"เสก โลโซ" ฉี่โชว์ต่อหน้าสื่อ พร้อมดึงเจ้าหน้าที่ รพ.ธัญญารักษ์ ตรวจฉี่พิสูจน์เลิกยาจริง ๆ บอกเตรียมทำโครงการ "ชวนน้องเลิกยา" จัดมิตติ้งทุกเดือน ปลื้ม! ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ ฯ ร่วมสนับสนุน
       
         หลังจากที่มีคลิปของนักร้องดัง“เสก โลโซ” ทุ่มกีตาร์ลงกับพื้นเวทีระหว่างทำการแสดงเผยแพร่ออกมาจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะบอกว่าเสกอยู่ในการเมายา ก่อนที่ในภายหลังนักร้องดังจะออกมาเปิดเผยว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นเป็นเรื่องปกติของคนที่เล่นดนตรีในแนวร็อก พร้อมยืนยันว่าไม่มีอาการเมาสุรา หรือมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
       
         ล่าสุดในวันนี้ทางนักร้องชื่อดัง "เสก โลโซ" ซึ่งได้ให้มีงานแถลงข่าว คอนเสิร์ตการกุศล "ผู้กล้า Rock'n Roll For Thailand โดย เสก โลโซ และผองเพื่อนศิลปิน รายได้ทั้งหมดจะนำไปช่วยทหารทางภาคใต้ ซึ่งเสกได้เชิญทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ "พันตำรวจเอก ประสพโชค พร้อมมูลฎ นายแพทย์จิโรจน์ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันธัญญารักษ์ และคุณป้อมตัวแทนจาก ธัญญารักษณ์ รวมถึงทหาร "พันเอกสมศักดิ์ ฤทธิรงค์วัฒนา" ได้เข้าร่วมเป็นพยานพิสูจน์การตรวจหาสิ่งเสพติดโชว์ให้กับผู้สื่อข่าวดูด้วย
       
         เหตุผลการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้เพราะอยากจะช่วยทหาร ตำรวจภาคใต้ที่ถูกฆ่า ยันไม่ได้ทุบกีตาร์เพื่อโปรโมตคอนเสิร์ตหรือเพื่อให้ตัวเองดัง เพราะดังอยู่แล้วเผยไม่คิดสร้างกระแส
       
         "จัดคอนเสิร์ตขึ้นมาเพราะผมอยากจะช่วยภาคใต้ เพราะผมดูทีวีเห็นทหารตำรวจโดนฆ่าตลอด ตอนนี้มั่นใจว่าตัวเอง ปลอดสารเสพติดร้อยเปอร์เซ็นต์ล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดื่มบ้างตอนเล่นคอนเสิร์ตพอได้ฟิล ผมก็ขอบคุณที่ทุกคนมาในวันนี้มันก็ถือได้ว่าเชื่อใจผม ผมถือว่าทุกคนเป็นพี่น้องกันนะผมไม่ค่อยชอบการแถลงข่าว ผมบอกตรงๆผมไม่ได้ทำเหตุการณ์นี้เพื่อที่จะทำให้ตัวเองดังขึ้นมาเพราะผมก็ดังอยู่แล้วนะ ผมก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ที่ผมทำเพราะมันเป็นวิถีของผมถ้าไม่สบายใจก็อย่าคิดอะไรขนาดนั้น การที่คนทุบกีตาร์ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายใหญ่โตขนาดนั้นเราก็ทำดีตลอดกับชาตินี้ประเทศนี้"
       
         "ผมคิดจะจัดคอนเสิร์ตนี้ตั้งนานแล้วไม่เชื่อถามพี่เจ้าของร้านดูสิ ติดต่อไปตั้งนานแล้ว ผมติดต่อเพื่อนตั้งแต่ก่อนหน้าแล้วครับ ผมจะออกเทปผมก็ออกมาเลย ผมไม่ใช่พวกที่ไม่เคยดังแล้วก็ไม่เคยรู้สึกถึงรสชาติความดัง ดังกว่านี้ผมก็เคยมาแล้วจริง ๆ แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่ได้ทำเพราะอยากดังผมไม่ชอบออกทีวีด้วยซ้ำไป เคยเห็นผมไปออกทีวีที่ไหน ผมจะออกมาแถลงข่าวสองปีครั้งหนึ่งด้วย ตอนเลิกยาก็แถลงข่าว การที่ผมทำเพื่อสร้างกระแสไม่มีเด็ดขาด"
       
         โครงการ"ชวนน้องเลิกยา" ฟีดแบคดี เพราะคนที่ติดยาหลายคนอยากจะเข้ามาร่วมโครงการ เจ้าตัวบอกเคยพลาดมาแล้วก็เลิกได้ เตือนน้องๆว่ายาเสพติดไม่ดี ซึ่งทางโครงการจะจัดมิตติ้งทุกเดือน เจ้าตัวบอกปลื้ม ทูลกระหม่อม ฯ ร่วมสนับสนุน
        
