"แซมบ้า" บราซิล โชว์จังหวะลูกหนังสุดบรรเจิดหลังไล่อัด "กระทิงดุ" สเปน ยับเยิน 3-0 ผงาดคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ เกมนี้ สเปน เหลือผู้เล่น 10 คนนาทีที่ 68 โดย เคราร์ด ปิเก้ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกฟุตบอล คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 (รอบชิงชนะเลิศ) เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอล คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013
(รอบชิงชนะเลิศ)

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 255

บราซิล 3   -   0 สเปน

สนาม : เอสตาดิโอ โด มาราคาน่า
 
         "เจ้าภาพ" บราซิล เกมนี้ขนทัพใหญ่ลงสนามแบบเต็มสูบ โดย หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ เทรนเนอร์ของทีมยังคงยึดผู้เล่นชุดเดียวกับที่เอาชนะ อุรุกวัย มาในรอบรองชนะเลิศ โดยได้ ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังตัวเก่งหายบาดเจ็บขา กลับมาลงเป็นตัวจริงยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ติอาโก้ ซิลวา กัปตันทีม
 
         ขณะที่ "กระทิงดุ" สเปน ฟอร์มของทีมที่ผ่านมาดีทีเดียว โดยเกมนี้ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เทรนเนอร์คนเก่งตัดสินใจให้ ฆวน มานูเอล มาต้า กลับมาลงสนามเป็นสิบเอ็ดคนแรกแทนที่ ดาบิด ซิลบา ส่วนกองหน้ายังเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวซัลโวในขณะนี้


       เริ่ม เกมการแข่งขันแค่ 2 นาที บราซิลก็ได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ ฮัล์ค เปิดบอลจากริมเส้นเข้าไปหน้าประตู บอลไปโดนตัว เนย์มาร์ ทำให้เปลี่ยนทางมาหา เฟร็ด ที่แม้จะเสียหลักล้มไปแล้ว แต่ก็ยังตวัดขายิงเข้าไปได้ บราซิลออกนำ 1-0

      นาทีที่ 8 ทีมแซมบ้า เกือบได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ เนย์มาร์ พยายามจ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษให้ เปาลินโญ่ กองหลังสเปนเคลียร์บอลไม่ดีมาเข้าทาง ออสการ์ ที่ตัดสินใจยิงจากระยะ 18 หลา บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว

      นาทีที่ 13 บราซิล ได้โอกาสอีกครั้ง เปาลินโญ่ ยิงไกลกว่า 20 หลา บอลจะเสียบคานอยู่แล้วแต่ อิเคร์ กาซิยาส ปัดเอาไว้ได้ก่อนจะมาตะครุบได้ทัน

        นาทีที่ 15 อัลบาโร่ อาร์เบลัว  รับใบเหลืองคนแรกของเกมหลังไปทำฟาวล์ใส่ เนย์มาร์

      นาทีที่ 20 โอกาสแรกของสเปนในเกม อันเดรส อิเนียสต้า ได้ยิงไกลระยะ 20 หลา บอลพุ่งเข้าเสาแรกแต่ ชูลิโอ เซซาร์ พุ่งปัดไว้ได้ปลายมือ

       นาที ที่ 28 เซร์คิโอ รามอส ก็โดนใบเหลืองไปอีกคนหลังไปเจตนาทำฟาวล์ใส่ ออสการ์ ที่กำลังจะพาบอลเข้าเขตโทษ และจากลูกฟรีคิก ระยะ 20 หลา ฮัล์ค ก็ซัดเต็มแรงข้ามคานออกไป

      นาทีที่ 30 เนย์มาร์ จ่ายบอลให้ เฟร็ด หลุดเดี่ยวเข้าในเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา แต่ อิเคร์ กาซิยาส ปัดเอาไว้ได้

      นาทีที่ 41 จากจังหวะโต้กลับของทัพกระทิงดุ ฆวน มาต้า จ่ายบอลให้ เปโดร โรดริเกซ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือ ชูลิโอ เซซาร์ ไปแล้วบอลกำลังจะผ่านเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ดาวิด ลุยซ์ วิ่งมาเตะทิ้งได้ทันอย่างเหลือเชื่อ

       นาทีที่ 44 เนย์มาร์ พาบอลขึ้นมาก่อนผ่านเข้ากลางให้ ออสการ์ และถอยตัวเองมารอในตำแหน่งที่ไม่ล้ำหน้าก่อน ออสการ์ จะไหลคืนให้ เนย์มาร์ หลุดไปซัดด้วยซ้ายเสยตาข่ายเข้าไปสุดงาม บราซิลหนีห่างเป็น 2-0

      หมดครึ่งเวลาแรก บราซิล ที่เล่นได้เหนือกว่าออกนำ สเปน 2-0

       กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง สเปน เปลี่ยนเอา เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ลงสนามมาแทน อัลบาโร่ อาร์เบลัว 

       นาทีที่ 47 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็เฮลั่นสนามเมื่อ ฮัล์ค จ่ายบอลออกทางซ้ายให้ เฟร็ด ยิงด้วยขวาบอลพุ่งเลียดผ่านมือ อิเคร์ กาซิยาส เสียบเสาสองเข้าไป บราซิล หนีห่าง 3-0

