ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » วีแกนแชมป์ประวัติศาสตร์!เฉือนเรือทดเจ็บ1-0

วีแกนแชมป์ประวัติศาสตร์!เฉือนเรือทดเจ็บ1-0

Posted 12/05/2013 by siamsport

        "เดอะ ลาติกส์" วีแกน ผงาดคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ได้สำเร็จหลัง เบน วัตสัน โขกนาทีที่ 91 พาเฉือนชัยเหนือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสุดระทึก 1-0 เกมนี้ แมนฯ ซิตี้เหลือผู้เล่น 10 คนนาทีที่ 84 โดย ปาโบล ซาบาเลต้า ถูกสองใบเหลืองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกฟุตบอล เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศปี 2013 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอล เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศปี 2013

วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2556

แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 0   -   1 วีแกน (พรีเมียร์ลีก)




สนาม : เวมบลีย์


        แมนฯ ซิตี้ กับ วีแกน สองทีมจากลีกสูงสุดแต่อันดับต่างกันลิบลับลงบู๊ชิงถ้วยเอฟเอคัพครั้งที่ 132 โดยเรือใบสีฟ้า ได้โควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกแน่นอนแล้ว ขณะที่ เดอะ ลาติกส์ ที่ยังต้องพยายามเอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีกก็ได้โควต้ายูโรปาลีกเช่นกันไม่ว่าผลลัพธ์นัดนี้จะออกมาในรูปไหน แต่ถ้าวืดแชมป์จะต้องลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสามแทนที่จะเป็นรอบแบ่งกลุ่ม


        ด้านการจัดทัพ แมนฯ ซิตี้ ของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ซึ่งชนะคู่ปรับเจ็ดนัดรวดในลีกโดยไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวกลับคำพูดเฉยส่ง โจ ฮาร์ท ลงสนามเป็นเกมแรกในถ้วยใบนี้แทนนายทวาร คอสเทล ปันติลิมอน ที่ได้เล่นรายการนี้มาตลอด และได้ ยาย่า ตูเร่ กองกลางตัวกลั่นฟิตลงสนาม


        รวมแล้วทีมเงินถังเปลี่ยนนักเตะทั้งสิ้นแปดรายจากเกมเฝ้ารังชนะ เวสต์บรอมวิช ในลีก 1-0 โดยเหลือฮาร์ท , ซามีร์ นาสรี่ และ คาร์ลอส  เตเวซ อยู่ในโผ 11 ตัวแรก


        ส่วนวีแกนที่เข้าชิงชนะเลิศเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรประสบปัญหาน่าหนักใจขาดนักเตะคีย์แมนที่บาดเจ็บทั้งมายนอร์ ฟิเกรัว , ฌอน โบเซอชูร์  , รอนนี่ สตัม และอีบาน รามิส ทำให้ต้องเสี่ยงใช้บริการ อันโตลิน อัลการาซ แทน แกรี่ คัลด์เวลล์ ที่เป็นบ่อน้ำมันของทีมในเกมล่าสุดนัดบุกแพ้สวอนซีคาบ้าน 2-3 แม้กุนซือโรเบร์โต้ มาร์ติเนซจะเปรยว่ามีโอกาสลงเล่นแค่ 50-50  ขณะที่นายทวาร โจเอล โรเบลส ยังได้เฝ้าตาข่ายก่อนหน้าอาลี อัล ฮับซี่


        พร้อมกันนี้ เอฟเอก็อนุญาติให้ เดฟ วีแลน ประธานสโมสรวีแกนวัย 76 ปีเดินนำหน้าลูกทีมลงสนามเป็นกรณีพิเศษด้วยโดยเขาเคยลงเล่นนัดชิงชนะเลิศถ้วยใบนี้เมื่อปี 1960 ให้ แบล็คเบิร์น ดวลกับ วูล์ฟส์ แต่โชคร้ายขาหักจนต้องแขวนรองเท้าก่อนหันไปทำธุรกิจจนมั่งคั่ง