         "ฟีดแบคมีเยอะเลย มีแอดเฟสบุคเข้ามาเพื่ออยากร่วมโครงการนี้ ซึ่งผมบอกว่า ไม่ใช่ผมทำคนเดียว เดี๋ยวจะไม่เชื่อถือกัน เมื่อวานก็ได้คุยกับประธานของมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ ฯ นะครับ ท่านก็ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ด้วย น้องๆก็สนใจกันมาก แล้วก็ผมก็ถือว่าผมทำผิดไปแล้วไปติดยาผมเลิกได้ ก็อยากจะมาบอกทุกคนว่ายาเสพติดมันเลิกได้นะไม่ใช่ว่าเลิกไม่ได้เพราะฉะนั้นมามีชีวิตใหม่ดีกว่า"
       
         "ผมจัดมิตติ้งเดือนละครั้งนะแล้วเชิญทุกคนมาถ้าทุกคนสมัครใจ แล้วก็จะส่งทุกคนไปที่สถาบันธัญญารักษ์สถาบันรับตัวไปรักษาแล้วก็มามิ้ตติ้งกันทุกเดือน ซึ่งผมก็ทำอยู่ การเข้ากลุ่มก็จะมีการสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังสามเดือนผ่านไปห้าเดือนผ่านไปเป็นอย่างไรบ้างนี้คือสิ่งที่ผมทำตลอดปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งผมโชคดีหน่อยที่เป็นคนมีชื่อเสียง การเข้ากลุ่มของผมคือได้เจอกับแพทย์ นางพยายาลแล้วเขาก็จะมีจิตวิยาของเขา ดูเราว่าการแต่งตัวแบบนี้พูดจาแบบนี้เลิกยาหรือยัง หรือถ้าพูดง่ายๆถ้าคนติดยาก็คงไม่สามารถมานั่งแบบนี้ได้ โดยโครงการชวนน้องเลิกยาเพิ่งเริ่มต้นได้ 2 วัน ส่วนมิ้ตติ้งที่ผมบำบัดก็ได้ปีกว่า ซึ่งโครงการของผม จะทำเหมือนกัน"
       
         "คนติดยาคนหนึ่งพอโดนจับมารักษาที่โรงพยาบาลสองเดือนสามเดือนพอออกไป แล้วเขาไม่ยอมกลับมาพบแพทย์ทุกเดือนเวลา1 ปี พอเขาไม่ไปก็ไม่มีใครไปตามจับซึ่งคนติดยาในประเทศนี้เยอะมาก สถิติประมาณ10%ของคนไทยที่ติดยามันเยอะมาก ฉะนั้นเลยมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะช่วยคนเลิกยาและมุ่งหวังดีต่อประเทศชาติ"
       
         มีภรรยามาคอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ บอกคนที่มาม่ใช่ผู้ค้ายา สบายใจได้ เพราะจะพาไปรักษาจริงๆ ส่วนสุขภาพเจ้าตัวบอกหลังเลิกยาก้เริ่มอ้วนขึ้นบ้างแล้ว
       
         "มีโลโซ FC มีภรรยาผมก็ช่วยกันดูแลเรื่องความเรียบร้อยต่างๆนานา พอมีคนมาสมัครเราก็จะส่งไปที่สถาบันธัญญารักษ์โดยที่ไม่เกิดคดีเพราะผู้ที่มาสมัครจะเลิก คือท่านเป็นผู้ป่วยไม่ใช่ผู้ค้านะครับและเราจะนำท่านไปรักษาเหมือนคนที่เป็นไข้ก็ไปหาหมอแค่นั้น แล้วเราก็มีการตามว่าท่านเป็นยังไงบ้าง 1 ปีอาจจะรักษานานหน่อยพอหนึ่งปีผ่านไปทุกอย่างก็เรียบร้อย"
       
         "สุขภาพดีตอนนี้บอกว่า90%ตอนนี้กินเยอะมากแล้วก็เล่นคอนเสิร์ต ก็อวบขึ้นมาหน่อยแต่อีกสองเดือนจะมาผอมเหมือนเดิม 90%นี้ทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย มันดีกว่าก็ตรงเราไม่หวาดระแวงเราไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อก่อนผมก็เป็นคนไม่กลัวอะไรอยู่แล้วแต่พอเสพยาผมก็จะหวาดระแวงหลอนเหมือนมีคนตามจะมาทำร้ายเราตลอดเวลาผมก็ระวังตัวมากช่วงนั้น"