ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556
แมนฯ ซิตี้   -   แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

        บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เป็นศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ของสองทีม แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ผลัดกันเป็นแชมป์และรองแชมป์ใน 2 ฤดูกาลหลังสุด

        เรือใบสีฟ้า ของกุนซือใหม่ มานูเอล เปเยกรินี่ พาทีมเก็บ 7 คะแนนจาก 4 นัดแรก เกมล่าสุดบุกเสมอ สโต๊ค 0-0 ส่วนถ้วยชปล. รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก บุกถล่ม พิลเซ่น ถึง เช็ก 3-0

        ข่าวดีจากเกมที่ พิลเซ่น แว็งซ็องต์ ก็อมปานี กัปตันทีมฟิตกลับมาคุมแนวรับได้แล้ว แต่ มาร์ติน เดมิเคลิส กองหลังตัวใหม่ยังบาดเจ็บ และ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กับ กาแอล กลิชี่ ก็ไม่พร้อม

        แนวรุก ดาบิด ซิลบา หายเจ็บต้นขาอาจคืนตัวจริง หากผ่านการทดสอบความฟิต แต่หากไม่พร้อม ทั้ง เฆซุส นาบาส, เซร์คิโอ อเกวโร่, ซามีร์ นาสรี่ และ สเตวาน โยเวติช ก็พร้อมลงเล่นอยู่แล้ว

        การจัดทัพ ฮาร์ท เฝ้าเสา แผงหลัง ซาบาเลต้า, ก็อมปานี, นาสตาซิช, โคลารอฟ แดนกลาง ยาย่า ตูเร่ คุมเกมกับ แฟร์นันดินโญ่ แนวรุก นาบาส, อเกวโร่, นาสรี่ หรือ โยเวติช หน้าเป้า เชโก้ ต้องแย่งกับ เนเกรโด้

        ฝั่ง ปีศาจแดง ของกุนซือใหม่เช่นกัน เดวิด มอยส์ นำทีมเก็บ 7 แต้มจาก 4 นัดแรกเท่ากัน เกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 ส่วนเกมยุโรปก็เล่นในบ้านอัด เลเวอร์คูเซ่น 4-2

        สภาพทีมยังมีปัญหาตรงแบ็กขวา ฟิล โจนส์ กับ ราฟาเอล บาดเจ็บทั้งคู่ จึงต้องตัดสินใจว่าจะเลือก คริส สมอลลิ่ง หรือ ฟาบิโอ ยืนแบ็กขวา หลังสลับกันลงใน 2 นัดหลังสุด

        ในรายอื่นๆ แดนนี่ เวลเบ็ค เจ็บเข่าหมดสิทธ์ช่วยทีม แต่ก็ได้ นานี่ ปีกโปรตุกีส กลับสู่ทีมหลังติดโทษแบนเกมยุโรป ขณะที่ วิลฟรีด ซาฮา ปีกดาวรุ่งน่าจะกลับคืนม้านั่งสำรองตามเดิม

        การจัดทัพไม่น่าเปลี่ยนมากนัก แนวรับ สมอลลิ่ง, เฟอร์ดินานด์, วิดิช, เอวร่า คุมเกมร่วมกัน แดนกลาง วาเลนเซีย, คาร์ริค, เฟลไลนี่ เป็นตัวยืน ฝั่งซ้ายต้องเลือกระหว่าง ชินจิ คางาวะ กับ แอชลี่ย์ ยัง

        แดนหน้าไม่มี เวลเบ็ค แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นปัญหา เพราะ เวย์น รูนี่ย์ กลับคืนฟอร์มเก่ง ยิงไป 3 ลูกจาก 2 นัดหลัง ประสานงานกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวซัลโวซีซั่นที่แล้ว

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, มาติย่า นาสตาซิช, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่ - เฆซุส นาบาส, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ดาบิด ซิลบา (ซามีร์ นาสรี่) - เอดิน เชโก้ (อัลบาโร่ เนเกรโด้)

        แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, คริส สมอลลิ่ง, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, มารูอาน เฟลไลนี่, ชินจิ คางาวะ (แอชลี่ย์ ยัง) - เวย์น รูนี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

        ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

เปเยกรินี่เฉือนมอยส์ก่อนยกแรก

        แม้จะเป็นเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ หนแรกของทั้ง มานูเอล เปเยกรินี่ ผู้จัดการทีมชาวชิลีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมชาวสกอตต์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในอดีตทั้งคู่เคยประมือกันมาแล้ว และเป็น เปเยกรินี่ ที่ชนะยกแรกก่อน

        ย้อนกลับไปฤดูกาล 2005-06 เปเยกรินี่ ที่พา บียาร์เรอัล จบอันดับ 3 ในลีกฤดูกาลก่อนหน้า ต้องโคจรมาพบกับ มอยส์ ที่พา เอฟเวอร์ตัน จบอันดับ 4 ในฤดูกาลก่อนหน้า คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบสาม ทั้งสองทีม และเป็น เปเยกรินี่ ที่พา เรือดำน้ำสีเหลือง เอาชนะด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งสองนัด ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม

        ฤดูกาลดังกล่าวยังเป็นซีซั่นที่น่าอัศจรรย์ใจของ บียาร์เรอัล ด้วย พวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งผลทั้งสองนัดเสมอกัน 0-0 เรือดำน้ำสีเหลือง คว้าแชมป์กลุ่มดี ถีบ ปีศาจแดง ตกรอบด้วยการเป็นทีมบ๊วย และ เปเยกรินี่ ก็พาทีมทะลุถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ อาร์เซน่อล ตกรอบ

ประเดิมสองกุนซือป้ายแดงตั้งแต่ปี 47

        นี่เป็นเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ครั้งที่ 166 ก็จริง แต่เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1947 เป็นต้นมา ที่ทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างมีผู้จัดการทีมคนใหม่เหมือนกันลงคุมทีมในศึกดาร์บี้แมตช์ครั้งแรก

        ตลอดระยะเวลา 66 ปี แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยเปลี่ยนผู้จัดการทีมพร้อมกัน และเผชิญหน้าในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ครั้งแรกเหมือนกัน นับตั้งแต่ปี 1947 เป็นต้นมา โดยครั้งนั้น จอค ธอมสัน คุม แมนฯ ซิตี้ และ แม็ตต์ บัสบี้ ก็คุม แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมดาร์บี้แมตช์ด้วยกันทั้งคู่ ผลจบลงเสมอ 0-0 ที่บ้าน เรือใบสีฟ้า

        อย่างไรก็ตาม แม้ผู้จัดการทีมทั้งสองฝั่งจะมือใหม่ในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ทั้งคู่ แต่ทีมงานสต๊าฟโค้ชไม่ได้อ่อนด้อยประสบการณ์เลย เพราะ เรือใบสีฟ้า มี ไบรอัน คิดด์ เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม และฝั่ง ปีศาจแดง ก็มี ฟิล เนวิลล์ กับ ไรอัน กิ๊กส์ เป็นโค้ช ซึ่งต่างผ่านประสบการณ์เกมดาร์บี้มาอย่างโชกโชน

ผลงานช่วงหลังผียังข่มเรือเล็กน้อย

        ผลงานการพบกันในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ของ ซิตี้ กับ ยูไนเต็ด ตลอด 10 นัดหลังสุดในเกมพรีเมียร์ลีก ปรากฏว่า ปีศาจแดง เป็นฝ่ายเหนือกว่าเล็กน้อย เอาชนะ 6 นัด เรือใบสีฟ้า ชนะ 3 นัด และเสมอกันเพียงนัดเดียว

        หากนับเฉพาะเกมพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 เป็นต้นมา ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม หรือ ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม รวมถึง เมน โร้ด รังเก่า ปรากฏว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติที่ดี บุกชนะได้ถึง 9 นัด เสมอกัน 2 นัด และ แมนฯ ซิตี้ ชนะ 5 นัด

        ส่วนผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสองทีมต่างชนะในเกมเยือนทั้งคู่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะก่อน 3-2 จากฟรีคิกนาทีสุดท้ายของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ก็บุกชนะคืน 2-1 จากประตูชัยของ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"

รูนขออีกลูกยิงทำสถิติดาร์บี้แมตช์

        เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งซัลโวให้ ปีศาจแดง ครบ 200 ประตูไปในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้

        รูนี่ย์ ยิงในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ 4 ประตูจาก 3 นัดหลังที่มาเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม โดย 2 ประตูมาจากฤดูกาลที่แล้ว ที่ยิงได้ในชัยชนะ 3-2 ที่สนามแห่งนี้ ซึ่งศูนย์หน้าหมายเลข 1 ทีมชาติอังกฤษต้องการอีกประตูเดียวก็จะทำสถิติยิงประตูในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ นับเฉพาะเกมลีก มากที่สุด 7 ประตู เทียบเท่า โจ เฮย์ส และ ฟรานซิส ลี ของ ซิตี้ และ เอริค คันโตน่า ของ ยูไนเต็ด แต่หากนับรวมทุกรายการ รูนี่ย์ ก็จะแซงผ่าน เฮย์ส กับ ลี ที่ตอนนี้ยิงเท่ากัน 10 ประตู

        ดาวยิงหมายเลข 10 ยังมีสถิติที่ดีในการลงสนามเป็นตัวจริงร่วมกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ด้วย เพราะ 23 เกมพรีเมียร์ลีกที่ทั้งคู่ออกสตาร์ตเกมร่วมกัน ยิงรวมกันถึง 28 ประตู เป็นของ ฟาน เพอร์ซี่ 15 และ รูนี่ย์ 13

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19:30 น.   อาร์เซน่อล Vs สโต๊ค ซิตี้   รับชม : CTH STADIUM 1
19:30 น.   คริสตัล พาเลซ Vs สวอนซี  รับชม : CTH STADIUM 5
22:00 น.   แมนฯ ซิตี้ Vs แมนฯ ยูไนเต็ด  รับชม : CTH STADIUM 1
22:00 น.   คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ Vs สเปอร์ส   รับชม :  CTH STADIUM 5