        เปิดฉากมาได้ 4 นาที แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ลูกฟรีคิกระยะ 22 หลาจากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ โดนเอ็มเมอร์สัน บอยซ์ที่นัดนี้ได้เป็นกัปตัน เดอะ ลาติกส์ ทำฟาวล์ และเป็นเตเวซที่ซัดไปกระทบกำแพง แต่ ตูเร่ ได้กดซ้ำจากหน้าเขตโทษ ดีที่ว่า โจเอล กระโจนปัดได้


        อย่างไรก็ดี ถึงนาทีที่ 9 วีแกนน่าจะได้ประตูอย่างยิ่งจากการขึ้นเกมของ อารูน่า โกเน่ ที่ควบหนีปาโบล  ซาบาเลต้า ได้แล้วจ่ายข้ามฟากไปฝั่งขวาแล้ว คัลลั่ม แม็คมานามาน กระชากเข้าเขตโทษสวย แต่จังหวะยิงปั่นจากแปดหลาหนีการยืนบังมุมของ มาติย่า นาสตสซิช หลุดเสาไกลอย่างไม่น่าเชื่อ


        กระนั้นนาทีต่อมา เรือใบโจมตีเร็วและเกือบได้เฮเช่นกันจากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา แทงบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ซาบาเลต้า ทะลุไปยิงโดนโจเอลปรี่ออกมาบล็อค เตเวซ จึงเข้าเก็บตกจากหกหลา แต่โดนกองหลังเคลียร์ได้ก่อนข้ามเส้น และเป็นลูกออฟไซด์ของ ซาบาเลต้า ไปก่อนแล้ว


        เกมเป็นไปอย่างสนุกเมื่อทั้งคู่บุกใส่กันแบบไม่มีอาการเกร็งให้เห็น  จวบจนพ้น 20 นาทีแรกเกมก็ตกเป็นของ แมนฯ ซิตี้ ชัดเจนมากขึ้น


        และในนาทีที่ 29 เรือใบ ก็พลาดการออกนำอีกหนเมื่อนาสรี่ลุยขึ้นทางซ้ายแล้วตวัดบอลเข้าเขตโทษให้ เตเวซ ปราดเข้าเข่นระยะสิบหลา  แต่โจเอลถลันออกมาบล็อคเปลี่ยนทิศให้บอลปลิ้นโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียวไส้


        ถัดมาในนาทีที่ 35 โรเจอร์ เอสปิโนซ่า มิดฟิลด์วีแกนลุยเข้าเขตโทษด้านซ้ายได้สำเร็จแล้ว ซาบาเลต้า ตามมาปะทะล้มจากด้านหลัง แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้เป็นลูกโทษ


        นาทีต่อมา แม็คมานามาน รับบอลแทงยาวแตะหลบซาบาเลต้าหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษได้ แต่ไม่มีมุมยิงโดน ฮาร์ท ขยับออกมาปิดมุม จึงโยกหนีนายทวารเรือใบพร้อมกองหลังหลายจังหวะ สุดท้ายจึงทำได้แค่สับไกไปกระทบ ซาบาเลต้า


        ผ่านมาถึงนาทีที่ 41 แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสอีกเมื่อซาบาเลต้าเติมเกมขึ้นสูงมากระทุ้งจากหน้าเขตโทษติดบล็อค แล้วบอลทะลักเข้าเขตโทษด้านขวาของ วีแกน โดยมี แกเร็ธ แบร์รี่ ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ แต่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษแปเบาหวิวทำให้โจเอลรับเข้าอกได้


        จากนั้นในนาทีที่ 45 นาสรี่ ก็ลองซัลโวจากหน้าเขตโทษ แต่ โจเอล ยังไม่พลาดปัดป้องได้สำเร็จ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมจึงเสมอกันไปอย่างออกรส 0-0



