบเหลือง-แดงที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีมากกว่า ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเก็บชัยชนะในเกมนัดสุดท้ายหรือทำผลงานได้ดีกว่า เวกัลตะ เซนได ถึงจะได้เข้ารอบสอง


        ส่วนความพร้อมในเกมนี้ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม หัวหน้าผู้ฝึกสอนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากไทย ต้องปวดหัวไม่น้อยเมื่อขาดผู้เล่นตัวหลักถึง 5 ราย ไม่ว่าจะเป็น ออสมาร์ อิบันเญส, อนาวิน จูจีน, ชาริล ชัปปุยส์, แอนโทนี เพ็ชร อำไพพิทักษ์วงศ์ และ สุรีย์ สุขะ ทำให้ต้องปรับทีมพอสมควร


        โดยเกมนี้ผู้ รักษาประตูยังเป็น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เกมรับก็จะมี สุรัตน์ สุขะ ที่รับบทเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็น ยืนคู่กับ ธนะศักดิ์ ศรีใส โดยที่แบ็กซ้ายเป็น ธีราทร บุญมาทัน ส่วนแบ็กขวา ประทุม ชูทอง ขณะที่แดนกลางมี จิรวัฒน์ มัครมย์ ทำเกมร่วมกับ เอกชัย สำเร โดยที่ริมเส้นด้านซ้ายก็มี คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ส่วนด้านขวา สุเชาว์ นุชนุ่ม จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมนี้ โดยที่คู่หน้าก็จะเป็น ไค ฮิราโนะ จับคู่กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ล่าตาข่ายให้กับทีม


        ด้าน ซอย ยอง ชู เฮดโค้ชของ เอฟซี โซล มีการปรับทีมพอสมควร โดยพักผู้เล่นตัวหลักไว้หลายรายหลังจากที่ทีมเข้ารอบเป็นที่ 1 อย่างแน่นอนแล้ว เพื่อเก็บไว้ในสุดสัปดาห์ที่จะต้องไปเยือน ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส ในเกมลีกที่ถือเป็นงานหนัก แต่เกมนี้ก็ยังมีตัวหลักอย่าง คิม จี วู, คิม ฮุน ซุง และ โค ควาง มิน นำทัพ

เริ่มเกมมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดฉากบุกใส่ก่อนเลย และได้โอกาสแรกจากลูกโหม่งของ ไค ฮิราโนะ แต่บอลเบาไปเข้ามือของ ยู ซาง ฮุน นายทวารเจ้าถิ่น ในนาทีที่ 5

นาทีที่ 9 เอฟซี โซล เกือบได้ประตูเมื่อ โค ควาง มิน กองหน้าตัวเก่งได้บอลทางกราบขวาก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางสับไกด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งแรงแฉลบ สุรัตน์ สุขะ ที่วันนี้ลงมายืนในแนวรับออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

 คิม ฮุน ซุง ของเอฟซี โซล มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมนี้ ในนาทีที่ 10

 ใบเหลืองต่อมาตกเป็นของ ซอย เฮียว จิน ของเจ้าถิ่นพุ่งเข้าเสียบ ไค ฮิราโนะ อย่างน่าเกลียด ในนาทีที่ 15

ยัง เป็นจังหวะของยอดทีมแดนกิมจิ โค ควาง มิน ได้บอลจากแดนกลางก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้ คิม ฮุน ซุง มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม ตวัดยิงด้วยซ้ายแต่กลับลื่นล้มก่อน บอลเลยแป๊กหลุดเสาสองออกไปอย่างได้เสียว ในนาทีที่ 19

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแรก การครองบอลส่วนใหญ่ยังเป็นของ เอฟซี โซล ที่เดินเกมบุกได้ดีกว่า แต่โอกาสเข้าทำยังไม่มากนัก

นาที ที่ 36 นานๆ ทีจะเป็นทีมเยือนได้ตอยโต้มาบ้าง โดยการขึ้นริมเส้นทางซ้ายของ ธีราทร บุญมาทัน เปิดเข้ามากลางเขตโทษให้ ไค ฮิราโนะ เจ้าเก่าโหนโหม่งไปหน่อยบอลหลุดกรอบไปไม่ได้ลุ้น

 โอกาส ทองฝังเพชรของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มาถึงเมื่อกองหลังเจ้าถิ่นไปทำฟาลว์ ไค ฮิราโนะ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น คาร์เมโล่ กอนซาเลซ รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไม่ดีพอ ยู ซาง ฮุน นายทวารเอฟซี โซล พุ่งปัดไว้ได้ "ปราสาทสายฟ้า" พลาดประตูนำอย่างไม่น่าเชื่อ ในนาทีที่ 42 

ก่อนเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0 

 เข้าสู่ครึ่งหลังเจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เอ็ดดิลสัน ลงมาแทน ซอย เฮียว จิน ในแนวรับ

 สุเชาว์ นุชนุ่ม มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของ "ปราสาทสายฟ้า" หลังไปเหนี่ยวผู้เล่นเจ้าถิ่นในนาทีที่ 52

