''เสก โลโซ'' แจงคลิปทุ่มกีตาร์เป็นฟีลลิ่งเพลงร็อก เผยศิลปินต่างชาติก็ทำกัน วอนอย่ามองเป็นการแสดงความป่าเถื่อนหรือว่าตนเป็นคนเลว รับรู้สึกแย่ที่บางคนคิดว่าตนกลับไปใช้ยาเสพติด ลั่นเป็นลูกผู้ชายพอ เลิกก็คือเลิก ไม่มีทางกลับไปทำผิดซ้ำ

    จากกรณีนักร้องเพลงร็อกรุ่นใหญ่  ''เสก'' นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ เกิดมีเรื่องฉาวอีกครั้ง เมื่อมีคลิปเจ้าตัวกำลังร้องเพลงระเบิดอารมณ์ทุ่มกีตาร์ และกระทืบซ้ำกลางเวทีแสดงคอนเสิร์ตที่ จ.ขอนแก่น เผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งทาง ''กานต์'' วิภากร ศุขพิมาย ภรรยาของ เสก โลโซ  ได้โพสต์ข้อความชี้แจง ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า  Karn Wiphakorn ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่าว่า ''คลิปที่พี่เสกพังกีตาร์ที่ตะวันแดงขอนแก่นไม่ต้องตกใจนะคะ มันเป็นคอนเซปต์อัลบั้มชุดใหม่ที่ออกจะฮาร์ดคอร์ไปสักหน่อย เร็วๆ นี้พบกับเพลงใหม่ ขอตายในอ้อมกอดเธอ โดนใจมากขอบอก'' ก่อนที่ข้อความนี้จะถูกลบทิ้งในเวลาต่อมา
    

    นอกจากนี้ ''กานต์-วิภากร'' ยังได้เปิดเผยผ่านสื่อว่า คลิปดังกล่าวไม่มีอะไร เป็นฟีลลิ่งอารมณ์พาไป ขอยืนยันว่าสามีไม่ได้เมาอย่างแน่นอน โดยในวันที่ 4 มิถุนายน ทาง เสก โลโซ จะมีแถลงข่าวอัลบั้มใหม่ และจะพูดทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
    

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 56  เสก โลโซ ได้เปิดใจผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่าคลิปดังกล่าวตนเป็นคนโพสต์ลงเฟซบุ๊กเอง เป็นฟีลลิ่งในการเล่นคอนเสิร์ต สนุกสนานอารมณ์  ส่วนตัวไม่ได้มองว่าแปลกหรือพิสดารอะไร ''ผมเป็นคนโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก จริงๆ แล้วการทุบกีตาร์เกิดมานานแล้วในต่างประเทศ ซึ่งทำกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น เจมี่ เฮนดริกซ์ วงเดอะฮู หรือแม้แต่ จิม มอร์ริสัน เนอร์วาน่า แต่คนไทยอาจไม่เคยเห็น เลยรู้สึกตกใจที่เห็นตนทำแบบนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นศิลปะ ดนตรีสไตล์ร็อก แอนด์ โรล มันก็ต้องมีดุเด็ดเผ็ดมันส์บ้าง ที่สำคัญการฟาดกีตาร์ตนไม่ได้ทำครั้งแรก แต่ทำมาหลายครั้งแล้ว เพียงแต่เมื่อก่อนยังไม่มีการโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตก็เท่านั้นเอง ผมก็ไม่ได้ฟาดยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะให้ออกมาแสดงถึงความป่าเถื่อนแต่อย่างใด อย่ามองว่าตนเป็นคนเลว เพราะการกระทำสิ้งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จะบ่งบอกว่าตนนั้นเลว''
    

    อย่างไรก็ตาม เสก โลโซ ยอมรับว่า ''รู้สึกแย่ที่กระแสเสียงวิจารณ์ส่วนหนึ่งกล่าวหาว่าตนกลับไปใช้ยาเสพติด ยืนยันว่าตนเป็นลูกผู้ชายพอ บอกว่าเลิกก็คือเลิก ตนเองก็มีความปราถนาดีและรับผิดชอบกับประเทศนี้ สิ่งไหนเคยทำผิดก็แก้ไข และจะไม่มีวันกลับไปทำผิดซ้ำแน่นอน'' ร็อกเกอร์รุ่นใหญ่กล่าวทิ้งท้าย