ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » ชิงฯชปล.!เสือเหลืองไร้เกิทเซ่,เสือใต้ขอล้างอาย

ชิงฯชปล.!เสือเหลืองไร้เกิทเซ่,เสือใต้ขอล้างอาย

Posted 25/05/2013 by siamsport

 
 
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ การค้นหายอดทีมแห่งสโมสรยุโรปซีซั่นนี้คือ....."เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะไร้ มาริโอ เกิทเซ่ ลงช่วยทีมแต่สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์สุดขีด เตรียมฟัดแข้งกับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ที่ประกาศลั่นขอผงาดคว้าแชมป์เพื่อล้างอายความผิดหวังปีก่อนให้จงได้ ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ คืนวันเสาร์ที่ 25 พ.ค. ศกนี้


ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2556

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี)

เวลาแข่งขัน : 01:45 น.



สนาม : เวมบลีย์ , อังกฤษ


        เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมหรือติดโทษแบน นอกจาก มาริโอ เกิทเซ่ ที่สโมสรยืนยันล่วงหน้าหมดสิทธิ์ลงช่วยทีมแน่นอน เหตุบาดเจ็บกล้ามเนื้อด้านหลังเข่าฉีกขาด


        พาทริค โอโวโมเยล่า เป็นอีกรายอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพ แต่ไม่ส่งผลกระทบแน่นอน เนื่องจากเป็นแค่ตัวสำรองอยู่แล้ว ปัญหาใหญ่จุดเดียวคืออาการ มัทส์ ฮุมเมิลส์ ปราการหลังตัวแกร่งเจ็บเข่าจากเกมพ่าย ฮอฟเฟนไฮม์ 1-2 คาบ้าน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าน่าจะฟิตทัน


        การจัดทัพวางเต็มสูบ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ลงเฝ้าเสา แดนหลังจากขวาไปซ้าย ลูคัสซ์ พิสเซ็ค รับบทแบ็คขวา ปราการหลัง เนเวน ซูโบติช ประสานงาน มัทส์ ฮุมเมิลส์ หรือหากฮุมเมิลส์ไม่ฟิตจริงๆ เฟลิเป้ ซานตาน่า พร้อมเสียบ แบ็คซ้าย มาร์เซล ชเมลเซอร์ จับจอง


        ตรงกลางสนาม มีสองอ็อปชั่นให้เลือก หากวางชุดเดิม สเวน เบนเดอร์ กับ อิลคาย กุนโดแกน คุมจังหวะ ตัวรุกใช้ ยาคุบ บาลสส์ซีคอฟสกี้, มาร์โค รอยส์ และ เควิน โกรสส์ครอยท์ซ


        อีกทางเลือกคือขยับ อิลคาย กุนโดแกน ขึ้นไปเล่นสูงตรงกลาง ขนาบข้างด้วย ยาคุบ บลาสส์ซีคอฟสกี้ และ มาร์โค รอยส์ ส่วนตรงกลางปล่อยให้ เซบาสเตียน เคห์ล หรือ นูริ ซาฮิน เล่นคู่ สเวน เบนเดอร์ หน้าเป้าเหมือนเดิม โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้


        "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ของจุปป์ ไฮย์เกส พยายามล้างอายให้ได้หลังจากปีก่อนพ่ายเชลซีคาบ้านตัวเองชวดแชมป์อย่างน่า เสียดาย ความพร้อมทรงตัวไม่มีอะไรเพิ่มเติมนอกจาก โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ เจ็บเข่าซ้ำผ่าตัดพักยาว 10 เดือน และ โทนี่ โครส ที่เดี้ยงยาว คนอื่นถือว่าพร้อมรบสุดขีด


        นายทวารใช้ มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสาต่อไป แดนหลังสี่คน ฟิลิปป์ ลาห์ม ยืนแบ็คขวา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ดานเต้ บอมฟิม ยืนตัวหลัก อีกคนต้องเลือกระหว่าง เยโรม บัวเต็ง หรือ ดาเนียล ฟาน บุยเต็น แบ็คซ้าย ดาวิด อลาบา จับจอง