     ผ่านครึ่งหลังมาได้ห้านาที แมนฯ ซิตี้ก็หวิดมีสกอร์อีกเมื่อเตเวซพาบอลบุกขึ้นฝั่งขวาแล้วล็อคหนีพอล ชาร์เนอร์เข้าเขตโทษได้จึงไหลไปเสาแรกให้อเกวโร่เข้าชาร์หกหลาโดนบอยซ์เข้าปั๊มทัน บอลจึงเฉี่ยวกรอบไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด


     กระทั่งนาทีที่ 55 ทีมตราเรือใบก็ตัดสินใจเปลี่ยนนาสรี่ออกให้เจมส์ มิลเนอร์ลงไปแทน และอีกสามนาทีต่อมา ซิลบาก็จ่ายบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษแล้วชาร์เนอร์ตามไปเกี่ยวอเกวโร่ล้ม  แต่ไม่มีเสียงนกหวีดให้เป็นลูกโทษเนื่องจากดาวยิงอาร์เจนไตน์ไปไม่ถึงบอลอยู่แล้วโดนโจเอลออกมาคว้าได้ก่อน


     ขยับมาในนาทีที่ 60 ซาบาเลต้าไปตัดเกมทำฟาวล์แม็คมานามานแถวกลางสนามทำให้รับใบเหลืองเป็นรายแรก


     แมนฯ ซิตี้ไม่สนใจยังบุกต่ออย่างน่าเกรงขาม แต่นาทีที่ 66 วีแกนลุยขึ้นมาดีแล้วแม็คมานามานกระชากบอลเข้าเขตโทษด้านขวาโยกหลบสองด่านสวย แต่จังหวะกระทุ้งติดบล็อคแว็งซ็อง ก็องปานีอย่างน่าเสียดาย


     ในที่สุดนาทีที่ 69 แมนฯ ซิตี้ก็เปลี่ยนแจ็ค ร็อดเวลล์ลงไปแทนเตเวซอีกราย จากนั้นอีกสามนาที เอสปิโนซ่าไปรวบมิลเนอร์ล้มทางฝั่งขวาทำให้เรือใบได้ลูกฟรีคิก และเป็นร็อดเวลล์ที่ได้โดดโขกลูกโยนโด่งในเขตโทษ แต่โจเอลเซฟได้


     จวบจนนาทีที่ 76  แม็คมานามานถูกนาสตาซิชทำฟาวล์ริมเขตโทษด้านขวา กองหลังเรือใบจึงได้ใบเหลือง และฌอน มาโลนีย์รับอาสาปั่นฟรีคิกไซด์โค้งไปตกบนคานอย่างน่าฮือฮา


     เลยมาถึงนาทีที่ 84 เรือใบ ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน โดย ปาโบล ซาบาเลต้า เข้าเสียบ แม็กคมานามาน ที่ได้โอกาสกระชากบอลหลุดเข้าไปเพื่อหวังทำประตู กรรมการชักใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที


     5 นาทีสุดท้าย วีแกน ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นเป็นฝ่ายพับสนามบุกแต่ฝ่ายเดียวและมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 91 จากลูกแตะมุมเป็น เบน วัตสัน ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาขึ้นโหม่งโดยไร้ตัวประกบผ่านมือ โจ ฮาร์ท เสยคานเข้าไปไม่เหลือซาก


     ช่วงเวลาทดเจ็บ 3 นาที เรือใบ ไม่มีอะไรจะเสียบุกแหลกหวังทวงประตูคืนแต่ไม่ผ่านผู้เล่น วีแกน ที่ลงไปช่วยกันป้องกันในแดนตัวเองทั้งหมด จบเกม วีแกน เฉือน เรือใบ สุดมันส์ 1-0 สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงรายการนี้ครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรและผงาดแชมป์ทันที


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


        แมนฯ ซิตี้ :
โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่ (เอดิน เชโก้ น.90), ซามีร์ นาสรี่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.54), ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ (แจ็ค ร็อดเวลล์ น.69), เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"
        สำรอง :
คอสเทล ปันติลิมอน, โจเลียน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ฆาบี การ์เซีย

