การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย เอเอฟซี แชมป์เปี้ยน ลีก 2013 กลุ่ม เอฟ รอบแรกนัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา

     

เมืองทอง ยูไนเต็ด (ไทย)  0  -  1  อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส (ญี่ปุ่น)

 

        ที่สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม  ''กิเลนผยอง'' เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของกลุ่ม เอฟ ที่ตกรอบไปแล้ว เปิดบ้านรับการมาเยือนของอุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ที่มีลุ้นเข้ารอบภายใต้เงื่อนไขคือต้องเอาชนะเพียงสถานเดียวเท่านั้น แล้วลุ้นอีกคู่ให้กว่างโจว เอเวอร์กรานเด้ เอาชนะชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส ถึงจะพลิกนรกเข้ารอบแทน
               
 
        เมืองทอง ยูไนเต็ดมีนักเตะตัวหลักติดโทษแบนทั้ง ดักโน่ เซียก้า และ พิชิตพิงษ์ เฉยฉิว นอกจากนั้นยังมี อาทิตย์ ดาวสว่าง แนวรับดาวรุ่งอีกราย โดยเกมนี้มีการปรับทัพพอสมควร แนวรับ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ยืนคู่กับ คิม ยู จิน แบ็กซ้าย วีระวุฒิ กาเหย็ม แบ็กขวา ปิยพล บรรเทา
               
 
        แดนกลางปรับมาเป็น ดัสกร ทองเหลา กับ ณภัทร ธำรงศุภกร ได้ลงเล่นกับทีมใหม่ ริมเส้นฝั่งซ้าย จักรพันธ์ พรใส ส่วนกราบขวาใช้ความคล่องของ ศราวุฒิ มาสุข ขณะที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นตัวต่ำ โดยให้ โรลันด์ ลินซ์ เป็นหน้าเป้า

 

        ส่วนอุราวะ เร้ดส์เน้นเป็นพิเศษ แนวรับ 3 ประสานลงทั้ง โมริวากิ, มากิโนะ โตโมอากิ และ นาซู ไดซึเกะ แผงมิดฟิลด์มี ยูกิ อาเบะ สวมปลอกแขนเป็นจอมทัพอีกทั้งใส่ เกอิตะ ซูซุกิ และ ยูซูเกะ คาซิวากิ ลงทำเกม ขณะที่ตัวทีเด็ดในการจบสกอร์ยังวางใจใช้งาน โกโรกิ ชินโซะ
               
 
        ก่อนเกมแข่งขันแฟนบอลอุราวะ เร้ด ไดมอนด์สขนกันมาเชียร์กว่าพันคน เข้ามาร้องเพลงเชียร์ก่อน 1 ชั่วโมง นอกจากนั้นเกมนี้ยังได้รับเกียรติจาก เซอิจิ โคจิมะ เอกอัคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ ปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ซิเมนต์ ให้เกียรติลงไปจับมือกับนักเตะทั้งสองทีม

 

        เกมครึ่งแรกหวดแค่ 2 นาที ''กิเลนผยอง'' หวิดเผด็จศึก จากจังหวะที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ จ่ายบอลทะลุช่องให้ โรลันด์ ลินซ์ กะจะโฉบเข้าไปเอาบอลแต่ช้าไม่ทันแนวรับของอุราวะ เร้ดส์ที่ดักสกัดบอลทิ้งพ้นโซนอันตราย จากนั้นอาคันตุกะจากแดนซามูไร ได้ฟรีคิก ยูซูเกะ คาซิวากิ วางเข้าหัว มาซิโอ้ โหม่งชงคืนหลัง แต่ไม่มีตัวยิง

 

        เกมสู้กันมันส์อีก 3 นาทีต่อมา เมืองทอง ยูไนเต็ดได้ฟรีคิกจากระยะ 30 หลา มาริโอ ยูรอฟสกี้ ปั่นข้ามกำแพงอุราวะ เร้ดส์แต่บอลโค้งเข้าซองนายทวารทีมเยือนรับเข้าซอง เกมเป็นเมืองทอง ยูไนเต็ดที่ได้บุกได้มากกว่า

 

        ล่วงถึงน.10 โอกาสทองเป็นของเมืองทอง ยูไนเต็ดที่น่าจะได้ประตูมากที่สุด เมื่อ วีระวุฒิ กาเหย็ม เปิดให้ โรลันด์ ลินซ์ พักอกหนึ่งจังหวะให้ จักรพันธ์ พรใส วิ่งสอดขึ้นมาสับไกยิงเต็มข้อ บอลเข้าซองนายทวารอุราวะ เร้ดส์ซะอย่างนั้น