 กลับ เป็น เอฟซี โซล ที่ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากการโต้กลับเร็วบอลขึ้นทางกราบขวาก่อนหักเข้ากลาง ให้ จุง เซือง ยอง ที่ยืนอยู่โล่งๆ ทางเสาสองโดยกองหลังทีมเยือนเทไปทางซ้ายกันหมด ก่อนหัวหอกชาวโสมยิงผ่าน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไปง่ายๆ ในนาทีที่ 54

 แต่ "ปราสาทสายฟ้า" มาตีเสมออย่างทันควันในอีกสองนาทีต่อมา เมื่อ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายทะลุช่องตัดแนวรับเจ้าถิ่นให้ ไค ฮิราโนะ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนแตะหลบผู้รักษาประตูโสมขาวบอลเลยมาถึง เอกชัย สำเร ยิงโล่งๆ เข้าไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามมาแล้ว 1-1

นาทีที่ 60  เอ็ดดิลสัน กองหลังตัวสำรองชาวบราซิล เติมขึ้นมาโหม่งจากลูกเตะมุมแต่บอลตกลงพื้นก่อนเด้งข้ามคานออกไปได้ลุ้น

 เอฟซี โซล เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง โมริน่า ยูริเบ้ ดาวยิงโคลอมเบีย ลงมาแทน จุง เซือง ยอง คนทำประตู ในนาทีที่ 65 

 นาที ที่ 74 กลายเป็นยอดทีมแดนโสมขาวขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง จากลูกฟรีคิกกอ่นบอลเข้ามาในเขตโทษและ คิม ฮุน ซุง ฉีกหนีตัวประกบเทกตัวโขกโล่งๆๆ บอลพุ่งเสียบมุม ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หมดสิทธิ์รับ

 แต่ ในนาทีต่อมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมีฮึดไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ไล่ตามตีเสมออีกครั้งเมือ่ได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา ใกล้กรอบเขตโทษและเป็น ธีราทร บุญมาทัน ที่อาสาปั่นด้วยซ้ายบอลกึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตู คาร์เมโล่ กอนซาเลซ พยายามเข้าฮอร์สแต่ไม่โดนทำให้ ยู ซาง ฮุน นายทวารเจ้าถิ่นเสียจังหวะ ก่อนบอลพุ่งรอดตัวเข้าไปเฉยเลย "ปราสาทสายฟ้า" ตามตีเจ๊าแล้ว 2-2 

นาทีที่ 76 "ปราสาทสายฟ้า" ยิ่งเล่นยิ่งคึกได้ลุ้นต่อเนื่องจากยิงมุมแคบของ ไค ฮิราโนะ แต่บอลยังไปเข้าซองของ ยู ซาง ฮุน  

 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง สุริยา ดอมไธสง หัวหอกตัวสำรองลงมาแทน เอกชัย สำเร คนทำประตูแรก ในนาทีที่ 81

 "ปราสาทสายฟ้า" เปลี่ยนคนที่สองส่ง อรรถพงศ์ หนูพรหม ลงมาแทน อดิศักดิ์ ไกรษร ในนาทีที่ 89

เวลา ที่เหลือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยันสกอร์นี้ไว้ได้ จบเกม เอฟซี โซล เสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-2 ทำให้ "ปราสาทสายฟ้า" ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ หลังอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เวกัลตะ เซนได (ญี่ปุ่น) แพ้ เจียงซู เซียนตี้ (จีน) 1-2

ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี 7 แต้มเท่ากับ เจียงซู เซียนตี้ เฮดทูเฮดเท่ากันก็จริง แต่ลูกได้เสียของตัวแทนจากไทยดีกว่าทำให้เข้าเป็นอันดับ 2 เข้ารอบต่อจาก "แชมป์กลุ่ม" เอฟซี โซล ได้สำเร็จ ส่วน เจียงซู เซียนตี้  ได้เพียงอันดับ 3 จูงมือ เวกัลตะ เซนได ที่มีแค่ 6 แต้มตกรอบเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

        รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 


        เอฟซี โซล (4-4-2) : ยู ซาง ฮุน, ซอย เฮียว จิน, คิม นัม จุน, คิม จี วู, ฮัน แต ยู, ชอย ฮูน แต, ลี ซัง ฮับ, ชอย แต อ๊ก, คิม ฮุน ซุง, จุง เซือง ยอง, โค ควาง มิน  


        สำรอง : ฮัน อิล กู, เอ็ดดิลสัน, คัง จุง ฮุน, ลี ทัก กี, มุน ดอง จู, ปาร์ค เฮ ซอง, โมริน่า ยูริเบ้ 


        บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (4-4-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ประทุม ชูทอง, ธนะศักดิ์ ศรีใส, สุรัตน์ สุขะ, ธีราทร บุญมาทัน, จิรวัฒน์ มัครมย์, เอกชัย สำเร, สุเชาว์ นุชนุ่ม, คาร์เมโล่ กอนซาเลซ, ไค ฮิราโนะ, อดิศักดิ์ ไกรษร


        สำรอง : ยศพล เทียงดาห์, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อรรถพงศ์ หนูพรหม, สุริยา ดอมไธสง 



        สรุปตารางคะแนนเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม อี หลังจบนัดสุดท้าย