"หมาป่ากรุงโรม" โรม่า ฟอร์มยังร้อนแรง แม้เหลือ10คน แต่ก็ยังสามารถบุกเอาชนะ อูดิเนเซ่ ได้ 1-0 ขณะที่ ยูเว่ เปิดบ้านทุบ เจนัว นิ่ม 2-0 ส่วน เอซี มิลาน เซ็งบุกพ่าย ปาร์ม่า 2-3 ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา

สนาม:ฟริอูลี่

         อูดิเนเซ่ เจองานหนักในการเปิด สตาดิโอ ฟริอูลี่ รอรับ โรม่า ทีมจ่าฝูงที่ชนะมารวด โดยเจ้าบ้านมีตัวทีเด็ดที่ หลุยส์ มูเรียล และ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ขณะที่ผู้มาเยือนได้ เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ พ้นโทษพักแข้ง แต่ไม่มี ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กับ แชร์วินโญ่ ที่เจ็บ สามประสานแนวรุกจึงปรับใช้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์โก บอร์ริเอลโล่ และ อเด็ม ลายิช

         เริ่มมาเพียง 3 นาที เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูแล้ว เมื่อ มูเรียล เลี้ยงลุยขึ้นมา ก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งชนเสาไกลอย่างน่าเสียดาย มูเรียล พยายามซ้ำก็ข้ามคานไปอีก

        โอกาสเป็นของ อูดิฯ อีกครั้ง มูเรียล ปาดเรียดจากซ้ายเข้าเขตโทษให้ ดิ นาตาเล่ ชาร์จเบาไป มอร์แกน เด ซานช์ติส พุ่งรับเอาไว้ได้

         "หมาป่าเหลือง-แดง" มาได้ลุ้นจะแจ้งในนาทีที่ 35 บัลซาเร็ตติ ครอสจากซ้ายให้ บอร์ริเอลโล่ เทกตัวโหม่ง ทำเอา อีวาน เคลาว่า ต้องออกแรงปัดข้ามคานไปก่อน

         3 นาทีต่อมา เจ้าบ้านน่าได้ประตูเหลือเกิน เมื่อ มูเรียล แทงทะลุช่องออกซ้ายให้ กาเบรียล ซิลวา กระดกข้าม เด ซานช์ติส ไปแล้ว แต่ยังมี เลอันโดร กัสตัน ที่กระโดดเตะเคลียร์ไว้ได้บนเส้นแบบฉิวเฉียด

         ท้ายครึ่งแรก ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ มิราเล็ม ปานิช รับหน้าที่สังหาร ทว่าบอลยังไม่ผ่านมือ เคลาว่า จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อนแบบไร้สกอร์

         เปิดฉากครึ่งหลัง โรม่า มีลุ้นก่อน เควิน สตรอทมัน ทำชิ่งให้ ลายิช ยิงด้วยซ้าย ทว่า เคลาว่า ยังป้องกันได้ไม่มีปัญหา

         นาทีที่ 61 ปานิช จ่ายให้ ไมค่อน เติมขึ้นมากดด้วยขวาจากระยะประมาณ 20 หลา บอลพุ่งถากเสาไปไม่มาก

         อย่างไรก็ตาม 5 นาทีต่อมา "จัลโล่รอสซี่" ต้องเหลือ 10 คน หลัง ไมค่อน ไปทำฟาวล์ เอ็มมานูเอล อั๊กเยมัง-บาดู เชิ้ตดำชักใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

         อูดิฯ อาศัยตัวผู้เล่นที่มากกว่าโหมบุกทันที ดิ นาตาเล่ ตั้งป้อมซัดด้วยขวา บอลยังไม่เข้าเป้า

         กลายเป็นลูกทีมของ รูดี้ การ์เซีย ที่มาได้ประตูในนาทีที่ 82 จากจังหวะสวนกลับที่ สตรอทมัน ไหลให้ ไมเคิ่ล แบร็ดลี่ย์ วิ่งเข้ามาแปด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลก บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไป ขึ้นนำ 1-0

         ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นพยายามบุกหวังทวงคืนให้ได้ ดูซาน บาสต้า ตัวสำรอง กดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ เด ซานช์ติส ไม่พลาดเลยในวันนี้ จบเกม โรม่า บุกคว้าชัยเหนือ อูดิฯ 1-0 ทำสถิติชนะนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลติดต่อกัน 9 นัด มากสุดในประวัติศาสตร์เทียบเท่ากับที่ ยูเวนตุส เคยทำได้เมื่อซีซั่น 2005-06 แล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

        อูดิเนเซ่ : อีวาน เคลาว่า; โธมัส เอิร์กโตซ์ (ดูซาน บาสต้า น.76), ดานิโล่, นัลโด้; โรแบร์โต้ เปเรียร่า, จามปิเอโร่ ปินซี่, เอ็มมานูเอล อั๊กเยมัง-บาดู, อันเดรีย ลาซซารี่ (ไมโคซูเอล น.85), กาเบรียล ซิลวา; หลุยส์ มูเรียล (มาธิอัส ราเนชี น.90); อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่

        โรม่า : มอร์แกน เด ซานช์ติส; ไมค่อน, เมห์ดี้ เบนาเตีย, เลอันโดร กัสตัน, เฟเดริโก้ บัลซาเร็ตติ; มิราเล็ม ปานิช (วาซิลิส โทโรซิดิส น.68), ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เควิน สตรอทมัน; อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (มาร์กินโญ่ น.61), มาร์โก บอร์ริเอลโล่ (ไมเคิ่ล แบร็ดลี่ย์ น.78), อเด็ม ลายิช

สนาม: ยูเวนตุส สเตเดี้ยม

         "แชมป์เก่า" ยูเวนตุส เจอง่ายไม่ยากในการเปิด ยูเวนตุส สเตเดี้ยม รอรับ เจนัว ทีมท้ายตาราง เจ้าถิ่นมาเกือบฟูลทีม นำโดย อาร์ตูโร่ วิดัล, อันเดรีย ปีร์โล่, ปอล ป๊อกบา และ คาร์ลอส เตเวซ ด้านทีมเยือนมาเน้นรับไว้ก่อน ทิ้ง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ไว้เป็นหน้าตัวเดียว

          เจ้าบ้านบุกใส่ทันที ยอเรนเต้ ไหลให้ ป๊อกบา ที่ยืนโล่งอยู่คนเดียวในกรอบเขตโทษ แต่มัวชักช้าเกินไปจึงยิงไปติด มัตเตีย เปริน บอลมาเข้าทาง ยอเรนเต้ ที่ชิพสวนกลับไป ทว่านายทวารผู้มาเยือนยังถอยลงไปรับได้ทัน

          ให้หลังไม่นาน เมาริซิโอ อิสลา ครอสจากขวาให้ ยอเรนเต้ เข้าชาร์จ ยังเป็น เปริน ที่เซฟได้เยี่ยม

          นาทีที่ 19 วิดัล มีโอกาสกระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งชนคานดังสนั่น ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

          อย่างไรก็ตาม "ม้าลาย" มาได้จุดโทษในอีก 4 นาทีต่อมา หลัง ควัดโว อซาโมอาห์ ไปถูก ดาวิเด้ บิออนดินี่ ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ และเป็น วิดัล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ขึ้นนำ 1-0

          ลูกทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ยังรุกต่อเนื่อง เตเวซ ไหลจากซ้ายเข้าเขตโทษให้ ปีร์โล่ ล็อกหลบ โธมัส มานเฟรดินี่ ก่อนยิงเล่นทาง แต่ เปริน พุ่งซูเปอร์เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