 

        น.30 เกมรุกยังเป็นของเมืองทอง ยูไนเต็ดที่บุกได้หวือหวากว่าอย่างเห็นได้ชัด มีโอกาสทะลวงตาข่ายจากลูกฟรีคิกของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ปั่นข้ามกำแพงไปแล้วแต่ถูกนายทวารอุราวะ เร้ดส์ออกมากระโดดเซฟเข้าซอง

 

        เกมครึ่งหลังเริ่มมาเพียงแค่ 3 นาที อุราวะ เร้ดส์ มาได้ประตูนำทันที จากจังหวะที่ โมริวากิ เรียวตะ ครอสบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษให้ นาสึ ไดซูเกะ วิ่งเข้าไปยิงสวนตัว วีระ เกิดพุดซา ตุงตาข่ายให้ อุราวะ เร้ดส์ นำ 1-0

 

        อุราวะ เร้ดส์ ได้ใจบุกกดดันใส่อย่างหนัก น.59 มาซิโอ้เปิดเข้าเสาสอง แต่แนวรับของเมืองทองยังช่วยกันเคลียร์บอลได้ อีก 3 นาทีต่อมา มาซิโอ้คนเดิมได้โอกาสสับไกยิงฟรีคิกระยะนอกกรอบเขตโทษ

 

        หลังจากนั้น เมืองทองเปลี่ยนเอา ธีรศิลป์ แดงดา ลงมาเล่นแทน ณภัทร ธำรงศุภกร เกมรุกเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีโอกาสจบสกอร์หลายหน ขณะที่ทางฝั่ง อุราวะ เร้ดส์ ก็มีโอกาสที่จะกระหน่ำตาข่ายเช่นกันจากเกมโต้กลับเร็ว สุดท้ายทำได้เพียงแค่หวาดเสียวเท่านั้น

 

        กระทั่งจบเกม 90 นาที เป็นทางฝั่งอุราวะ เร้ดส์ ที่บุกมาเอาชนะ 1-0 เก็บคะแนนเพิ่มเป็น 10 แต้มเท่ากับ ชนบุก ฮุนได มอเตอร์ส แต่เฮดทูเฮดเป็นรอง จึงกอดคอเมืองทองตกรอบทั้งคู่

 
 

        ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่ง กว่างโจวฯ ทีมจากประเทศจีน ที่เข้ารอบไปแล้ว เปิดบ้านพบกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ ทีมจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งผลการแข่งขันทั้งสองทีมเสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน โดยทั้งสองทีมกอดคอกันเข้ารอบสองด้วยกันทั้งคู่ โดย กว่างโจว เข้าเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ส่วน ชุนบุค เป็นอันดับ 2

 

             หลังเกม "ย็อคก้า" สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือ เมืองทอง ยูไนเต็ด   เผยถึงเกมนัดนี้ว่า "ต้องขอชมเชยที่ลูกทีมทุกคนเล่นได้อย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่ว่าจังหวะจบสกอร์เท่านั้นเองที่ เรายังต้องปรับปรุงให้มีความเฉียบขาดเนื่องจากเกมระดับเอเชียไม่ง่ายเหมือน กับเกมในลีกแน่ อย่างไรก็ตามเรายังต้องพัฒนารูปแบบการเล่นให้สู้กับทีมหัวแถวของเอเชียให้ ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพราะถ้วยใบนี้แต่ละทีมล้วนแล้วแข็งแกร่งทั้งนั้น"

 

        ทางด้าน มิไฮโล เปรโตวิช กุนซืออูราวะเรดไดมอนส์ กล่าวหลังจบเกมว่า " ดีใจที่ทีมสามารถเอาชนะได้ตามเป้าหมาย แต่ก็ต้องพบกับความเสียใจที่เราไม่อาจจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้เนื่องจาก อีกคู่ ชุนบุคฯบุกไปเสมอกับ กว่างโจวฯ 0-0 ซึ่งมันไม่เพียงพอที่เราจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป อย่างไรก็ตามเรายังไม่สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี่ยังคงมุ่งสมาธิกับเกมลีกต่อไป และหวังว่าจะกลับมาอีกในซีซั่นหน้า"