        ตรงกลางสนาม ฆาบี มาร์ติเนซ เดินเครื่องพร้อม บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ แน่นอน เช่นเดียวกับแกนรุกวางชุดเดิม อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ มี มาริโอ มานด์ซูคิช ล่าตาข่าย


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


        ดอร์ทมุนด์
(4-2-3-1) :
โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัสซ์ พิสเซ็ค,เนเวน ซูโบติช,มัทส์ ฮุมเมิลส์,มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์,อิลคาย กุนโดแกน - ยาคุบ บาลสส์ซีคอฟสกี้,มาร์โค รอยส์,เควิน โกรสส์ครอยท์ซ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้


        บาเยิร์น
(4-2-3-1) :
มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม, เยโรม บัวเต็ง,ดานเต้ บอมฟิม,ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ - มาริโอ มานด์ซูคิช


        ผู้ตัดสิน
: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)

 


ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าใสใจคู่ระหว่าง บาเยิร์น - ดอร์ทมุนด์
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
- บาเยิร์น เคยพบกับ ดอร์ทมุนด์ ในฟุตบอลยุโรปเพียงแค่ครั้งเดียว ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ โดย เสือเหลือง ในฐานะแชมป์เก่า เป็นฝ่ายกรุยทางสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ หลังจากเสมอกัน 0-0 ในนัดแรก ที่ มิวนิค ก่อนที่ ดอร์ทมุนด์ เปิดรังเอาชนะ 1-0 ในนัดต่อมา
- บาเยิร์น และ ดอร์ทมุนด์ เพิ่งจะพบกันในเกมอย่างเป็นทางการครบ 100 นัดแล้ว โดย เสือใต้ กำชัย 45 ครั้ง, เสือเหลือง คว้าชัย 26 นัด และเสมอกันอีก 29 ครั้ง
- บาเยิร์น ไม่แพ้ ดอร์ทมุนด์ ใน 4 เกมที่พบกันในฤดูกาลนี้ โดยใน บุนเดสลีกา เสมอกัน 1-1 ทั้ง 2 นัด ส่วนที่เหลือเป็น บาเยิร์น เชือด 2-1 ในศึกเยอรมัน ซูเปอร์ คัพ และ เสือใต้ กำชัยอีกครั้งในเกมเดเอฟเบ โพคาล รอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 1-0
- ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเดเอฟเบ โพคาล เสือใต้ เคยถอง ดอร์ทมุนด์ 1-0 เมื่อปี 2008 ก่อนที่ เสือเหลือง จะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกด้วยการถล่ม 5-2  เมื่อซีซั่นที่แล้ว
- สถิติที่ บาเยิร์น คว้าชัยด้วยสกอร์ที่ห่างที่สุดในลีก คือเกมที่พวกเขาไล่ต้อน ดอร์ทมุนด์ 11-1 เมื่อฤดูกาล 1971/72


เกร็ดน่าสนใจ
- บาเยิร์น กำลังตามรอย ลิเวอร์พูล ในการครองบัลลังก์ยุโรป 5 สมัย และจะเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้สูงที่สุดอันดับ 3 ต่อจาก เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน
- บาเยิร์น มีประสบการณ์ในนัดชิงดำ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 9 ครั้ง แบ่งเป็น ชนะ 4 แพ้ 5
- 1974 : ชนะ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 4-0 แข่งที่ เมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม (เกมรอบรีเพลย์ หลังจากเสมอกัน 1-1)
- 1975 : ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-0 แข่งที่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- 1976 : ชนะ แซงต์-เอเตียน (ฝรั่งเศส) 1-0 แข่งที่ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์
- 1982 : แพ้ แอสตัน วิลล่า (อังกฤษ) 0-1 แข่งที่ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์
- 1987 : แพ้ เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 1-2 แข่งที่ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย
- 1999 : แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1-2 แข่งที่ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
- 2001 : เสมอ บาเลนเซีย (สเปน) 1-1 (บาเยิร์น ชนะในการดวลจุดโทษตัดสิน 5-4) แข่งที่ เมืองมิบาน ประเทศอิตาลี
- 2010 : แพ้ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0-2 แข่งที่ เมืองมาดริด ประเทศสเปน
- 2012 : เสมอ เชลซี (อังกฤษ) 1-1 (บาเยิร์น แพ้ในการดวลจุดโทษตัดสิน 3-4) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน

