"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ฟอร์มเฉียบ เปิดแอนฟิลด์ อัด "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พาเลซ ไป 3-1 คว้า3แต้ม ทะยานขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว โดยมีแต้มมากกว่า อาร์เซน่อล 1 แต้ม แต่แข่งมากกว่า1นัด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556

ลิเวอร์พูล 3-1 คริสตัล พาเลซ

สนาม : แอนฟิลด์


         หงส์แดง ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง ส่ง หลุยส์ ซัวเรซ เล่นกับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ คู่กองหน้าอันตรายรับการมาเยือน คริสตัล พาเลซ ทีมรองบ๊วยของตาราง ที่ส่ง มารูอาน ชามัค จับคู่ คาเมรอน เจอโรม ป่วนแนวรับเจ้าบ้าน


        เริ่มเกมมา6นาที เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดเกมดุ แล้วมีโอกาสยิงก่อน เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ จ่ายบอลให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วิ่งมากดยิงนอกกรอบ แต่บอลยังไปติดแนวรับทีมเยือน


        นาทีที่10 คริสตัล พาเลซ เสียใบเหลืองอย่างรวดเร็ว เมื่อ สจร๊วร์ต โอเคเฟ่ ไปสไลด์เปิดปุ่มใส่ มามาดู ซาโก้ อย่างน่าหนัก จึงรับใบเหลืองคนแรกของเกม


        ผ่านมา3นาที สาวกเดอะค็อป ได้เฮกันลั่น เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ เล่นกับ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ก่อนวิ่งไปหน้าประตูให้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ หักมาให้ แม้ ซัวเรซ จะเสียงจังหวะลื่นล้มนิดนึง แต่สัญชาติกองหน้ายังเยี่ยม ใช้ขาขวาสไลด์ส่งบอลเข้าประตูอย่างสวย ให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0


        นาทีที่17 ลิเวอร์พูล บวกสกอร์เพิ่มอย่างเร็ว เมื่อ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้บอลริมสนามฝั่งซ้าย ก่อนฉายเดี่ยวพาบอลกระชากผ่าน ดาเมี่ยน เดลานี่ย์ ไปกดมุมแคบด้วยซ้าย บอลพุ่งเข้าเสียบสอง เป็นประตู 2-0


        เกมผ่านสู่นาทีที่ 25  พาเลซ มาเสียวบ้าง เมื่อ คาเมรอน เจอโรม ได้โอกาสยิงไกล บอลพุ่งแฉลบ สจร๊วร์ต โอเคเฟ่ เข้ากรอบ แต่ ซิมง มินโญเลต์ ยังเซฟ แม้ เจสัน พุนเชียน ตามซ้ำได้ แต่ก็ข้ามคานไปเยอะ


        นาทีที่36 แฟนๆลิเวอร์พูล ได้กรี๊ดกันอีกครั้ง เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง เล่นชิ่งกับ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนไปถูก ดีน ม็อกซี่ย์ ใช้มือไปเกี่ยว สเตอร์ลิง ล้ม แม้ผู้ตัดสินแอนโธนี่ เทย์เลอร์ จะนิ่ง แต่ผู้ช่วยตีธงฟ้อง ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นลูกจุดโทษให้หงส์แดง


        นาทีต่อมา สตีเว่น เจอร์ราร์ด สังหารไม่พลาด ให้สกอร์ของ ลิเวอร์พูล ขยับนำห่าง คริสตัล พาเลซ ถึง 3-0


        นาทีที่39 ลิเวอร์พูล ไม่ได้ประตูอย่างน่าเสียดาย เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ พาบอลลุยไปถึงริมเส้นหลังประตู ก่อนหักเข้ากลาง บอลไปถูกขา วิคเตอร์ โมเซส ที่ยืนโล่งๆระยะเผาขน แต่บอลกลับไปชนคานอย่างไม่น่าเชื่อ


