เอฟเอ ระบุ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอก เชลซี จะไม่โดนลงโทษย้อนหลังจากกรณีที่เขาไปข่วนหน้า แยน แฟร์ต็องเก้น ปราการหลัง สเปอร์ส ระหว่างเกมที่ต้นสังกัดของทั้งคู่เจ๊ากัน 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะมีหนึ่งในทีมงานผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้กองหน้าเลือดกระทิงดุจะถูกแบนแค่ 1 นัด จากการโดนใบเหลือง 2 ใบในเกมกับ "ไก่เดือยทอง" เท่านั้น

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินการลงโทษย้อนหลังใดๆ ทั้งนั้นกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าชาวสแปนิชของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากเหตุการณ์ที่แข้งวัย 29 ปี ไปข่วนหน้า แยน แฟร์ต็องเก้น กองหลังจอมแกร่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ระหว่างเกมลีกนัดที่ "สิงห์บลูส์" บุกไปเสมอ "ไก่เดือยทอง" 1-1 ถึงสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา

 กล้องโทรทัศน์สามารถจับภาพได้ว่า ตอร์เรส ไปเล่นนอกเกมใส่ แฟร์ต็องเก้น ซึ่งนั่นทำให้องค์กรลูกหนังเมืองผู้ดีมานั่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีรายงานระบุว่า หัวหอกดีกรีทีมชาติสเปนอาจโดนโทษห้ามลงสนามเป็นจำนวนถึง 4 นัดด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เอฟเอ ประกาศว่า พวกเขาจะไม่มีการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมใดๆ ทั้งนั้นกับกรณีนี้ เพราะถึงแม้ ไมค์ ดีน กรรมการในเกมดังกล่าวจะไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ เจค คอลลิน หนึ่งในผู้ช่วยผู้ตัดสินเห็นชอตดังกล่าวอย่างชัดเจน และกฎขององค์กรลูกหนังเมืองผู้ดีระบุไว้ว่า หากมีหนึ่งในทีมงานผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์อะไรก็ตามแล้วนั้น เอฟเอ ก็จะไม่มีการลงโทษย้อนหลังใดๆ ทั้งสิ้นกับจังหวะนั้น

"เอฟเอ จะไม่ดำเนินมาตรการใดๆ ทั้งนั้นกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ผู้เล่นของ เชลซี จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ แยน แฟร์ต็องเก้น ผู้เล่นของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเกิดขึ้นในนาทีที่ 50 ของเกมระหว่างทั้ง 2 ทีม เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2013 หนึ่งในทีมผู้ตัดสินเห็นจังหวะที่ผู้เล่นทั้ง 2 คนเข้าเผชิญหน้ากัน ถึงแม้จะไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดครบถ้วนก็ตาม" แถลงการณ์ของ เอฟเอ ระบุ

 ทั้งนี้ อดีตดาวยิง แอตเลติโก มาดริด และ ลิเวอร์พูล จะยังคงโดนแบน 1 นัด จากการได้รับใบเหลือง 2 ใบ ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเดิม ส่งผลให้เขาหมดสิทธิ์ช่วยต้นสังกัด ในเกมลีกนัดที่ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะไปเยือน นอริช ซิตี้ ที่สนาม แคร์โรว์ โร้ด ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมนี้อร์เรสโล่ง!เอฟเอไม่ลงดาบย้อนหลัง

เอฟเอ ระบุ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอก เชลซี จะไม่โดนลงโทษย้อนหลังจากกรณีที่เขาไปข่วนหน้า แยน แฟร์ต็องเก้น ปราการหลัง สเปอร์ส ระหว่างเกมที่ต้นสังกัดของทั้งคู่เจ๊ากัน 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะมีหนึ่งในทีมงานผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่งผลให้กองหน้าเลือดกระทิงดุจะถูกแบนแค่ 1 นัด จากการโดนใบเหลือง 2 ใบในเกมกับ "ไก่เดือยทอง" เท่านั้น

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินการลงโทษย้อนหลังใดๆ ทั้งนั้นกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าชาวสแปนิชของ เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จากเหตุการณ์ที่แข้งวัย 29 ปี ไปข่วนหน้า แยน แฟร์ต็องเก้น กองหลังจอมแกร่งของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ระหว่างเกมลีกนัดที่ "สิงห์บลูส์" บุกไปเสมอ "ไก่เดือยทอง" 1-1 ถึงสนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา

กล้องโทรทัศน์สามารถจับภาพได้ว่า ตอร์เรส ไปเล่นนอกเกมใส่ แฟร์ต็องเก้น ซึ่งนั่นทำให้องค์กรลูกหนังเมืองผู้ดีมานั่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีรายงานระบุว่า หัวหอกดีกรีทีมชาติสเปนอาจโดนโทษห้ามลงสนามเป็นจำนวนถึง 4 นัดด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เอฟเอ ประกาศว่า พวกเขาจะไม่มีการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมใดๆ ทั้งนั้นกับกรณีนี้ เพราะถึงแม้ ไมค์ ดีน กรรมการในเกมดังกล่าวจะไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ เจค คอลลิน หนึ่งในผู้ช่วยผู้ตัดสินเห็นชอตดังกล่าวอย่างชัดเจน และกฎขององค์กรลูกหนังเมืองผู้ดีระบุไว้ว่า หากมีหนึ่งในทีมงานผู้ตัดสินเห็นเหตุการณ์อะไรก็ตามแล้วนั้น เอฟเอ ก็จะไม่มีการลงโทษย้อนหลังใดๆ ทั้งสิ้นกับจังหวะนั้น

"เอฟเอ จะไม่ดำเนินมาตรการใดๆ ทั้งนั้นกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ผู้เล่นของ เชลซี จากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ แยน แฟร์ต็องเก้น ผู้เล่นของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ซึ่งเกิดขึ้นในนาทีที่ 50 ของเกมระหว่างทั้ง 2 ทีม เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2013 หนึ่งในทีมผู้ตัดสินเห็นจังหวะที่ผู้เล่นทั้ง 2 คนเข้าเผชิญหน้ากัน ถึงแม้จะไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดครบถ้วนก็ตาม" แถลงการณ์ของ เอฟเอ ระบุ

ทั้งนี้ อดีตดาวยิง แอตเลติโก มาดริด และ ลิเวอร์พูล จะยังคงโดนแบน 1 นัด จากการได้รับใบเหลือง 2 ใบ ในเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเดิม ส่งผลให้เขาหมดสิทธิ์ช่วยต้นสังกัด ในเกมลีกนัดที่ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะไปเยือน นอริช ซิตี้ ที่สนาม แคร์โรว์ โร้ด ในวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคมนี้