อดีตประธานสโมสรพังงาเอฟซีหมาดๆ โพสต์เปิดใจที่เฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุชัด ตนมีสิทธิเลือกเพราะสมาคมฯ แจ้งมา วอนอย่าโย่งการเมือง เชื่อ “ยี” และ “กร๊อง” บริหารงานร่วมกันได้

ควันหลงหลังจากเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (ในพระบรมราชูปถัมภ์) เมื่อวานนี้ (17 ตุลาคม) ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน, กรุงเทพ โดย “บังยี” วรวีร์ มะกูดี ได้รับเลือกเป็นนายกฯ ต่ออีกสมัยทิ้งคู่แข่งอย่างนายวิรัชอย่างขาดลอยด้วยคะแนน 42 ต่อ 28 คะแนน

ใน งานดังกล่าว เกิดกรณีพิพาท การแย้งสิทธิ์ ลงคะแนนเลือกตั้งของทีมพังงา ระหว่าง จำรัส นุ้ยสง่า กับ ก่อแก้ว พิกุลทอง ซึ่ง ในที่สุด ก่อแก้ว ได้รับสิทธิ์นี้ไป จากการตัดสินอันไม่ชอบมาพากล ของคณะกรรมการอุทธรณ์ ที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่สดๆร้อนๆ นอกจากนี้ ก่อแก้ว ยังได้ เผลอสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า มาเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะ มีคำสั่งทางการเมือง

ล่าสุด ก่อแก้ว ได้โพสต์ระบายความรู้สึกหลังถูกมองว่าโดนปั่นให้ลงคะแนนฝั่งอดีตนายกฯ 3 สมัยว่าตนมีสิทธิเพราะได้รับข้อมูลจากทางสมาคมฯ ให้ใช้สิทธิในฐานะประธานสโมสรในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าตนจะเพิ่งลาตำแหน่งไปไม่นาน

“แฟนบอลบางคนที่อกหักจาก ผลการเลือกตั้ง มาฟาดงวงฟาดงากับผมด้วย (ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าผมเลือกใคร) หาว่าผมไปสวมสิทธิในการโหวตจากคนอื่นที่ควรมีสิทธิ์” บิ๊กพังงาโพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวชื่อ Kokaew Pikulthong ก่อแก้ว พิกุลทอง

“ผม เป็นอดีตประธานสโมสรพังงาเอฟซี ซึ่งเพิ่งหมดวาระ โดยหลังหมดฤดูกาล สโมสรได้จัดตั้งนิติบุคคล (บริษัท) ขึ้นมาทำหน้าที่บริหารสโมสรเพื่อให้เป็นไปตามสากล ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร โดยให้กรรมการนิติบุคคลเป็นผู้ทำหน้าที่บริหารและลงนามในนิติกรรมทางกฎหมาย ต่างๆแทนการให้ประธานสโมสรมีอำนาจ ซึ่งโดยความเข้าใจผมตอนแรก ก็มองว่ากรรมการนิติบุคคลที่จัดตั้งใหม่น่าจะเป็นผู้มีสิทธิโหวตในครั้งนี้”

“แต่ เจ้าหน้าที่สมาคมฟุตบอล แจ้งว่าเนื่องจากทีมพังงาเอฟซีและบางทีมที่มีสิทธิเลือกนายกสมาคมครั้งนี้ ได้สิทธิเลือกนายกสมาคมคนใหม่ เพราะใช้ผลการแข่งขันของฤดูกาลที่ผ่านมา จึงต้องให้สิทธิผู้บริหารชุดที่ผ่านมาเป็นผู้มีสิทธิโหวตออกเสียงครั้งนี้ (ผมก็ยังงง ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ให้สิทธิผู้บริหารชุดที่มีอำนาจทางกฏหมาย ณ.วันที่ทำการโหวตเลือกตั้ง) ผมจึงได้รับสิทธิให้ไปโหวตเลือกตั้งครั้งนี้”

“และ เนื่องจากผมไม่ได้มอบอำนาจให้ใครไปโหวตแทน เนื่องจากคิดว่าตัวเองอยู่ในกรุงเทพอยู่แล้ว จึงน่าจะสะดวกกว่าที่จะให้พรรคพวกที่พังงามาโหวต จึงทำให้บางคนที่ผิดหวังกับการเลือกตั้งออกมาโจมตีอย่างหนัก หาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้อง ทั้งๆที่ไม่จริงครับ”

“1.คุณวรวีร์ เป็นนายกฯสมาคม มาตั้งแต่ ปี 2550 สมัยรัฐบาล คมช. แล้วครับ
2.ผม ไม่รู้จักทั้งคุณวรวีร์ และคุณวิรัช เป็นการส่วนตัว แต่ถูกล็อบบี้ทั้งจากพรรคพวกในพรรคและนอกพรรคให้เลือกคุณวรวีย์บ้าง เลือกคุณวิรัช ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป
3.ผู้สมัครเป็น กรรมการบริหารในสายของ ของคุณวรวีย์ มีบุคลากรจากซีก พรรคประชาธิปัตย์ร่วมด้วยเช่น ส.ส.ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หรือ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ ในขณะที่ ในสายของของคุณวิรัช มี ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส.พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ จาก ปชป. มาร่วมทีมด้วย ซึ่งคละเคล้ากันไป
4. เนื่องจากวงการฟุตบอลมีบุคคลากรที่เป็นตระกูลนักการเมือง มีส่วนร่วมในการบริหารทีมต่างๆเกือบทั่วประเทศ แถมมีข่าวลือว่า มีคุณเนวิน ชิดชอบ มาร่วมสนับสนุนผู้สมัครบางท่าน จึงทำให้หลายคนมองว่าการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วลากพรรคเพื่อไทยไปมีส่วนร่วมด้วยเท่านั้นเอง”

โดยทั้ง นี้ ตนยังกล่าวด้วยว่า ผลการแข่งขันที่ออกมาอาจทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ แต่ส่วนตัวแล้วยังเชื่อว่าคุณวรวีร์สามารถบริหารงานร่วมกับคุณวิรัชได้อย่าง แน่นอน

“ผลการเลือกตั้งที่ออกมา มีคนที่สมหวังและผิดหวัง นานาจิตตัง เป็นธรรมชาติของมนุษย์ โดยส่วนตัวผมมองว่า ทั้งคุณวรวีย์ และ คุณวิรัช มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่น่าจะเสริมซึ่ง กันและกันได้เป็นอย่างดี ในเมื่อการเลือกตั้งจบแล้ว แทนที่จะขัดแย้งกันต่อไป คุณวรวีย์น่าจะเชิญคุณวิรัช มาร่วมงานด้วย เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนสมาคมฟุตบอล ไทยให้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะการสรรสร้างทีมชาติไทย ให้มีผลงานอยู่แถวหน้าอาเซียน และอยู่ในกลุ่มนำของเอเซีย ตามที่แฟนบอลทั้งประเทศคาดหวังไว้”

อนึ่ง วันนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมประกาศรับรองหรือไม่รับรองนายวรวีร์ มะกูดี ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน เวลา 15.00 น.