โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แร็กเกตชายจากสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นนักหวดคนดังรายล่าสุดที่ต้องปิ๋วตั้งแต่รอบต้นๆ ของศึกวิมเบิลดัน หลังเขาแพ้ เซอร์เก สตาคอฟสกี้ คู่แข่งชาวยูเครนแบบพลิกล็อก 1-3 เซต ในการแข่งรอบ 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสชายมือ 3 ของโลกชาวสวิส พลิกล็อกแพ้ให้กับ เซอร์เก สตาคอฟสกี้ คู่ต่อสู้จากยูเครน 1-3 เซต 7-6 (7-5), 6-7 (5-7), 5-7, 6-7 (5-7) ในการแข่งขันรอบ 2 ศึกเทนนิส แกรนด์สแลม รายการ วิมเบิลดัน ที่ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา
 
"เฟด-เอ็กซ์" ออกสตาร์ตได้ดีจนเก็บเซตแรกไปก่อน แต่ในอีก 3 เซตต่อมาเขาโดน สตาคอฟสกี้ ซึ่งอยู่ในอันดับ 116 ของโลก เล่นงานจนปั่นป่วน และถูกเบรกเกมเสิร์ฟไป 2 ครั้ง จนในที่สุด เจ้าของแชมป์รายการนี้ 7 สมัย ก็ต้องจอดป้ายเพียงแค่รอบ 2 แบบล็อกถล่ม
 
ทั้งนี้ นี่ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2002 ที่ เฟเดอเรอร์ ตกรอบเร็วที่สุดในศึกวิมเบิลดัน โดยเมื่อครั้งนั้นเขาปิ๋วตั้งแต่รอบแรก อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่เขาตกรอบเร็วที่สุดในรายการระดับ แกรนด์สแลม นับตั้งแต่แพ้ในรอบแรกของศึกเฟร้นช์ โอเพ่น เมื่อปี 2003 ด้วย
 
นอกจากนี้ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่แร็กเกตวัย 31 ปี ปราชัยให้กับคู่แข่งที่มีอันดับโลกต่ำกว่า 100 นับตั้งแต่แพ้ ริชาร์ด กาสเก้ต์ ในศึก มอนติ-คาร์โล มาสเตอร์ส เมื่อปี 2005 เช่นกัน โดยตอนนั้น กาสเก้ต์ รั้งอันดับ 101 ของโลก
 
 ความพ่ายแพ้ของ เฟเดอเรอร์ ส่งผลให้เขาเป็นนักหวดมือวางอันดับต้นๆ รายล่าสุด ที่ตกรอบอย่างรวดเร็วในศึก วิมเบิลดัน ประจำปีนี้ หลังก่อนหน้านี้แร็กเกตชื่อก้องหลายคนก็ทยอยกันตกรอบไปก่อนแล้ว อาทิเช่น ราฟาเอล นาดาล นักหวดชายชาวสแปนิช และ มาเรีย ชาราโปว่า นักเทนนิสสาวจากรัสเซีย ที่แพ้แบบพลิกล็อกจนต้องจอดป้ายเพียงแค่รอบแรก และรอบ 2 ตามลำดับ