          ถัดมา ป๊อกบา ขโมยบอลได้จาก บิออนดินี่ ในกรอบเขตโทษทางซ้าย แล้วเลือกปั่นไซด์ด้วยขวา บอลโค้งหลุดเสาไกลไปไม่มาก

          พลพรรค "เบียงโคเนรี่" มาบวกได้อีกเม็ดในนาทีที่ 36 จากจังหวะที่ ยอเรนเต้ ไหลออกซ้าย อซาโมอาห์ เปิดกลับเข้าเขตโทษให้ เตเวซ ล็อกหลบ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ ก่อนซัดจ่อๆ ไม่เหลือ หนีห่าง 2-0

          จากนั้นทั้งสองทีมไม่มีโอกาสอะไรเพิ่มเติม จบ 45 นาทีแรก ยูเว่ ออกนำไปก่อน 2-0

          ครึ่งหลัง จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ แก้เกมด้วยการถอด ลูก้า อันโตเนลลี่ และ จิลาร์ดิโน่ ออก พร้อมส่ง ยอนนิส เฟตฟัตซิดิส กับ ปาเป้ มุสซ่า โคนาเต้ ลงแทน

          อย่างไรก็ตาม เกมยังเป็นของแชมป์เก่า เตเวซ กระหน่ำเต็มข้อบริเวณหัวกระโหลก แต่ เปริน พุ่งปัดเอาไว้ได้ ยอเรนเต้ ตามซ้ำโล่งๆ ก็ยังไม่ผ่านมือโกล์ทีมเยือน

          นาทีที่ 65 วิดัล มีโอกาสส่องไกลด้วยซ้าย แต่บอลเบาไป เปริน รับสบาย

          "กริโฟเน่" ยังไม่ท้อ โคนาเต้ เปิดจะให้ เฟตฟัตซิดิส ทว่า จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ยังสกัดได้หวุดหวิด

          ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่แทบไม่มีจังหวะอันตรายอะไรแล้ว จบเกม ยูเว่ ทุบเอาชนะ เจนัว ไปได้สบาย 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

        ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่; เมาริซิโอ อิสลา, อาร์ตูโร่ วิดัล (ซิโมเน่ ปาโดอิน น.87), อันเดรีย ปีร์โล่, ปอล ป๊อกบา, ควัดโว อซาโมอาห์ (เปาโล เด เชเญ่ น.73); คาร์ลอส เตเวซ, เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (เซบาสเตียน โจวินโก้ น.75)

        เจนัว : มัตเตีย เปริน; ลูก้า อันโตนินี่, ดานิเอเล่ ปอร์ตาโนว่า, โธมัส มานเฟรดินี่, โจวานนี่ มาร์เคเซ่; ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้, ยูราย คุชก้า, ดาวิเด้ บิออนดินี่, อันเดรีย แบร์โตลัชชี่ (ริคาร์โด้ เชนตูริโอน น.79), ลูก้า อันโตเนลลี่ (ยอนนิส เฟตฟัตซิดิส น.46); อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (ปาเป้ มุสซ่า โคนาเต้ น.46)

ปาร์ม่า 3-2 เอซี มิลาน

สนาม:เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่

         เกมที่ สตาดิโอ เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่ เจ้าบ้าน ปาร์ม่า ได้ อันโตนิโอ มิรันเต้ พ้นโทษแบนกลับมาลงเฝ้าเสา พร้อมยังมี อันโตนิโอ คาสซาโน่ จับคู่ล่าตาข่ายกับ อเมารี ขณะที่ผู้มาเยือน เอซี มิลาน ยังไร้ ฟิลิปป์ เม็กแซส ที่ถูกพักแข้งอีก 3 นัด แต่ได้ ไนเจล เด ยองก์ พ้นแบน เช่นเดียวกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่หายเจ็บเรียบร้อย

         เปิดฉากมา 10 นาที เป็น "จัลโล่บลู" ที่ได้ประตูก่อน จากจังหวะที่ โจนาธาน เบียเบียนี่ วิ่งแซง เกวิน กงสต็องต์ ทางขวา ก่อนครอสเข้ากลาง มัสซิโม่ ก็อบบี้ ยิงติดบล็อก แต่บอลยังมาเข้าทาง มาร์โก ปาโรโล่ ซัดเรียดเสียบตาข่ายเข้าไป ขึ้นนำ 1-0

        จากนั้นค่อนข้างเนือย จนกระทั่งนาทีที่ 32 วอลเตอร์ เบียร์ซ่า แทงทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ อันเดรีย โปลี เติมขึ้นมาซัดถากเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

         6 นาทีต่อมา อินยาซิโอ อบาเต้ จ่ายให้ โรบินโญ่ ที่เสาสอง ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามา บอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไป

         นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เจ้าถิ่นมาบวกเพิ่มได้อีกเม็ด หนนี้ เบียเบียนี่ เปิดจากขวาเข้ากลาง ปาโรโล่ ตั้งให้ คาสซาโน่ สังหารทีมเก่าไม่เหลือ จบ 45 นาทีแรก ปาร์ม่า ออกนำไปก่อน 2-0

         ครึ่งหลังเริ่มมา เบียเบียนี่ ครอสจากขวาเข้ากลาง คาสซาโน่ จ่ายต่อให้ ปาโรโล่ ซัดไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

        ผ่านมาถึงนาทีที่ 59 "ปีศาจแดง-ดำ" ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 เมื่อ อเลสซานโดร มาตรี ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง วิ่งไปรับบอลในกรอบเขตโทษทางขวาตวัดยิงทันที บอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม เป็นประตูแรกของเจ้าตัวนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ยูเวนตุส ด้วย

         3 นาทีต่อมา มิลาน ตามตีเสมอเป็น 2-2 จนได้ จากลูกเตะมุม คริสเตียน ซาปาต้า โขกไปชนคาน แต่ยังมี มาติอัส ซิลเวสเตร ที่โหม่งซ้ำจ่อๆ เข้าไป

         ลูกทีมของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ได้ใจแล้ว ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ กระหน่ำด้วยขวาระยะถนัด บอลพุ่งถากเสาไปไม่กี่คืบ

         นาทีที่ 82 มาตรี ทำชิ่งให้ กาก้า ตัวสำรอง ได้ยิงในกรอบเขตโทษ ทว่า มิรันเต้ ยังปัดออกหลังได้เยี่ยม

         เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ในช่วงทดเจ็บเจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา และเป็น ปาโรโล่ รับหน้าที่สังหารทะลุกำแพงเข้าไป เป็นเม็ดที่สองของเจ้าตัวด้วย จบเกม ปาร์ม่า เฉือนชนะ มิลาน ไปได้อย่างระทึก 3-2

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

        ปาร์ม่า อันโตนิโอ มิรันเต้; มัตเตีย คาสซานี่, เฟลิเป้ (โยฮัน เบอนาลูอาน น.75), อเลสซานโดร ลูคาเรลลี่; โจนาธาน เบียเบียนี่, วอลเตอร์ การ์กาโน่, มาร์โก มาร์คิออนนี่, มาร์โก ปาโรโล่, มัสซิโม่ ก็อบบี้; อันโตนิโอ คาสซาโน่ (อเลอันโดร โรซี่ น.73), อเมารี (นิโกล่า ซานโซเน่ น.64)

        มิลาน : กาเบรียล; อินยาซิโอ อบาเต้, คริสเตียน ซาปาต้า, มาติอัส ซิลเวสเตร, เกวิน กงสต็องต์; ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่, ไนเจล เด ยองก์, อันเดรีย โปลี (กาก้า น.50); วอลเตอร์ เบียร์ซ่า, มาริโอ บาโลเตลลี่ (อเลสซานโดร มาตรี น.50), โรบินโญ่ (ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า น.88)