        ช่วงท้ายครึ่งแรก แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ได้ยิงด้วยขวา แต่บอลเบา จูเลียน สเปโรนี่ จึงรับสบาย ก่อน ซัวเรซ ได้ยิงปิดทท้าย แต่  สเปโรนี่ ยังเซฟได้ หมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล จึงนำ คริสตัล พาเลซ อยู่ 3-0


        เริ่มครึ่งหลึ่งมา พาเลซ เปลี่ยนทีเดียว2ตำแหน่ง โดยส่ง ดไวท์ เกย์ล มาแทน จิมมี่ เคเบ้ และส่ง โชเซ่ คัมปาญ่า แทน คาเมรอน เจอโรม


        ผ่านครึ่งหลังมา10นาที เกมของ พาเลซ ดีขึ้น แล้วก็ลุ้น จากขึ้นโหม่งของ มารูอาน ชามัค แต่บอลเบา จึงเข้ามือ ซิมง มินโญเลต์ รับไม่ยาก


        นาทีที่66 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัว2ตำแหน่งบ้าง โดยส่ง หลุย์ อัลแบร์โต้ ลงมาแทน วิคเตอร์ โมเซส และส่ง ดาเนี่ยล แอกเกอร์ ลงมาแทน มามาดู ซาโก้


        นาทีต่อมา  ดไวท์ เกย์ล มีโอกาสสับไกยิงนอกกรอบ แต่บอลโด่งข้ามคานไปเยอะ ก่อน พาเลซ จะเปลี่ยนตัวอีกครั้ง โดยส่ง ยานนิค โบลาซี่ ลงมาแทน มารูอาน ชามัค


        นาทีที่77 ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้ประตูตีไข่แตก เมื่อได้ลูกฟรีคิก ริมสนามฝั่งซ้าย เปิดบอลเข้ามาหน้าประตู ดไวท์ เกย์ล โฉบโหม่งเสาแรก ให้ ทีมเยือน ตีไข่แตกมา1-3


         นาทีที่85 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ จ่ายเข้ากลางให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กระโดดยิงด้วยเท้าขวา แต่บอลไปชนเสาเต็มๆ


         3นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัว ส่ง ยาโก้ อัสปาส ลงมาแทน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์


        ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา ลิเวอร์พูล อัด คริสตัล พาเลซ ไป 3-1 คว้า3แต้ม ทะยานขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว โดยมีแต้มมากกว่า อาร์เซน่อล 1 แต้ม แต่แข่งมากกว่า1นัด

 11นักเตะของทั้งสองทีม
 
 ลิเวอร์พูล(4-4-2):ซิมง มินโญเลต์,โคโล่ ตูเร่, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, โฆเซ่ เอ็นริเก้,วิคเตอร์ โมเซส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิง , แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, หลุยส์ ซัวเรซ

 สำรอง:แบร็ด โจนส์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,หลุย์ อัลแบร์โต้,ยาโก้ อัสปาส,ติอาโก้ อิลอรี่,จอร์ดอน อิเบ,อังเดร วิสดอม

 คริสตัล พาเลซ(4-4-2):จูเลียน สเปโรนี่,โจเอล วอร์ด,อาเดรียน มาริอัปปา,ดาเมี่ยน เดลานี่ย์, ดีน ม็อกซี่ย์,เจสัน พุนเชียน,ไมล์ เยดินัค, สจร๊วร์ต โอเคเฟ่,จิมมี่ เคเบ้,มารูอาน ชามัค,คาเมรอน เจอโรม

 สำรอง:โชเซ่ คัมปาญ่า,ยานนิค โบลาซี่,เควิน ฟิลลิปส์,ดไวท์ เกย์ล,อัดเลเน่ กัวดิโอร่า,ลูอิส ไพรส์,ไรอัน อินิสส์

 ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

สดจากแอนฟิลด์โดยลิตเติ้ลโจ

วอร์มพอแร้ววว..ลิตเติ้ลโจ