"ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันได้สำเร็จ! หลังไล่แซงเอาชนะ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่เหลือแค่ 10 คนในช่วงท้ายเกม อย่างสุดมันส์ 3-1 พร้อมผงาดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ของปีนี้ได้อีกด้วย ในศึกฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิ

ดูสด! บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - บางกอกกล๊าส เอฟซี เวลา 18.00 น.
ฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ 2013

รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-1 บางกอกกล๊าส เอฟซี


        สนาม : ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต


        การ แข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ "บิ๊กแมตช์" ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดีกรีแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกและแชมป์เก่า พบกับ "เดอะกล๊าส แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของไทยพรีเมียร์ลีก ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต


        ผลงาน นัดที่ผ่านมาในเกมลีกของทั้งสองทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังชนะ ทีโอที เอสซี 2-1 ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดรังชนะ ชัยนาท เอฟซี 2-1


        ส่วน ผลงานรายการนี้ในรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 (สนามกลาง) ส่วน บางกอกกล๊าส เอฟซี ชนะ อินทรี-เพื่อนตำรวจ เอฟซี 5-2 (สนามกลาง)


        ด้านผลงานที่พบกันล่าสุดในลีกเมื่อเลกสองที่ผ่านมา บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดรังเสมอมา 0-0



       เริ่มเกมเป็นฝั่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เปิดฉากโจมตีเข้าใส่ก่อนเลย

       นาทีที่ 5 แต่โอกาสแรกเป็นของ บางกอกกล๊าส เอฟซี ก่อน ธีรเทพ วิโนทัย ได้บอลจากกราบซ้ายก่อนกระชากหนี ธนะศักดิ์ ศรีใส ถึงเส้นหลังและป้ายเข้ากลางให้ ชาตรี ฉิมทะเล เข้าฮอสที่เสาแรกแต่ไปติดบล็อกกองหลังเฉี่ยวเสาแรกไปนิดเดียว

       2 นาทีต่อมา "กระต่ายแก้ว" ชวดโอกาสทองอย่างที่สุด เมื่อ ชาตรี ฉิมทะเล เจ้าเก่าได้บอลหลุดเดี่ยวไปล่อเป้ากับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวาร "ปราสาทสายฟ้า" แต่ตัดสินใจช้ายึกๆ ยักๆ ไม่ยอมยิงเลยโดน ประทุม ชูทอง มาแย่งบอลจากเท้าก่อนเคลียร์ออกหลังไปได้ทัน

       เกมช่วงแรกกลับเป็นฝั่งของ บีจี ที่มีโอกาสจบสกอร์ได้น้ำได้เนื้อกว่า ฟลาเวียน มิเชลินี่ พาบอลเลี้ยงมาทางขวาก่อนเปิดเรียดไปที่เสาแรก ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ยิงตามน้ำหลุดกรอบไปได้ลุ้น ในนาทีที่ 10

        นาที ที่ 17 และก็เป็น บางกอกกล๊าส เอฟซี มาขึ้นนำจนได้ จากบอลของ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว แทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับ บุรีรัมย์ ให้กับ ชาตรี ฉิมทะเล วิ่งสอดมาข้างหลังก่อนยิงเต็มข้อแบบไม่จับบอลพุ่งเสียบเสาแรกงามหยด "กระต่ายแก้ว" นำก่อน 1-0

       นาทีที่ 23 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกือบเอาคืนได้ จากลูกชิ่งต่อบอล 2-3 จังหวะหน้าเขตโทษบอลมาถึง คาร์เมโล่ กอนซาเลซ แปเล่นทางหวังเสียบเสาสองแต่ไปติดเท้า วสันต์ ฮมเสน ออกหลังไป

       เกมผ่านมาครึ่งชัวโมงพอดี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย ลงไปช่วยเกมรับแต่ไปเสียบใส่ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นไม่ลังเลให้เป้นลูกโทษทันที

        โกรัน ซูบาร่า กองหลัง "กระต่ายแก้ว" มาโดนใบเหลืองแรกของเกมหลังไม่พอใจคำตัดสินกรรมการ ในจังหวะเสียลูกโทษ

        นาทีที่ 32 ออสมาร์ อิบันเญส รับอาสายิงเข้ามุมซ้ายไม่พลาด บุรีรัมย์ ตามตีเจ๊า 1-1

        คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ของ บุรีรัมย์ มารับใบเหลืองบ้าง เมื่อไปเข้าสกัด ประวีณวัช บุญยงค์ อย่างน่าเกลียด ในนาทีที่ 35

       หลังจากได้ประตูตีเสมอ เกมตกเป็นของ บุรีรัมย์ ชัดเจน ครองบอลบุกใส่ตลอด

        นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ประวีณวัช บุญยงค์ แนวรับของบีจี รับใบเหลืองไปอีกคน

        ช่วงทดเจ็บ ประทุม ชูทอง เซ็นเตอร์แบ็ก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปสอย ชาตรี ฉิมทะเล โดนจดชื่อตามระเบียบ