     ใบเหลือง :
มาติย่า นาสตาซิช, แกเร็ธ แบร์รี่, ปาโบล ซาบาเลต้า

     ใบแดง :
ปาโบล ซาบาเลต้า


        วีแกน
: โจเอล โรเบลส, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, อันโตลิน อัลการาซ, พอล ชาร์เนอร์, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, จอร์ดี้ โกเมซ (เบน วัตสัน น.81), โรเจอร์ เอสปิโนซ่า, คัลลัม แม็คมานามาน, ฌอน มาโลนี่ย์, อารูน่า โคเน่

     สำรองไม่ได้ใช้ :
อาลี อัล ฮับซี่, แกรี่ คัลด์เวลล์, โรมัน โกโลบาร์ต, เฟรเซอร์ ไฟวี่, อังเจโล่ เอ็นริเกซ, ฟรังโก้ ดิ ซานโต

     ใบเหลือง
: โจเอล โรเบลส


        ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์

แมนฯ ซิตี้

สถิติหลังเกม

วีแกน

52 

เปอร์เซนต์ครองบอล

 48

12 

ยิงเข้ากรอบ 

7

ยิงไม่เข้ากรอบ 

8

ลูกเตะมุม 

3

11 

ทำฟาวล์ 

5

ใบเหลือง 

1

ใบแดง 

0



ทำเนียบแชมป์เอฟเอคัพ


ฤดูกาล 

แชมป์ 

รองแชมป์

2003-04 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

 มิลล์วอลล์

2004-05 

อาร์เซน่อล 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

2005-06 

ลิเวอร์พูล 

เวสต์แฮม

2006-07 

เชลซี 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

2007-08 

พอร์ทสมัธ 

คาร์ดิฟฟ์

2008-09 

เชลซี 

เอฟเวอร์ตัน

2009-10 

เชลซี 

พอร์ทสมัธ

2010-11 

แมนเชสเตอร์

ซิตี้ สโต๊ค

2011-12 

เชลซี 

ลิเวอร์พูล

2012-13 

วีแกน 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

 



มาร์ติเนซลั่นสุดมั่นใจวีแกนแชมป์
     


     โรเบร์โต้ มาร์ติเนซผู้จัดการทีมวีแกนฟุ้งแหลก เชื่อมั่นอยู่ลึกๆว่าเดอะ ลาติกส์จะคว้าแชมป์เอฟเอคัพมาครองได้เนื่องจากลูกทีมโชว์ฟอร์มกันได้อย่าง ยอดเยี่ยมในเกมพิชิตอดีตแชมป์ปี 2011


     ชัยชนะ 1-0 ที่มีต่อแมนฯ ซิตี้ทำให้วีแกนฉลองกันท่ามกลางสายฝนโดยลืมการลุ้นหนีตกจากพรีเมียร์ลีกไป ชั่วคราวโดยเป็นการได้แชมป์หนแรกในประวัติศาสตร์ 81 ปีของสโมสร แถมนับเป็นการพลิกล็อคครั้งใหญ่ของนัดชิงถ้วยน็อคเอาท์ในรอบ 25 ปีด้วย


     อย่างไรก็ดี นายใหญ่เดอะ ลาติกส์ได้ยืนยันว่ามั่นใจอย่างเต็มที่ว่านักเตะจะคว้าโทรฟี่มาเชยชมได้


     "คุณย่อมคาดว่าจะได้เห็นประตูแน่ ฟอร์มของเราวิเศษโดยแท้ เราสมควรชนะ" กุนซือชาวสแปนิชเอ่ย


     "คุณหวังที่จะได้เล่นที่เวมบลีย์และได้แชมป์ ทีมรองบ่อนเล่นกันได้อย่างกล้าหาญเหลือเชื่อ และมั่นใจในการต่อสู้เพื่อสร้างความพลิกล็อคอีกครั้ง และนี่คือเอฟเอคัพ" 
     