 


- บาเยิร์น คว้าแชมป์ระดับยุโรปรายการอื่นๆคือ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ปี 1967 และ ยูฟ่า คัพ (ยูโรปา ลีก) ปี 1996
- ดอร์ทมุนด์ เคยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อปี 1997 และเป็นฝ่ายคว้าแชมป์หลังไล่ทุบ ยูเวนตุส 3-1
- นอกจากนี้ เสือเหลือง เคยได้แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1966 ก่อนพลาดท่าเป็นแค่รองแชมป์ ยูฟ่า คัพ (ยูโรปา ลีก) ในปี 1993 และ 2002
- เทรนเนอร์ที่พา ดอร์ทมุนด์ คว้าถ้วยบิ๊กเอียร์เมื่อปี 1997 คือ อ็อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ ที่เคยนำ บาเยิร์น ประสบความสำเร็จในรายการเดียวกันในปี 2001
- หลังจบเกมนี้ ทีมจาก เยอรมัน จะเป็นเจ้ายุโรป สมัยที่ 3 ไม่ว่าทีมใดจะเป็นผู้ชนะ
- ถ้า บาเยิร์น เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส จะเป็นกุนซือคนที่ 19 ที่คว้าถ้วยบิ๊กเอียร์มาครองเป็นสมัยที่ 2 หลังจากเคยนำ เรอัล มาดริด ยึดบัลลังก์ยุโรปเมื่อปี 1998 แล้วจะเป็นกุนซือลำดับที่ 4 ที่คว้าแชมป์กับ 2 สโมสร ต่อจาก แอร์นส์ท ฮัปเปิล (เฟเยนูร์ด ปี 1970, ฮัมบูร์ก 1983), อ็อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ (ดอร์ทมุนด์ 1997, บาเยิร์น 2001), โชเซ่ มูรินโญ่ (ปอร์โต้ 2004, อินเตอร์ มิลาน 2010)
- บาเยิร์น พบกับคู่แข่งร่วมลีกในฟุตบอลยุโรปทั้งหมด 7 ครั้ง แบ่งเป็น ชนะ 4 แพ้ 3
- ครั้งล่าสุดที่ บาเยิร์น พบดวลกับทีมร่วมลีกในฟุตบอลยุโรปคือ เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองฯ ซีซั่น 1998-99 ทโดยพวกเขาเป็นฝ่ายฝ่าด่าน ไกเซอร์สเลาเทิร์น ด้วยผลแระตูรวม 2 นัด 6-0
- บาเยิร์น เคยบุกไปคว้าชัยใน กรุงลอนดอน มาแล้วในเกมที่สอย อาร์เซน่อล 3-1 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม โดยนับเป็นชัยชนะนัดแรกจาก 6 เกมหลังที่เล่นใน ลอนดอน ที่เหลือเป็น เสมอ 2แพ้ 3
- ดอร์ทมุนด์ ก็เคยชนะมาแล้ว 1 ครั้งในการมาเยือน ลอนดอน ในเกมที่เชือด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ใน ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1965-66 ก่อนผ่านเข้าไปเถลิงแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากนั้น เสือเหลือง พบแต่ความปราชัยในการบุกไปดวลกับ อาร์เซน่อล เมือซีซั่น 2002-23 และปีที่แล้ว
- ดอร์ทมุนด์ บุกมายันเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาลนี้ ทำให้สถิติในการเล่นบนแผ่นดินเมืองผู้ดีของ เสือเหลือง เป็น ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 4
- ดอร์ทมุนด์ ชนะเพียง 1 จาก 6 เกมเยือนระหว่างเส้นทางสู่รอบชิงดำถ้วยบิ๊กเอียร์ ส่วน บาเยิร์น เก็บชัยได้ 4 นัด โดย 3 แมตช์ล่าสุดเป็นการคว้าชัยเหนือ อาร์เซน่อล, ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า
- บาเยิร์น ชนะทั้ง 4 เกมในรอบก่อนรองฯและรอบรองฯ โดยที่ไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว โดยมีเพียง 5 ทีมเท่านั้นในประวัติศาสตร์การแข่งขันที่ทำได้เช่นนี้
- เกมระหว่าง บาเยิร์น กับ ดอร์ทมุนด์ จะเป็นนัดชิงชนะเลิศ ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งที่ 7 ที่จัดขึ้นใน เวมบลีย์
- นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งที่ 4 สำหรับนัดชิงดำที่ 2 ผู้ท้าชิงมาจากประเทศเดียวกัน ก่อนหน้านี้เป็น เรอัล มาดริด ชนะ บาเลนเซีย ปี 2000, มิลาน ชนะ ยูเวนตุส ปี 2003 และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี ปี 2008 โดยมีเพียง ปีศาจแดง ที่จบฤดูกาลด้วยอันดับในลีกที่เหนือกว่าคู่ชิง
- บาเยิร์น มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นทีมแรกของ เยอรมัน ที่คว้า 3 แชมป์เมเจอร์ (บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และ แชมเปี้ยนส์ ลีก) ในฤดูกาลเดียวกัน
- สถิติในการดวลจุดโทษตัดสินในฟุตบอลยุโรปของ ดอร์ทมุนด์ คือ ชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 3-1 ในเกมยูฟ่า คัพ รอบ 3 ฤดูกาล 1999-2000 และ ชนะ โอแซร์ 6-5 ในเกมยูฟ่า รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 1992-93
- สถิติในการดวลจุดโทษตัดสินในฟุตบอลยุโรปของ บาเยิร์น คือ แพ้ เชลซี 3-4 เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2011-12, ชนะ เรอัล มาดริด 3-1 เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ ฤดูกาล 2011-12, ชนะ บาเลนเซีย 5-4 เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2000-01, ชนะ พีเอโอเค เกมยูฟ่า คัพ รอบ 2 ฤดูกาล 1983-84 และ ชนะ แอตวิดาเบิร์กส์ 4-3 ในเกมยูโรเปี้ยน คัพ รอบแรก ฤดูกสล 1973-74
- ดอร์ทมุนด์ เคยดวลจุดโทษตัดสินกับ บาเยิร์น เพียงครั้งเดียว และเป็นฝ่ายชนะ 5-4 หลังเสมอ 2-2 ในเกมเดเอฟเบ โพคาล รอบ 2 ซีซั่น 1992-93
- แฟนบอลดอร์ทมุนด์มีโอกาสเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หลัง เสือเหลือง คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 1997 หลังจากคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยติดก่อนเสียแชมป์ให้ บาเยิร์น ในปีดังกล่าว โดยแชมเดเอฟเบ โพคาล ตกเป็นของ สตุ๊ตการ์ท ในเวลานี้ บาเยิร์น ซิวถาดแชมป์ลีกเมืองเบียร์ไปแล้ว และ สตุ๊ตการ์ท กำลังรอเล่นนัดชิงดำ เดเอฟเบ โพคาล ในวันที่ 1 มิ.ย. นี้
- มาริโอ เกิทเซ่ ของ ดอร์ทมุนด์ เป็นนักเตะที่ยังอยู่ในการแข่งขันและทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดที่ 5 ครั้ง
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นดาวยิงสูงสุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ของเสือเหลือง หลังซัดไปแล้ว 10 ประตู แถมมีลุ้นคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของรายการอีกด้วย หลังตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ เรอัล มาดริด แค่ 2 ลูกเท่านั้น ส่วนผู้ที่ทำประตูได้มากสุดของ บาเยิร์น ในรายการนี้คือ โธมัส มุลเลอร์ ที่ 8 ประตู
- เนเว่น ซูโบติช และ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เป็น 2 นักเตะที่เคลียร์บอลทิ้งมากที่สุดในรายการนี้ด้วยจำนวน 133 และ 106 ครั้งตามลำดับ
- 6 จาก 10 ประตูที่ บาเยิร์น เสียไปในฤดูกาลนี้เกิดขึ้นในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
- เสือใต้ ทำประตูจากลูกโหม่งได้มากที่สุดในการแข่งขัน ซีซั่นนี้

