จอร์ดี้ อัลบา แบ็กตัวเก่งทีมชาติสเปน เติมเกมขึ้นมาซัดสองประตู ช่วยทีมแชมป์โลกเก็บชัยเหนือ "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย 3-0 เก็บเพิ่มอีกสามแต้ม พร้อมเข้ารอบเป็นที่หนึ่งของกลุ่มไปพบกับ อิตาลี ในรอบรองชนะเลิศ ในศึกฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 กลุ่มบี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556

 ฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 กลุ่มบี

 วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556

 ไนจีเรีย 0-3 สเปน

สนาม : เอสตาดิโอ คาสเตเลา (ฟอร์ตาเลซ่า, บราซิล)
 
         คู่นี้เคยเจอกันมาแค่นัดเดียวตามบันทึกของฟีฟ่า ปรากฏว่าไนจีเรียเป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 3-2 ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1998
 
         "อินทรีมรกต" ทีมชาติไนจีเรีย เจ้าของตำแหน่งแชมป์แอฟริกา เกมนี้ได้ เคนเน็ธ โอเมรูโอ กองหลังร่างใหญ่ที่ศีรษะแตกในเกมนัดล่าสุดกลับมาลงสนามช่วยทีมได้ ส่วน เอ็นนัมดี้ โอดูอมาดี้ กองหน้าตัวเก่งยังมีอาการบาดเจ็บมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง
 
         "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน กลับมาใช้ผู้เล่นตัวหลักลงสนามอีกครั้ง หลังจากสลับผู้เล่นสำรองลงสนามหลายรายในเกมไล่ถล่มตาฮิติ 10-0 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ตำแหน่งผู้รักษาประตูเปลี่ยนมาใช้งาน บิคตอร์ บัลเดส ลงเฝ้าเสา

     เริ่มเกมการแข่งขัน นาทีที่ 2 สเปนเกือบได้ประตูนำเร็ว อันเดรส อิเนียสต้า ลากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยิงด้วยขวา แต่ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ล้มตัวเซฟไว้ได้


     จากจังหวะสวนกลับ ไนจีเรีย ได้ลุ้นจากลูกยิงบนเส้นเขตโทษของ อิเดเย่ บราวน์ แต่บอลไปโดน เคราร์ด ปิเก้ ออกหลังไป


      นาทีต่อมา สเปน ทำเกมต่อบอลกันได้สวย อันเดรส อิเนียสต้า จ่ายบอลออกข้างให้ จอร์ดี้ อัลบา วิ่งสอดขึ้นมารับบอลได้ถูกจังหวะ ก่อนลากหลบแนวรับอินทรีมรกตสองคนเข้าไปในเขตโทษ และยิงด้วยซ้ายบอล พุ่งเลียดผ่านมือ  วินเซนต์ เอ็นเยียม่า เสียบเสาเข้าไป กระทิงดุออกนำ 1-0


     นาทีที่ 9 สเปนยังทำเกมบุกได้น่ากลัว อันเดรส อิเนียสต้า แทงบอลทะลุช่องให้ เชส ฟาเบรกาส หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า วิ่งออกมาบล็อกได้ทัน


     นาทีที่ 10 ไนจีเรีย ทำเกมขึ้นมาบ้าง โจเซป อั๊คปาล่า ได้ยิงบอลไปติดเซฟของ บิคตอร์ บัลเดส กระดอนมาเข้าทาง จอห์น โอบี มิเคล ที่จับหนึ่งจังหวะก่อนยิงเต็มข้อ แต่  เคราร์ด ปิเก้ ก็ตามมาบล็อกได้ทัน


      นาทีที่ 11 ไนจีเรีย ต้องเปลี่ยนตัวหลัง เคนเน็ธ โอเมรูโอ ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โดยส่ง อซูบุยเก้ เอ็กวูเอ็คเว่ ลงสนามแทน


     นาทีที่ 20  อินทรีมรกตได้ลุ้นตีเสมอ ซันเดย์ เอ็มบา ได้สับไกด้วยขวาจากระยะ 20 หลา บอลพุ่งจะเสียบโคนเสาอยู่แล้ว แต่ บิคตอร์ บัลเดส พุ่งปัดออกหลังไว้ได้ปลายมือ


     นาทีที่ 26 จอร์ดี้ อัลบา วางบอลยาวให้ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ จับบอลลงในเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ปัดเอาไว้ได้ก่อนที่ ก็อดฟรี่ย์ โอโบอาโบน่า จะตามมาเตะทิ้งออกหลังไป


     นาทีที่ 29 ไนจีเรีย เล่นได้ไม่เกรงศักดิ์ศรีแชมป์โลกเลย ทำเกมบุกมาเป็นระยะและเกือบได้จากลูกโหม่งของ โจเซป อั๊คปาล่า แต่บอลไปตรงตัว  บิคตอร์ บัลเดส