       นาทีที่ 52 สเปน เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยส่ง เฆซุส นาบาส ลงสนามไปแทน ฆวน มาต้า

      นาทีที่ 54 เฆซุส นาบาส ที่เพิ่งลงสนามมา ก็ไปโดน มาร์เชโล่ เตะล้มลงในเขตโทษ บิยอร์น คุยเปอร์สผู้ตัดสินชาวฮอลแลนด์ไม่รีรอ เป่าเป็นลูกจุดโทษทันที 

       นาทีที่ 55 แฟนกระทิงดุต้องเซ็งไปตามๆกันเมื่อ เซร์คิโอ รามอส กลับยิงจุดโทษออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

       นาทีที่ 59 สเปน เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ดาบิด บีย่า ลงสนามมาแทน เฟร์นานโด ตอร์เรส

      นาทีที่ 64 เนย์มาร์ แทงบอลให้ มาร์เชโล่ หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่แบ็กซ้ายตัวเก่งจากเรอัล มาดริด กลับตัดสินใจยิงเอง บอลเข้าข้างตาข่าย

       นาที ที่ 68 สถานการณ์ของสเปนย่ำแย่เข้าไปอีกเมื่อ เคราร์ด ปิเก้ โดนใบแดงหลังไปเตะรวบ เนย์มาร์ จากจังหวะหลุดเดี่ยว สเปนเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

      นาทีที่ 70 จากลูกฟรีคิกระยะ 20 หลาของบราซิล เนย์มาร์ ลุกขึ้นมายิงเองบอลพุ่งโค้งข้ามคานออกไปนิดเดียว

       นาทีที่ 73 บราซิลเปลี่ยนตัวคนแรก โดยเอา ชาดสัน กองกลางจาก เซา เปาโล ลงไปแทน ฮัล์ค

       นาทีที่ 80 เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยส่ง โช ลงสนามไปแทน เฟร็ด

      นาทีที่ 81 สเปนยังไม่ยอมแพ้ เปโดร โรดริเกซ ได้ยิงจ่อๆในเขตโทษด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าหาประตู แต่ ชูลิโอ เซซาร์ ยังไวพุ่งปัดออกหลังไปได้

      นาทีที่ 83 จากจังหวะโต้กลับของบราซิล โช ที่เพิ่งถูกส่งลงสนามมาได้บอลหลุดขึ้นมาก่อนตัดสินใจยิงเองบนเส้นเขตโทษ แต่ อิเคร์ กาซิยาส ล้มตัวปัดไว้ได้

      นาทีที่ 86 เฆซุส นาบาส ลากบอลหลบผู้เล่นบราซิล 3 คนก่อนวางบอลให้ ดาบิด บีย่า ได้ยิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ ชูลิโอ เซซาร์ บินปัดออกหลังไปได้อีก

       นาทีที่ 88 บราซิลเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้าย โดยส่ง แอร์นาเนส ลงสนามมาแทน เปาลินโญ่

      จบเกม บราซิล เป็นฝ่ายเอาชนะ สเปน ไปได้ 3-0 คว้าแชมป์ คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี และนับเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ของพวกเขา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของรายการนี้ด้วย

 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

         บราซิล (4-3-3): ชูลิโอ เซซาร์, ดานี่ อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา, ดาวิด ลุยซ์, มาร์เชโล่ วิเอยร่า, ออสการ์, เปาลินโญ่ (แอร์นาเนส น.88), หลุยซ์ กุสตาโว่, ฮัล์ค (จ๊าดสัน น.73), เฟร็ด (โช อัลเวส น.80), เนย์มาร์

         สเปน (4-3-3) : อีเกร์ กาซียาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว (เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น.46), เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา, ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า, เปโดร โรดริเกซ, เฟร์นานโด ตอร์เรส (ดาบิด บีย่า น.59), ฆวน มานูเอล มาต้า (เฆซุส นาบาส น.52)
 
         ผู้ตัดสิน : บิยอร์น คุยเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

ตอร์เรส ซิวดาวซัลโวด้วยประตูที่เท่ากับ เฟร็ด(ซ้าย) แต่แอสซิสต์มากว่า, เนย์มาร์ ที่ 3

สรุปอันดับดาวซัลโว
5 ประตู : เฟร์นานโด ตอร์เรส (สเปน), เฟร็ด (บราซิล)
4 ประตู : อาเบล เอร์นานเดซ (อุรุกวัย), เนย์มาร์ (บราซิล)
3 ประตู : ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" (เม็กซิโก), นัมดี้ โอดัวมาดี้ (ไนจีเรีย), ดาบิด บีย่า (สเปน), เอดินสัน คาวานี่ (อุรุกวัย), หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย)
2 ประตู : โช อัลเวส (บราซิล), เปาลินโญ่ (บราซิล), มาริโอ บาโลเตลลี่ (อิตาลี), ชินจิ โอกาซากิ (ญี่ปุ่น), จอร์ดี้ อัลบา (สเปน), ดาบิด ซิลบา (สเปน)

เนย์มาร์ คว้าผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์, อันเดรส อีเนียสต้า ที่2 และ เปาลินโญ่ ที่3




ทำเนียบแชมป์ที่ผ่านมา