แซมบ้าโชว์!อัดอัซซูรี่4-2ยังควงลิ่วคอนเฟดฯ
Posted 23/06/2013 by siamsport
ฟุตบอล คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ.) นัดสุดท้าย
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556
บราซิล 4 - 2 อิตาลี
สนาม : อารีน่า ฟอนเต้ โนบา, ซัลวาดอร์
เกมนี้ทั้งสอมทีมผ่านเข้ารอบเป็นที่แน่นอนแล้ว เหลือเพียงใครจะเข้ารอบเป็นอันดับ 1 หรือ 2 เท่านั้น โดยเกมนี้ "เจ้าภาพ" บราซิล ยังเต็มไปด้วยผู้เล่นชุดใหญ่ มีเพียง แอร์นาเนส ที่เกมนี้ได้ลงสนามเป็นสิบเอ็ดคนแรก
ขณะที่ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ เทรนเนอร์ "อัซซูรี่" อิตาลี เกมนี้เปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่งเนื่องจาก ดานิเอเล่ เด รอสซี่ โดนโทษแบน แถม อันเดรีย ปีร์โล่ ก็ยังมามีอาการบาดเจ็บ ทำให้ อันโตนิโอ คันเดรว่า และ อเลสซานโดร เดียมานติ ลงสนามแทน
<% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%><% response.ContentType="text/html; charset=tis-620"%>
เริ่มเกมมา บราซิล เปิดเกมบุกทันที และเกือบได้ประตูออกนำก่อนตั้งแต่นาทีแรกเมื่อ ฮัลค์ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนสับไกยิงแต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ล้มตัวปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 8 ดาวิด ลุยซ์ รับใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกมหลังไปเตะ มาริโอ บาโลเตลลี่ จากทางด้านหลัง
นาทีที่ 17 เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ลากบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ มาริโอ บาโลเตลลี่ ยิงได้ไม่ถนัดนัก บอลเลยหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 24 ขุนพลแซมบ้า ทำเกมขึ้นมาได้สวย เฟร็ด ตอกส้นให้ เนย์มาร์ หลุดแนวรับทีมเยือนเข้าไปยิงหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 26 อัซซูรี่ ขยับเปลี่ยนตัวโดยส่ง เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ลงสนามมาแทน ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่
นาทีที่ 28 เนย์มาร์ รับใบเหลือง หลังไปทำฟาวล์ใส่ อินยาซิโอ อบาเต้ อย่างหนัก
นาทีที่ 30 อิตาลี ต้องเปลี่ยนเอา อินยาซิโอ อบาเต้ ออกจากสนาม หลังได้รับบาดเจ็บจากจังหวะที่ เนย์มาร์ เสียบสกัด โดยส่ง คริสเตียน มาจโจ้ ลงแทน
นาทีที่ 34 เจ้าบ้านก็ต้องเปลี่ยนตัวเช่นกันหลัง ดาวิด ลุยซ์ ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องลงเปลออกจากสนาม โดยให้ ดันเต้ ลงมาเล่นแทน
นาทีที่ 40 เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ของอิตาลีก็โดนใบเหลืองอีกคน หลังไปทำฟาวล์หยุดเกมใส่ ดันเต้
นาทีที่ 43 เนย์มาร์ ได้โอกาสยิงหน้าเขตโทษอีกครั้ง แต่ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ตามมาบล็อกเอาไว้ได้
นาทีต่อมา หลุยส์ กุสตาโว่ รับใบเหลืองหลังไปทำฟาวล์ใส่ อันโตนิโอ คันเดรว่า
ช่วงทดเจ็บ บราซิลมาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ เนย์มาร์ เปิดเข้าไปหน้าประตู เฟร็ด ขึ้นโขกเต็มหัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดเอาไว้ได้ แต่บอลไปเข้าทาง ดันเต้ ที่ตามมาซ้ำเข้าไปไม่เหลือ บราซิล ออกนำ 1-0 ด้วยสกอร์นี้ในครึ่งเวลาแรก
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง แค่นาทีเดียว ทัพแซมบ้าก็ได้ลุ้นก่อนเลย ออสการ์ ได้ยิงหน้าเขตโทษแต่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ยังเซฟไว้ได้
นาทีที่ 51 อัซซูรี่ ที่บุกน้อยกว่ามาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน เปิดยาวจากหน้าประตู บอลไปที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่โชว์เทคนิคเหนือชั้นดีดบอลด้วยข้างเท้าให้ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเสียบเสาสอง อิตาลี ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 55 หลังถูกตีเสมอได้ไม่นาน บราซิล ก็มาได้ลูกฟรีคิกระยะ 18 หลา เนย์มาร์ บรรจังปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปสุดสวย ชนิดที่ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ได้แต่ยืนมอง บราซิล ออกนำอีกครั้ง 2-1
นาทีที่ 62 อิตาลี มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ระยะกว่า 30 หลา บอลพุ่งเต็มแรงเข้าหาประตูแต่ ชูลิโอ เซซาร์ โดดชกทิ้งออกมาได้
นาทีที่ 66 มาร์เชโล่ วางบอลยาวจากครึ่งสนามให้ เฟร็ด จับบอลลงด้วยขวาก่อนวิ่งเบียดกับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เข้าไปยิงด้วยซ้ายสวนตัว จานลุยจิ บุฟฟ่อน ตุงตาข่าย เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 3-1
นาทีที่ 69 บราซิล ถอดเอา เนย์มาร์ ออกมาพัก และส่ง แบร์นาร์ด กองกลางจาก อัตเลติโก มิเนโร่ ลงเล่นแทน
นาทีที่ 71 อัซซูรี่ ได้ลูกเตะมุม อันโตนิโอ คันเดรว่า เปิดเข้าไปหน้าประตู แนวรับบราซิลเคลียร์บอลกันไม่ดี อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ จิ้มบอลคืนหลังให้ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ แปเสียบเสาเข้าไป อิตาลี ไล่มาเป็น 2-3
นาทีที่ 72 อิตาลี ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง สเตฟาน เอล ชาราวี ลงสนามมาแทน อเลสซานโดร เดียมานติ
นาทีที่ 76 บราซิลก็เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายเช่นกัน โดยถอดเอา ฮัลค์ ออก และส่ง แฟร์นานโด ลงสนามแทน
นาทีที่ 80 อิตาลี น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุดๆ จากลูกเตะมุม อันโตนิโอ คันเดรว่า เปิดเข้าไปหน้าประตูเหมือนเดิม คริสเตียน มาจโจ้ เทกตัวโหม่งเต็มศรีษะ แต่โชคไม่ดีบอลชนคานกระดอนออกมาอย่างจัง
นาทีที่ 89 ทัพแซมบ้า มาได้ประตูบวกเพิ่ม มาร์เชโล่ ได้ยิงด้วยซ้ายบนเส้นเขตโทษ จานลุยจิ บุฟฟ่อน พุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ ก่อนที่ เฟร็ด จะตามเข้ามาซ้ำเข้าไปไม่เหลือ บราซิล หนีห่างเป็น 4-2
ช่วงเวลาที่เหลือ อิตาลี พยายามทวงประตูคืนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ จบเกม บราซิล เป็นฝ่ายเอาชนะ อิตาลี 4-2 คว้าชัยรวด 3 นัด คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง ขณะที่ อิตาลี เข้ารอบเป็นที่สองของกลุ่ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บราซิล (4-3-3) : ชูลิโอ เซซาร์ - ดาเนียล อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), ดาวิด ลุยซ์ (ดานเต้ น.34), มาร์เซโล่ วิเอยร่า - แอร์นาเนส, หลุยส์ กุสตาโว่ - ฮัล์ค (แฟร์นานโด น.76), ออสการ์, เนย์มาร์ (แบร์นาร์ด น.69) - เฟร็ด
อิตาลี (4-2-3-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน (กัปตันทีม) - อินยาซิโอ อบาเต้ (คริสเตียน มาจโจ้ น.30), เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, มัตเตีย เด ชิโญ่ - อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ (เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ น.26) - อันโตนิโอ คันเดรว่า, อเลสซานโดร เดียมานติ (สเตฟาน เอล ชาราวี น.72), เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ - มาริโอ บาโลเตลลี่
ผู้ตัดสิน : ราฟชาย เออร์มาตอฟ (อุซเบกิสถาน)
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : เนย์มาร์ จากผลงานโดดเด่นในการประสานเกมรุกของเจ้าตัวจนทำให้แผงรับ อิตาลีปั่นป่วนจนเสียกระบวนไม่เป็นท่า อีกทั้งมาตอกย้ำด้วยการซัดลูกฟรีคิกระดับเวิร์ลคลาสสุดสำคัญที่น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมข่วย แซมบ้าขึ้นนำ 2-1 ก่อนทีมเอาชนะไปได้ 4-2
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์