วัตสันรับเหมือนฝันซัลโวพาทีมซิวแชมป์

 


     เบน วัตสันยอดซูเปอร์ซับวีแกนเปิดใจ เหมือนฝันอย่างแท้จริงที่ลุกจากม้านั่งมากดประตูชัยพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอคัพที่เวมบลีย์


     วัตสันถูกเปลี่ยนลงไปแทนฆอร์ดี้ โกเมซในนาทีที่ 81 และในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีแรกเขาก็กลายเป็นฮีโร่โหม่งลูกเตะมุมพาทีมโค่นแมนฯ ซิตี้


     "มันเหลือเชื่อมาก นักเตะเล่นกันได้เยี่ยม การได้ลงสนามและยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพเปรียบได้กับความฝัน" 
     


ก็องปานีซูฮกลาติกส์คู่ควรโทรฟี่


      
     แว็งซ็องต์ ก็องปานีกัปตันทีมแมนฯ ซิตี้แสดงสปิริตด้วยการยอมรับว่าวีแกนสมควรได้แชมป์ไปครองแล้วเนื่องจากเรือ ใบสีฟ้าเล่นกันได้ไม่ดีพอ


     "วีแกนสมควรชนะ ต้องขอแสดงความยินดีกับพวกเขาด้วย แต่เรายังมีโอกาสได้แชมป์อีก" กองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมเอ่ย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • มีกลิ่น!บ่อนลดราคาเปเยกรินี่คุมเรือแทนมันโช่
    อยู่ดีๆ มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือ มาลาก้า ก็กลายเป็นตัวเต็งที่จะเสียบแทน โรแบร์โต้ มันชินี่ ในตำแหน่งกุนซือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียอย่างนั้น หลังจากบริษัทรับพนันถูกกฎหมายปรับอัตราต่อรองลดมาเหลือแค่ 1/4 ประจวบเหมาะกับที่กุนซือชาวอิตาเลียนทำผลงานน่าผิดหวังในการพาทีมป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก
  • บัวเต็งเล็งย้ายหนีมิลานซัมเมอร์นี้
    เควิน-พริ๊นซ์ บัวเต็ง ห้องเครื่อง เอซี มิลาน หวังย้ายออกจากต้นสังกัดช่วงหน้าร้อนนี้ หลังมีโอกาสลงเล่นน้อยลงและโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังในฤดูกาลล่าสุด โดยมี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แสดงความสนใจ
  • ชี้ชะตาแชมป์เอฟเอ!เรือจัดกุน-เตฟนำฟัดวีแกน
    ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้.....มาถึงจุดสิ้นสุดกับการตัดสิน แชมป์ระหว่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เตรียมจัดทัพเต็มสูบโดย เซร์คิดโอ อเกวโร่ "กุน" กับ คาร์ลอสเตเวซ น่าจะได้ลงตัวจริงผนึกคมแช้งแดนหน้า เกมพบ "เดอะ ลาติกส์" วีแกน แอธเลติก ที่ผลงานในลีกต้องลุ้นหนีตายสุดตัวแต่ศึกนี้จะสู้แบบไม่มีถอย ตามชมและเชียร์ได้ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 11 พ.ค. ศกนี้
  • ริชาร์ดส์เล็งถูกเรียกติดทัพสิงโตลุยบอลโลก
    ไมก้าห์ ริชาร์ดส์ ปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รับหวังยึดตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริงทีมชาติอังกฤษ เตรียมลงสู้ศึกเวิลด์ คัพ 2014 ที่แดนแซมบ้าให้ได้ หลังกลับมาฟิตเต็มสูบอีกครั้ง ต่อจากการได้รับบาดเจ็บลงเล่นไม่ได้เป็นเวลานาน ตั้งเป้าซีซั่นหน้าจะปราศจากอาการเจ็บรบกวนและได้รับโอกาสลงสนามพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »