‘สยองโลกร้างปี’ เมื่อสองพ่อลูกต้องติดอยู่บนดวงดาวซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อคร่าชีวิตมนุษย์

“Fear is not real. It is a product of thoughts you create. Do not misunderstand me. Danger is very real. But fear is a choice.”
“ความกลัวไม่ใช่ของจริง แต่เป็นผลผลิตจากความคิดที่เราสร้างขึ้น อย่าเข้าใจพ่อผิด...อันตรายเป็นของจริงแต่ความกลัวเป็นแค่ทางเลือก” (Cypher Reige, After Earth)

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความกลัวแบบสุดขั้วหัวใจ...คุณผู้อ่านมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง ภาพยนตร์ประจำสัปดาห์นี้พอมีคำตอบให้ค่ะ รับรองว่า...ความกลัวไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นแค่ทางเลือกที่เรา “เอาอยู่” แน่ๆ

“After Earth” หรือชื่อไทยสุดโหดว่า “สยองโลกร้างปี” ผลงานกำกับของ ‘M. Night Shyamalan’ ซึ่งเคยฝากผลงานชื่อดังที่มีธีมหลักเกี่ยวกับความกลัวไว้แล้วอย่าง “The Sixth Sense” (1999)...ครั้งนี้เขาร่วมมือกับ Will Smith ซุปเปอร์สตาร์คนดังแห่งฮอลลีวูดปลุกปั้นเรื่องราวเหนือจินตนาการนี้ขึ้นมา โดยดึงตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ‘Jaden Smith’ มารับบท คีไท (Kitai) เรนเจอร์ (คล้ายๆ หน่วยรบรักษาดินแดนในโลกอนาคต) หนุ่มน้อยลูกชายของนายพล Cypher Reige (รับบทโดย Will Smith เอง) นักรบในตำนานของอาณาจักร Nova Prime ในโลกอนาคต

พ่อลูกได้ใช้เวลาด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

พ่อ ลูกตระกูล Smith โคจรมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากเคยเล่นด้วยกันมาแล้วในภาพยนตร์ดราม่าคิดบวกอย่าง ‘The Pursuit of Happiness’ (2006) ครั้งนี้เจเดนโตเป็นหนุ่มและได้รับบท “คีไท” พลรบรุ่นใหม่ผู้มีความทะเยอทะยานสูง ความกล้าหาญและความเข้มแข็งที่เขาเพียรสร้างเป็นเพียงกำแพงบางเบาที่ไม่มิ อาจปกปิดความกลัวในใจเขาได้...ว่าแต่พ่อหนุ่มน้อยคีไทกลัวอะไรนักหนา?

เมื่อคีไทต้องออกไปตามหาชิ้นส่วนยานอีกครึ่งที่สูญหายไปพร้อมเครื่องรับส่งสัญญาณกู้ภัย

“ความกลัว” ในเรื่องมีสองอย่างค่ะ อย่างแรกคือสัตว์ประหลาดหน้าตาน่าเกลียดที่มนุษย์ต่างดาวนำมาปล่อยใน Nova Prime เพื่อทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ หน่วยรบพิเศษเรนเจอร์ซึ่งคีไทกับพ่อสังกัดมีหน้าที่รักษาอาณาจักรและกำจัด บรรดาสัตว์ประหลาดเหล่านี้ ความพิเศษของพวกสัตว์ประหลาดก็คือเซ็นเซอร์จับความกลัวและสามารถลงมือสังหาร เหยื่อได้อย่างเลือดเย็น เพราะฉะนั้น...การหนีรอดจากอสูรกายนี้ต้องไม่มีความกลัวให้พวกมันจับได้

กำแพงจิตใจที่แน่นหนาไม่สามารถปกป้องความอ่อนแอในใจได้

อย่างที่สองคือความกลัวในใจคีไทเอง ประสบการณ์เลวร้ายวัยเด็กทำให้ฝังใจ ภาพความทรงจำร้ายๆตามหลอกหลอนและทำให้เขาสับสนระหว่างความเข้มแข็งและความอ่อนแอ กำแพงหนาหนักที่เขาสร้างขึ้นไม่ช่วยให้เขาอบอุ่นใจแต่กลับเหน็บหนาว เพราะความรู้สึกผิดในใจถึงอดีตอันเลวร้าย...

เมื่อพ่อซึ่งบาดเจ็บสาหัสต้องสั่งเสียลูกชายเพียงคนเดียวให้ออกไปตามมาชิ้นส่วนยานตามลำพัง

ว่าแต่ความทรงจำวัยเด็กทำร้ายกันขนาดนั้นเชียวหรือ? คุณผู้อ่านคงต้องไปไขความลับของ “ความกลัว” ได้ในโรงภาพยนตร์ แต่ประเด็นน่าสนใจสำหรับเรื่องนี้อยู่ที่การจัดการกับความกลัวต่างหาก สองพ่อลูกมีวิธีรับมือที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...ลองมาดูกันว่าวิธีของ ใครได้ผลมากกว่ากัน

ทุกครั้งที่สติแตก คีไทมักจะถูกสั่งให้คุกเข่าเพื่อเรียกสติกลับคืน

เริ่มที่คุณลูก...คีไทมีอดีตแสนเจ็บปวดทำให้เย็นชาและพยายามสร้างกำแพงหนาปกป้องตัวเอง ความเฉยชาถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความแข็งกระด้าง เขาคิดว่าความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวและไม่กลัวตายจะทำให้มีความสามารถมากกว่าคนอื่น แต่เมื่อต้องติดบนโลก...ซึ่งในเรื่องถูกทิ้งร้างปราศจากมนุษย์มากว่าหลายร้อยปี เขากลับควบคุมตัวเองไม่ได้...หรือภารกิจกอบกู้ยานจะเป็นเรื่องเกินกำลังเขาจริงๆ

โฉมหน้านายพล Cypher Reige เรนเจอร์ในตำนาน...พ่อของคีไท

ตามด้วยคุณพ่อ...อดีตนายพลผู้เป็นตำนานของอาณาจักร Nova Prime ผ่านความเป็นความตายนับไม่ถ้วนจนแทบไม่รู้สึกว่าความกลัวเป็นเรื่องน่าหวาดหวั่น และเพราะคุณสมบัตินี้ทำให้เขาโดดเด่นเหนือคนอื่น...ไม่ว่าเกิดวิกฤติแค่ไหนก็ ไม่ทำให้เขาถอดใจ เขาพยายามถ่ายทอดทุกอย่างที่เคยสัมผัสให้ลูกชายแต่คีไทกลับตั้งแง่ในความรักของพ่อ เข้าใจผิดไปเองว่าพ่อขี้ขลาดและไม่ไว้ใจในตัวเขา

เมื่อสองพ่อลูกเจอวิกฤติ ทางที่ดีที่สุดคือการตั้งสติเพื่อตั้งรับอันตรายไม่ว่ารูปแบบไหน

เรื่องของพ่อกับลูกคงเดาได้ไม่ยากแต่เรื่องความกลัวต่างหากที่น่าคิดต่อ...ถ้าความกลัวเป็นแค่สิ่งที่เราสร้างขึ้นเพราะแรงกดดันในใจ หรือเป็นแค่รูปแบบหนึ่งของความคิดและคงห้ามไม่ให้มันออกมาไม่ได้ สิ่งสำคัญก็คือวิธีการจัดการกับมันไม่ให้กลายเป็นปัญหาหรือความทุกข์ใจตามมา...เรื่องของเรื่องคือการสอนให้เรารู้จักใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ว่าความกลัวหรือปัญหามาทักทายเมื่อไหร่ก็ไม่ทำให้สั่นสะเทือนเพราะเรามี สติเหมือนไฟส่องทางให้เราหาทางออกสวยๆ เสมอ