ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » 10 เหตุการณ์สำคัญ สู่เส้นทางแชมป์ไร้พ่าย 'บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด'

10 เหตุการณ์สำคัญ สู่เส้นทางแชมป์ไร้พ่าย 'บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด'

Posted 06/11/2013 by ไทยรัฐ

 

ในที่สุดทัพ "ปราสาทสายฟ้า" ก็จัดการเผด็จศึกคว้าแชมป์ฟุตบอล โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก กลับคืนสู่ถิ่น ไอโมบาย สเตเดียม ได้อีกครั้ง โดยเป็นสมัยที่ 2 ภายใต้ชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เต็มตัว อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าครั้งนี้ ฮือฮา ยิ่งใหญ่ และเร้าใจกว่าปีไหนๆ

"ทีม ข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์" ขอย้อนรอย 10 เหตุการณ์สำคัญ ระหว่างการขับเคี่ยวแชมป์กันอย่างดุเดือด ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ก่อนเป็นบันได ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาผงาดสู่ความเป็นเจ้าลูกหนังเมืองไทย ในปี 2013 ได้สำเร็จ

 

ออกตัวแรงตั้งแต่ บอล ถ้วย ก.

 

ตาม ธรรมเนียมก่อนเปิดฤดูกาล แชมป์บอลลีก กับ แชมป์บอลถ้วยเอฟเอ คัพ จะต้องมาฟาดแข้งกันก่อน โดยปีนี้ บุรีรัมย์ ที่มาในฐานะแชมป์บอลถ้วย พบกับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์บอลลีก ซึ่งผลปรากฏว่า บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ 2-0 จากสองประตูของ รัมเซส บุสโต๊ส โดยที่เกมนี้ เมืองทองฯ เหลือผู้เล่น 10 คน ในช่วงครึ่งชั่วโมงหลัง เมื่อ มงคล นามนวด โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

 

เสริมทัพไม่บันยะบันยัง

 

หลัง พลาดแชมป์ไทยลีก และทำได้เพียงอันดับ 4 ในฤดูกาล 2012 บุรีรัมย์ เสริมทัพยกแรกก่อนเปิดซีซั่น ที่ฮือฮาสุด คือ "เจ้าเอ็ม" อนาวิน จูจีน มิดฟิลด์ตัวเก่ง ที่ย้ายมาจาก บางกอกกล๊าส เอฟซี และ สุรีย์ สุขะ แบ็กซ้ายจากชลบุรี เอฟซี จากนั้นก็ยังมี นักเตะดาวดังทั้งไทยและเทศอีกหลายชีวิต ที่แวะเวียนเข้ามาในทีม ร่วมๆ กว่า 20 ชีวิตเลย รวมถึงคนล่าสุด เจย์ ซิมป์สัน อดีตนักเตะของอาร์เซนอล ชาวอังกฤษ ที่แว่วๆ ทำสถิติรับค่าเหนื่อยแพงสุดในลีกเมืองไทยเลยทีเดียว หากจะประเมินถึงตัวเงินที่ทุ่มไป คงจะเหยียบหลักร้อยล้านทีเดียว

 

นำเทรนด์ แข้งลูกครึ่ง สู่แผ่นดินแม่

 

แม้ ว่าบุรีรัมย์ จะไม่ใช่ทีมแรกที่เซ็นสัญญากับนักเตะลูกครึ่งไทย ในต่างแดน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สโมสรแห่งนี้ ได้สร้างความฮือฮา คว้าผู้เล่น 2 สัญชาติ มาสร้างสีสันและโชว์ลีลาในเมืองไทย มากที่สุด เริ่มจาก แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ (อเมริกัน-ไทย) ที่ย้ายจากทีมในเมเจอร์ลีก สรัฐฯ มาเล่นในช่วงกลางปี 2012 ก่อนที่ ชาริล ชัปปุยส์ (สวิส-ไทย), เดนนิส บุสเชนนิง (เยอรมนี-ไทย) และ ชิดชนก ไชยเสนสุรินธร (ไทย-ลาว) จะพาเหรดกันมาสมทบ ก่อนเปิดซีซั่น 2013