 


สถิติอื่นๆ
- เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยดวลกับ บาเยิร์น มาแล้ว 20 นัดตลอดเส้นทางการเป็นเทรนเนอร์ที่ ไมน์ซ และ ดอร์ทมุนด์ โดยมีสถิติที่ ชนะ 5 เสมอ 4แพ้ 11
- ระหว่างที่กุมบังเหียน เรอัล มาดริด จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ล้มแชมป์เก่าอย่าง ดอร์ทมุนด์ ด้วยผลประตูรวม 2 นัด 2-0 ในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 1997-98 ก่อยขึ้นไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ส่วนสถิติของ ไฮย์เกส ในการคุมทีมเมืองเบียร์เผชิญหน้ากับ เสือเหลือง เป็น ชนะ 20 เสมอ 13 แพ้ 11
- จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เริ่มงานโค้ชกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค แล้วในฤดูกาลแรกใน ฟุตบอลยุโรป เมื่อปี 1980 เจ้าตัวก็สามารถพา สิงห์หนุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบชิงดำ ศึกยูฟ่า คัพ ไปพบกับทีมร่วมลีกอย่าง ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต แต่เป็นฝ่ายแพ้ด้วยกฎอเวย์โกล์
- ใน 3 ฤดูกาลของ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เจ้าตัวพาต้นสังกัดผ่านเข้าสู่รอบชิงดำได้ทั้งหมด (เรอัล มาดริด ปี 1998, บาเยิร์น 2012 และ 2013)
- ไฮย์เกส ดวลกับ ดอร์ทมุนด์ ในฐานะนักเตะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค มาแล้ว 15 ครั้ง แบ่งเป็น ชนะ 6 เสมอ 6 แพ้ 3 โดยเจ้าตัวเคยยิง 5 ประตูในเกมที่ สิงห์หนุ่ม ถล่ม เสือเหลือง 12-0 เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ปี 1978 ซึ่งยังคงเป็นสถิติที่เกมที่สกอร์ห่างที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาจนถึง เวลานี้
- นอกจากนั้น ไฮย์เกส ในสมัยที่เป็นนักเตะสิงห์หนุ่ม เป็นฝ่ายคว้าชัยใน 3 เกมที่พบกับทีมจาก เยอรมัน ในฟุตบอลยุโรป โดยเจ้าตัวซัดแฮตทริคในเกมที่ถล่ม ไกเซอร์สเลาเทิร์น 7-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ ปี 1973
- มัทธีอาส ซามเมอร์ ผู้อำนวยการกีฬาของ บาเยิร์น คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 1997 ส่วนในฐานะโค้ช ซามเมอร์ เคยนำ เสือเหลือง เถลิงแชมป์บุนเดสลีกา และกรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ ปี 2002
- มาริโอ เกิทเซ่ เพลย์เมกเกอร์ดอร์ทมุนด์ จะย้ายไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ส่วน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เซนเตอร์แบ็กเสือเหลือง เซ็นสัญญาย้ายมาเล่นในถิ่น ซิกนั่ล อิดูน่า พาร์ค หลังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทัพเสือใต้ได้ เมื่อปี 2009

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »