"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ผงาดครองตำแหน่งจ้าวสโมสรยูโรปได้สำเร็จหลัง อาร์เยน ร็อบเบน สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัย น.89 เฉือน "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแบบสุดมันส์ 2-1 ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2012-2013) เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

(รอบชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2012-2013)

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 2556

ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) 1   -   2 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน) 

สนาม : เวมบลี่ย์, ลอนดอน, อังกฤษ (สนามกลาง)

        นัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่างสองเสือเมืองเบียร์ ดอร์ทมุนด์ ของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ได้มัทส์ ฮุมเมิ่ล หายเจ็บกลับมาลงสนามได้แต่ไม่มีมาริโอ เกิทเซ่ ที่เจ็บขณะที่ตัวจริงคนอื่นๆพร้อมนำโดยมาร์โค รอยส์, ยาคุม บลาซซิคอฟสกี้ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

        ส่วนบาเยิร์น มิวยิค ยึดชุดเก่งลงสนามนำโดยฟิลิปป์ ลาห์ม, ฆาบี มาร์ติเนซ, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ และ มาริโอ มานด์ซูคิช โดยก่อนเกมได้มีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่

        เริ่มเกมขึ้นมาเป็นดอร์ทมุนด์ ที่เดินเกมรุกมากกว่าบาเยิร์น แต่ยังหาจังหวะเน้นๆไม่ได้กระทั่งนาทีที่ 10 "เสือเหลือง" ได้จังหวะโต้กลับเร็ว บลาซซิคอฟสกี้ ขึ้นบอลทางขวาแล้วจ่ายเข้ากลางไปติดมาร์ติเนซ กลับมาถึงบลาซซิคอฟสกี้ ได้ยิงสวนแต่เหินข้ามคานไป

        เกมผ่านถึงนาที 13 โอกาสเป็นของดอร์ทมุนด์ อีกครั้งเมื่อเลวานดอฟสกี้ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนบรรจงยิงปั่นโค้งด้วยขวา บอลกำลังจะมุดคานแต่มานูเอล นอยเออร์ ยังปิดทิ้งออกหลังไปได้

        นาทีถัดมา "เสือเหลือง" น่าได้ประตูอย่างที่สุดเมื่อกุนโดแกน จ่ายบอลออกริมเส้นฝั่งขวาให้มาร์โค รอยส์ ปาดเข้ากลางมาให้ยาคุบ บลาซซิคอฟสกี้ ได้ยิงอีกครั้งแต่ยังติดเซฟด้วยขาของนอยเออร์ ออกไปอย่างน่าเสียดาย

        ยังเป็นดอร์ทมุนด์ ที่ทำได้ดีกว่านาที 19 ได้เสียวอีกครั้งจากจังหวะ โกรสครอยท์ซแทงทะลุช่องให้มาร์โค รอยส์ หลุดไปทางซ้ายก่อนกดเต็มๆแต่นอยเออร์ ยังป้องกันได้อีกครั้ง

        "เสือเหลือง" ดีกว่าชัดเจนนาที 21 เรียกเสียงฮือจากแฟนบอลได้อีกครั้งจากจังหวะที่โกรสครอยท์ซ ตามไปเก็บบอลทางซ้ายก่อนจ่ายตบเข้ากลางให้สเวน เบนเดอร์ เติมขึ้นมายิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษแต่นอยเออร์ รับได้อยู่มือ

        กว่าบาเยิร์น จะมีลุ้นเกมก็เข้าสู่นาทีที่ 26 เมื่อ ฟร้องค์ ริเบรี่ ได้บอลทางซ้ายแล้วเปิดไปมาหน้าประตูให้มาริโอ มานด์ซูคิช โขกแต่โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ปัดบอลไปเช็ดคานออกหลังไป

        จากลูกเตะมุมบาเยิร์น เกือบได้ประตูเมื่อชไวน์สไตเก้น เปิดบอลไปให้ฆาบี มาร์ติเนซ โขกแต่หลุดกรอบออกไปฃ

        ทั้งสองทีมยังเดินเกมบุกแลกกันสนุกนาที 30 "เสือใต้" น่าได้ประตูออกนำสุดเมื่ออาร์เย่น ร็อบเบน หลุดเดี่ยวไปทางขวาก่อนลากเข้าหาประตู แต่ทว่าร็อบเบน กลับยิงไปติดเซฟด้วยหน้าอกของ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์

        5 นาทีถัดมาสลับเป็นดอร์ทมุนด์ ได้โอกาสขึ้นนำบ้างมาร์โค รอยส์ จ่ายให้เลวานดอฟสกี้ พลิกบอลเข้าไปยิงทางขวาของเขตโทษ แต่นอยเออร์ ก็ยังเซฟได้เยี่ยม

        ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 42 บาเยิร์น ได้ลุ้นอีกครั้งจากการวางบอลยาวไปหน้าประตู แต่มัทส์ ฮุมเมิ่ล กองหลังดอร์ทมุนด์ สกัดบอลไปขาดบอลไปถึงร็อบเบน ได้ยิงแต่ก็ยังติดเซฟของไวเดนเฟลเลอร์ ก่อนที่จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0



        กลับมาเล่นครึ่งหลังทั้งสองทีมยังเปิดเกมบุกแลกกันสนุกและเป็นบาเยิร์น มิวนิค ที่ออกนำก่อนจากจังหวะที่ขึ้นบอลมาทางซ้ายริเบรี่ แทงทะลุช่องให้ร็อบเบน ลากสุดเส้นหลังแล้วจ่ายเข้ากลางให้มานด์ชูคิช ยิงเข้าไป "เสือใต้" นำ 1-0

        พอโดนนำดอร์ทมุนด์ เปิดเกมบุกทันทีและมาได้ลูกจุดโทษในนาที 67 เมื่อมาร์โค รอยส์ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนโดนดันเต้ เตะล้มลงไปนิโกล่า ริซโซลี่ ผู้ตัดสินจากอิตาลี เป่าฟาวล์ทันทีและเป็นอิลคาย กุนโดแกน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด สกอร์เท่ากันที่ 1-1

        ผ่านถึงนาที 72 "เสือใต้" น่าได้ประตูที่สองอย่างที่สุดเมื่อโธมัส มุลเลอร์ หลุดไปทางขวาก่อนแตะหนีไวเดนเฟลเลอร์ แล้วจ่ายมาหน้าประตู บอลกำลังจะถึงร็อบเบน ที่หน้าประตูโล่งๆแต่เนเว่น ซูโบติช วิ่งตามมาสกัดทิ้งได้แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

        2 นาทีถัดมาดอร์ทมุนด์ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายจากจังหวะวอลเล่ย์สุดสวยของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลไปก่อน

        เกมเริ่มเปิดนาที 76 ดาวิด อลาบา ได้โอกาสเติมขึ้นมายิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ พุ่งไปปัดทิ้งออกหลังได้ยอดเยี่ยม

        เกมทำท่าจะจบลงที่ผลเสมอแต่แล้วนาทีที่ 89 เสือใต้ มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ฟร้องค์ ริเบรี่ ดีดลูกส้นต่อให้  อาร์เยน ร็อบเบน ใช้ความเร็วโฉบเาอบอลเข้าไปยิงสวนตัว โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ เข้าไป

        ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้จบเกม บาเยิร์น มิวนิค เฉือน ดอร์ทมุนด์ ท้ายเกม 2-1 ผงาดคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ นับเป็นแชมป์สมัยที่ 5 จากการเข้าชิงฯ 10 ครั้งของ บาเยิร์น มิวนิค อีกด้วย



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ (กัปตันทีม) - ลูคัสซ์ พิซเซ็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - สเวน เบนเดอร์ (นูริ ซาฮิน น.92), อิลคาย กุนโดแกน - ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ (จูเลี่ยน ชีเบอร์ น.91), มาร์โค รอยส์, เควิน โกรสครอยท์ซ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
        สำรอง : มิทเชลล์ ลันเกรัค (ผู้รักษาประตู), เซบาสเตียน เคห์ล, โมริทซ์ เล็ตเนอร์, โอลิเวอร์ เคิร์ช, เฟลิเป้ ซานตาน่า

ใบเหลือง : เควิน โกรสครอยท์ซ น.73

        บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), เยโรม บัวเต็ง, ดันเต้ บอมฟิม, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ (ลุยส์ กุสตาโว่ น.91) - มาริโอ มานด์ซูคิช (มาริโอ โกเมซ น.94)
        สำรอง : ทอม สต๊าร์ค (ผู้รักษาประตู), ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, เซอร์ดาน ชากิรี่, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, อนาโตลี่ ติมอสชุค

ใบเหลือง : ดันเต้ บอมฟิม น.29, ฟร้องค์ ริเบรี่ น.73

        ผู้ตัดสิน : นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์	สถิติหลังเกม	บาเยิร์น มิวนิค
12(7)	ยิงทั้งหมด (เข้ากรอบ)	17(10)
11	ฟาวล์	8
6	เตะมุม	8
1	ล้ำหน้า	4
39%	เปอร์เซนต์การครองบอล	61%
1	ใบเหลือง	2
0	ใบแดง	0
8	ช็อตเซฟ	6