 

ปรากฏการณ์ "สเปน คอนเน็ตชั่น"

 

ความ สำเร็จในการเซ็นสัญญากับ ออสมาร์ อิบันเนซ ปราการหลังร่างยักษ์ เมื่อช่วงกลางปี 2012 ส่งผลให้ เป็นประตูที่ช่วงเปิดกว้างให้ เหล่าบรรดานักเตะสแปนิช หลั่งไหลเข้าสู่แคมป์ เซาะกราวอย่างต่อเนื่อง พร้อมช่วยกันสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับทีม บุรีรัมย์ โดยเฉพาะ คาร์เมโล กอนซาเลซ และ ฮวน ปาตินโญ ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับสโมสร นอกจากนี้ ยังมี ฮวน เกรโร, เออร์เนสโต อมันเตกุย ภูมิภา ลูกครึ่งไทย-สเปน, เฆซุส เบร์โรคัล, บรูโน เอร์เรโร อาริอาส, มานูเอล เรดอนโด การ์เซีย รวมถึง  ดาบิด โรเชลา ชาวสเปน ที่เพิ่งคว้าตัวมาสดๆ ร้อนๆ ในช่วงปลายฤดูกาลนี้

ไม่ เพียงเท่านั้น ทีม "ปราสาทสายฟ้า" ยังเซ็นสัญญากับ อเลฆานโดร เมเนนเดส การ์เซีย อดีตผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ "โชเซ่ มูรินโญ" อดีตกุนซือเรอัล มาดริด  มานั่งแท่นเฮดโค้ชคนใหม่ของทีม และ กิเยร์โม โอไรโอล ซึ่งเคยทำงานเป็นผู้อำนวยการเทคนิคโรงเรียนสอนฟุตบอลของบาร์เซโลนา มาเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนในถิ่นไอโมบาย สเตเดียม อีกด้วย

 

เข้ารอบ 8 ทีม เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก

 

นอก จากผลงานในลีกจะยอดเยี่ยม แต่ บุรีรัมย์​ ในฐานะตัวแทนจากไทย ในศึกบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ก็โชว์ฟอร์มกระหึ่ม ล้มทีมยักษ์ ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แม้ว่าจะต้องคว้าตั๋วเตะรายการนี้ จากการเพลย์ออฟ แต่พวกเขาก็ผ่านด่านทีมบริสเบน โรอาร์ ของออสเตรเลีย เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะเขี่ยทั้ง เจียงสู เสินตี้ของจีน และ เวกัลตะ เซนได ของญี่ปุ่น ตกรอบ จากนั้น ในรอบ 16 ทีม บุรีรัมย์ เจอทีมแกร่งอย่าง บุนยอดคอร์ ของอุซเบกิสถาน ซึ่งพวกเขาก็ยังเอาชนะมาได้ ก่อนจะจอดป้ายในรอบ 8 ทีมแบบเฉือนฉิว ให้กับ เอสเตห์กัล ของอิหร่าน ไปอย่างน่าเสียดาย

 

ปลด 'โค้ชแต๊ก' กลางอากาศ

 

ทั้งๆ ที่ ผลงานกำลังดีวันดีขึ้น แต่กลายเป็นข่าวช็อกทั้งวงการลูกหนังเมืองไทย เมื่อบุรีรัมย์ ตัดสินใจปลด "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม ซึ่งพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย รวมถึงการกวาดทุกแชมป์ในเมืองไทย เมื่อปี 2011 ด้วยเหตุผลอันครุมเครือ ก่อนจะเป็นที่มาของวลีดังว่า "เฮด ของ เฮด โค้ช" ในเวลาต่อมา จากนั้น สกอต คูเปอร์ มือขวาของ "โค้ชแต๊ก" ก็มารับหน้าที่แทนตามคาด แต่สุดท้าย กุนซือชาวอังกฤษ ก็ต้องอำลาทีมไปเช่นกัน ระหว่างเกมเอเอฟซี ชปล. รอบ 8 ทีม โดยให้เห็นผลว่ามาจากปัญหาส่วนตัว