     นาทีที่ 31 สเปน ได้ลุ้นอีกครั้ง โรเบร์โต้ โซลดาโด้ หลุดเข้าไปริมเส้นฝั่งขวาก่อนตัดสินใจยิงยัดเสาแรก แต่ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ก็ยังปัดเอาไว้ได้


     นาทีที่ 40 สเปนพลาดการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย โรเบร์โต้ โซลดาโด้ จ่ายบอลจากริมเส้นเข้าไปหน้าประตู เชส ฟาเบรกาส ได้ยิงด้วยซ้าย บอลไปชนเสาก่อนเด้งมาเข้ามือ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า  


     หมดครึ่งเวลาแรก สเปน ขึ้นนำ ไนจีเรีย 1-0


     กลับมาเล่นต่อในครึ่งเวลาหลัง ได้ 3 นาที อาห์เหม็ด มูซ่า ผ่านบอลจากริมเส้นฝังขวาเข้าไปหน้าประตูบอลแผ่นแนวรับสเปนไปหมด แต่ก็ย้อนหลัง อิเดเย่ บราวน์ เหมือนกันทำให้เจ้าตัวยิงไม่ถนัด


     นาทีที่ 54 กระทิงดุมาได้ลูกฟรีคิกระยะ 20 หลากลางประตู ชาบี เอร์นานเดซ บรรจงปั่นบอลโค้งตกบนตาข่ายอย่างน่าเสียดาย


      นาทีเดียวกัน สเปนขยับเปลี่ยนตัวก่อน โดยส่ง ดาบิด ซิลบา ลงเล่นแทน เชส ฟาเบรกาส


      นาทีที่ 60 กระทิงดุ เปลี่ยนตัวคนที่สอง โดยถอดเอา โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ออก และส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงสนามแทน


      นาทีที่ 62 เปโดร โรดริเกซ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าประตู เฟร์นานโด ตอร์เรส ทิ้งตัวโขกตุงตาข่าย สเปน หนีห่างเป็น 2-0 และเป็นสัมผัสแรกของดาวยิงชาวสเปนที่เพิ่งลงสนามมาด้วย


      นาทีที่ 63 ไนจีเรีย เปลี่ยนตัวส่ง จอห์น โอกู ลงสนามมาแทน ซันเดย์ เอ็มบา 


     นาทีที่ 71 เปโดร โรดริเกซ ได้ยิงแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า  


      นาทีที่ 71 แชมป์แอฟริกา เปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง โมฮาเหม็ด กัมโบ้ ลงมาแทน โจเซป อั๊คปาล่า


     นาทีที่ 75 อินทรีมรกต พลาดได้ประตูตีไข่แตกอย่างน่าเสียดาย อาห์เหม็ด มูซ่า จ่ายบอลจากริมเส้นให้ โมฮาเหม็ด กัมโบ้ ได้หลุดเดี่ยวโล่งๆคนเดียวในเขตโษ แต่เจ้าตัวกลับยิงไม่ดี บอลหลุดเสาสองออกไป


      นาทีที่ 75 สเปน เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง ดาบิด บีย่า ลงสนามแทน เปโดร โรดริเกซ


     นาทีที่ 87 กระทิงดุ ยังเปิดเกมบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง และน่าจะได้เพิ่มจากจังหวะที่ ดาบิด บีย่า ทำชิ่งของ ดาบิด ซิลบา ก่อนยิงด้วยขวาข้ามคานออกไป


      นาทีต่อมา ดาบิด บีย่า วางบอลยาวให้ จอร์ดี้ อัลบา หลุดเดี่ยวครึ่งสนาม ก่อนลากไปล็อกหลบ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า  แล้วแปเข้าไปง่ายๆ สเปน นำโด่งเป็น 3-0


     จบเกม สเปน เป็นฝ่ายเอาชนะ ไนจีเรีย 3-0 เก็บชัยได้หมดสามนัดในรอบแรก ผ่านเข้าเป็นที่หนึ่งของกลุ่มเข้าไปพบกับ อิตาลี ในรอบรองชนะเลิศ ขณะที่ ไนจีเรีย ต้องกระเด็นตกรอบ

         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
         ไนจีเรีย (4-3-3) : วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ; ก็อดฟรี่ย์ โอโบอาโบน่า, อูวา เอชิเอยิเล่, เคนเน็ธ โอเมรูโอ, เอเฟ่ อัมโบรส ; จอห์น โอบี มิเคล, เฟกอร์ โอกูเด้, ซันเดย์ เอ็มบา ; อาห์เหม็ด มูซ่า, โจเซป อั๊คปาล่า, อิเดเย่ บราวน์
         สเปน (4-3-3) : บิคตอร์ บัลเดส ; จอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปิเก้, อัลบาโร่ อาร์เบลัว ; เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ ; เชส ฟาเบรกาส, เปโดร โรดริเกซ, โรเบร์โต้ โซลดาโด้
 
         ผู้ตัดสิน : โจเอล อกิลาร์ (เอล ซัลวาดอร์)