เจ้าหนูจากค่ายฉลามชล สุดปลื้มหลังได้โอกาสถือธงลงสนามกูดิสัน ปาร์ค เมื่อวันเสาร์ที่ทีมท็อฟฟีสีน้ำเงินเฉือนชนะทีมสิงโตน้ำเงินครามไปได้ 1-0

ความเคลื่อนไหว ทีมชลบุรี อะคาเดมี่ ชุดอายุไม่เกิน13ปี ที่คว้าแชมป์ฟุตบอล “ช้าง-เอฟเวอร์ตัน จูเนียร์ คัพ2013” และ ได้รับรางวัลใหญ่จากเครื่องดื่มตราช้าง เดินทางมาเปิดประสบการณ์ลูกหนัง ฝึกฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ โดยเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงเช้า ได้ยกทีมเดินทางไปฝึกซ้อม ที่ฟินซ์ ฟาร์ม สนามฝึกซ้อมของสโมสรเอฟเวอร์ตัน โดยมีคณะสต๊าฟโค้ชของ เอฟเวอร์ตัน อะคาเดมี่ ที่นำทีมโดย มร.เรย์ ฮอลล์ อดีต ผอ. เอฟเวอร์ตัน อะคาเดมี่ ที่เป็นผู้กำเนิดโครงการนี้ ให้การดูแลอย่างไกล้ชิด ตลอดเวลากว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้นได้เดินทาง มารับประทานอาหารกลางวันที่ สปอต บาร์ ของสโมสรเอฟเวอร์ตัน ภายในเมืองลิเวอร์พูล ก่อนที่ในช่วงบ่าย จะนั่งรถโค้ช เดินทางต่อไปยัง สนามกูดิสัน ปาร์ค ซึ่งเป็นสังเวียนเหย้าของทีมเอฟเวอร์ตัน เพื่อร่วมกิจกรรม การซ้อม ถือธงต้อนรับนักเตะลงสู่สนาม พร้อมกับ ชมเกมการแข่งขันฟุตบอล คู่ “บิ๊กแมทช์” ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ เชลซี ในเวลา 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่ง ช้ากว่าประเทศไทย ประมาณ 6 ชั่วโมง

คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัทไทยเบฟเวอร์เรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้นำคณะในครั้งนี้ ได้เปิดเผยว่า “นับ เป็นประสบการณ์ ที่หาไม่ได้ง่ายๆ เมื่อนักเตะชลบุรี ชุดนี้ ได้โอกาสเดินลงสู่สนาม กูดิสัน ปาร์ค พร้อมกับ ถือธง ต้อนรับ นักเตะทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ เชลซี รวมไปถึง ได้ชมเกมการแข่งขัน ที่มี นักเตะชื่อดังก้องโลก แบบไกล้ชิดติดขอบสนาม และ ได้เห็นบรรยากาศฟุตบอลอาชีพของแท้ เพื่อจะได้เป็นแรงบัลดาลใจให้เด็กๆ จากชลบุรี มีความกระหายและ ทะเยอทะยาน อยากจะเป็นนักเตะอาชีพบ้าง และ ที่สำคัญ คือ พวกเขาได้เห็น เอฟเวอร์ตัน ทีมที่ ช้างให้การสนับสนุน เอาชนะ ทีมเชลซีได้”

ส่วนทางด้าน พัทธดนย์ เที่ยงวงศ์ นักเตะชลบุรี อะคาเดมี่ เปิดเผย หลังจบเกมการแข่งขัน ที่เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้าน เอาชนะ เชลซี 1-0 ว่า “รู้สึก ตื่นเต้น เป็นอย่างมาก ที่ได้โอกาส เหยียบพื้นหญ้า สนามฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ รวมไปถึง ได้ถือธง ต้อนรับนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ ได้ชมฟุตบอลอังกฤษ อย่างไกล้ชิดแบบนี้ ซึ่งผมถือว่าเป็น โชคดี ที่สุด ที่เด็กต่างจังหวัดอย่างผมได้มีโอกาสเช่นนี้ ดังนั้นผมขอขอบคุณเครื่องดื่มตราช้าง ที่มอบประสบการณ์อันหาค่ากับ เด็กๆ จากชลบุรี”