 

ตกเป็นจำเลยสังคม คดียิงเปาหนอม

 

ศึก ในสนามที่ว่าสู้กันอย่างดุเดือดแล้ว แต่ศึกนอกสนาม ก็มีร้อนแรงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมหนึ่งในผู้ร้ายก่อเหตุยิง"เปาหนอม" ถนอม บริคุต ผู้ตัดสินฟุตบอลชื่อดังของไทย ก่อนที่ คนร้าย จะอ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากบุคคล ในจ.บุรีรัมย์ และอ้างว่าเกี่ยวพันกับการตัดสินในเกมไทยลีก ระหว่าง อินทรีเพื่อน ตำรวจ กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า สังคม จะหันมาจับจ้องสโมสรแห่งนี้ จนนายเนวิน ชิดชอบ ปธ.ของทีม ต้องออกมาแถลงข่าวปกป้องชื่อเสียงของสโมสร พร้อมเอาเรื่องทุกคนที่กล่าวหาทีมโดยไร้หลักฐานชัดเจน

 

สุดยอดแชมป์ไร้พ่าย

 

แม้ ว่าจะเริ่มต้นฤดูกาล 2013 อย่างตะกุกตะกัก ด้วยการเสมอกับ ทีมน้องใหม่ "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี ในบ้านตัวเอง 1-1 แต่หลังจากนั้น บุรีรัมย์ ก็รักษาฟอร์มแกร่ง จนไม่พลาดท่าปราชัยให้กับทีมใดเลย ตลอด32 นัดที่ผ่านมา รวมถึงไฮไลท์สำคัญ บุกไปเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ และ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้ถึงถิ่น พร้อมทำสถิติชนะ 23 เสมอ 9 เก็บได้ 78 คะแนน ทิ้งอันดับอันดับ 2 เอสซีจี เมืองทองฯ ถึง 7 คะแนน

 

แนวรุกดี-แนวรับเยี่ยม

 

นอก จากนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเป็นทีมที่มีสถิติการยิงประตู และเสียประตูดีที่สุด โดย พวกเขา ยิงไปถึง 73 ประตู และเสียไปเพียง 23 ประตู ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า เอสซีจี เมืองทองฯ ถึง 38 ลูก โดยสถิติในฤดูกาลนี้ บุรีรัมย์ สามารถถล่มตาข่ายคู่แข่งได้อย่างน้อย 3 ลูก ต่อ 1 นัด เป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 เกม และรักษาคลีนชีตได้ ทั้งหมด13 นัด ขณะที่ คาร์เมโล กอนซาเลซ ก็สามารถคว้าตำแหน่งดาวซัลโวประจำลีกปีนี้ได้อีกด้วย จากผลงานซัดไป 23 ประตู

 

เจ้าพ่อบอลถ้วย เข้าชิงฯ เรียบ 3 ปีซ้อน

 

บุรีรัมย์ มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองอีกครั้ง หลังจากทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกลูกหนังมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีกคัพ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน โดยทีมเป็นแชมป์เก่าเมื่อสองปีที่ผ่านมา และมีโอกาสสูงที่บุรีรัมย์ จะสร้างผลงานกระหึ่ม กวาดทุกแชมป์ในเมืองไทย ไปครอง ซึ่ง 2 ทีมคู่ชิงฯ ของทีม อย่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี จะเป็นผู้ให้คำตอบต่อไป

 

ต้องบอกว่า เส้นทางคว้าแชมป์ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบจริงๆ แต่ในที่สุด ก็ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามและความมุ่งมั่นของขุนพล "เซาะกราว" ไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »