เคยมีข่าวพัวพันกับยาเสพติดพ่วงด้วยอาวุธปืนมาแล้ว แต่ความลับที่เพิ่งเปิดเผยออกมาอาจทำให้ทั้งโลกตะลึงก็ว่าได้ เมื่อ ''สนู้ป ไลอ้อน'' หรือชื่อเดิม ''สนู้ป ด็อกก์'' แร็พเปอร์นักเลงของวงการเพลงอเมริกา แอ่นอกบอกความลับสมัยกว่า 10 ปีที่แล้ว เคยทำตัวเลวหนักถึงขนาดรับบทเป็นแมงดาคอยหอบบรรดาโสเภณีในสังกัด ไปเที่ยวหลับนอนกับเหล่าคนในวงการบันเทิงรวมถึงบรรดานักกีฬาระหว่างตระเวนทัวร์ทั่วแดนมะกัน

    แร็พเปอร์จอมเถื่อนขึ้นชื่อลือชาเรื่องเกี่ยวกับวงการมืดมานานแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับหน้าตาเฉยว่า เขาพยายามรวบรวมกลุ่มผู้หญิงประมาณ 10 คนมาอยู่ในรถบัสคันหนึ่ง ที่ติดตามคณะทัวร์ของเขาตระเวนเล่นคอนเสิร์ต ''Playboy Tour 2003'' ก่อนที่จะส่งผ่านบรรดาสาวๆ ให้กับคนดังที่ไม่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามเสพกามอย่างสบายอารมณ์ แถมยังเก็บเงินเพื่อเป็นค่าตัวของสาวๆ อีกต่างหาก
     
    สนู้ปเล่าความหลังอันโสมมกว่าทศวรรษ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสารโรลลิ่ง สโตนว่า ''ผมรวมกลุ่มเข้าด้วยกัน ผมมีรถบัสที่มีสาวๆ 10 คนคอยติดตามผมอยู่ตลอด ผมสามารถปลุกอารมณ์สาวๆ ขย่มพวกเธอ จากนั้นก็หาคนใหม่มาแทน มันเป็นโปรแกรมของผม เมืองสู่เมือง, นมสู่นม, โรงแรมสู่โรงแรม, นักกีฬาสู่นักกีฬา และคนวงการบันเทิงสู่คนวงการบันเทิง''
     
    ''หากผมอยู่ในเมืองที่มีทีมเดนเวอร์ บรองโกส์ หรือเดนเวอร์ นักเกตส์ลงเล่น ผมก็อาจมีผู้เล่นของพวกเขามาดื่มกินกันสัก 2-3 คน ดูแล้วก็เลือกไม่ว่าต้องการคนไหนคุณก็จดเบอร์มา มีนักกีฬามากมายที่ซื้อพวกโสเภณีไปจากผม''
     
    แต่ก็ยังดีที่นักร้องวัย 41 กะรัต ไม่ได้เก็บเงินรายได้จากการขายตัวของสาวๆ เอาไว้เอง โดยเขาจัดการมอบเงินทั้งหมดให้กับผู้หญิงที่ไปหลับนอนกับหนุ่มๆ แลกเงิน ''ผมอาจจะทำเหมือนกับว่าผมได้เงินจากสาวๆ แต่ผมเอาเงินให้พวกเธอมากกว่า เงินไม่เคยเป็นปัญหา เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับความหลงใหลในการเป็นแมงดา ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ผมฝันว่าอยากเป็นแมงดา ผมฝันที่จะมีรถ, เสื้อผ้า แล้วก็มีสาวๆ มาเคียงข้าง''
     
    ถึงจะชั่วขนาดไหน แต่คนอย่าง สนู้ป ด็อกก์ ก็มีเมียรักเพียงคนเดียว ซึ่งคือ ชานเต้ เทย์เลอร์ เพื่อนในวัยเรียนที่กลายเป็นคู่ชีวิต และแม้ชีวิตของเขาจะเหลวแหลกขนาดไหน เธอก็ไม่เคยตีจากไปหาทางสว่างอื่นเลย ทำให้จุดนี้นักร้องจอมซ่าอดชื่นชมเมียของตัวเองไม่ได้
     
    ''ผมรักเธอจนถึงทุกวันนี้ เพราะเธออาจเฉดหัวผมไปก็ได้ แต่เธออยู่ข้างผมมาตลอด ดังนั้นเมื่อผมตัดสินใจโยนทุกอย่างทิ้งไป เธอก็ยังอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม'' แร็พเปอร์ขาใหญ่แห่งฝั่งเวสต์โคสต์กล่าวส่งท้าย