       ก่อนจบครึ่งเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงเสมอกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-1 ในรูปเกมสุดมันส์

        ครึ่งหลังเริ่มมา บุรีรัมย์ ปรับทัพเน้นรุกมากขึ้นส่ง จักรพันธ์ แก้วพรม ลงมาแทน ประทุม ชูทอง ที่มีใบเหลืองติดตัว

        หลัง นวดอยู่นาน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาแซงนำจนได้ 2-1 จากลูกเปดริมเส้นซ้ายของ สุเชาว์ นุชนุ่มบอลลอยมาเข้าหัวของ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ โขกสะบัดบอลตกพื้นเสียบเสาอย่างสวยงาม ในนาทีที่ 54

        3 นาทีต่อมา ฟลาเวียน มิเชลินี่ มารับใบเหลืองที่ 3 ของ บีจี หลังไปฟาลว์ใส่ จักรพันธ์ แก้วพรม

        นาทีที่ 58 อนาวิน จูจีน ไปเตะเข้าข้างหลัง ปิยะชาติ ถามะพันธ์ โดนจดชื่ออีกคน

        สกอร์ เริ่มไหล! บอลยาวจากแดนหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาที่ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ทางกราบขวา ก่อนดึงหลอกกองหลังและโยนมาที่เสาไกล ไค ฮิราโนะ ยืนอยู่ไร้คนประกบก่อนโขกย้อนศรเสียบเสาแรกตุงตาข่าย "ปราสาทสายฟ้า" หนีไป 3-1 ในนาทีที่ 60

        2 นาทีต่อมา บุรีรัมย์ เปลี่ยนคนที่สองส่ง สุรีย์ สุขะ ลงเล่นแทน อนาวิน จูจีน

        นาทีที่ 67 บีจี อยู่เฉยไม่ได้ ส่ง ซารูตะ ฮิโรโนริ ลงมาลากเลื้อยแทน ศุภเสกข์ ไก่แก้ว

       นาทีถัดมา บางกอกกล๊าส เอฟซี เกือบไล่มา ธีรเทพ วิโนทัย เปิดข้ามฟากมากองหลัง บุรีรัมย์ เคลียร์ไม่ดีตั้งให้ ฟลาเวียน มิเชลินี่ หวดตูมเดียวบอลถากเสาไปแค่คืบ

       เกมของ บุรีรัมย์ ยังดีกว่าชัดเจน นาทีที่ 75 ออสมาร์ อิบันเญส เติมสูงมาลองยิงไกลดูบ้างข้ามคานไปได้ลุ้น 

       นาทีที่ 78 ซารูตะ ฮิโรโนริ ตัวสำรอง โชว์ความเร็วลากหลบ 3 แนวรับ บุรีรัมย์ ก่อนไปยิงเองในเขตโทษ แตบอลเบาไปไปเข้ามือของ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

        เข้า สู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สถานการณ์ของ "กระต่ายแก้ว" ยิ่งย่ำแย่ลงไปใหญ่เมื่อ โกรัน ซูบาร่า มาโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป หลังไปบ่นใส่ผู้ตัดสิน

        นาทีที่ 85 บางกอกกล๊าส เอฟซี เปลี่ยนเอา ภูริทัต จาริกานนท์ ลงมาแทน ฟลาเวียน มิเชลินี่

       นาทีเดียวกัน "ปราสาทสายฟ้า" เกือบได้ลูกที่ 4 เมื่อ คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ได้บอลแทงทะลุมาในเขตโทษ ก่อนแตะหลบ นริศ ทวีกุล แล้วแปนิ่มๆ บอลกำลังจะไหลเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น เลอันโดร ดอส ซานโตส ได้ลูกขยันวิ่งมาสกัดที่เส้นประตูได้หวุดหวิด

        นาทีที่ 88 บุรีรัมย์ เปลี่ยนตัวบ้างถอดเอา ไค ฮิราโนะ ออกแล้วส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาเสริมแนวรุกแทน

        นาทีสุดท้าย บีจี ส่งไพ่ตาย ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ลงมาแทน ปีเตอร์ แลง

       ช่วงทดเจ็บ บุรีรัมย์ อาศัยลูกสวนกลับเล่นงาน คาร์เมโล่ กอนซาเลซ ได้บอลหลุดไปอีกครั้งแต่แตะบอลห่างไปเข้ามือ นริศ ทวีกุล พอดี 

       ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่แซงเอาชนะไป บางกอกกล๊าส เอฟซี ไปแบบสุดมันส์ 3-1 สามารถป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันได้สำเร็จ พร้อมกับผงาดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ของปีนี้ได้อีกด้วย  

       รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

       บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (4-4-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ธนะศักดิ์ ศรีใส, ออสมาร์ อิบันเญส, ประทุม ชูทอง, ธีราทร บุญมาทัน, อนาวิน จูจีน, จิรวัฒน์ มัครมย์, สุเชาว์ นุชนุ่ม, มานูเอล เรดอนโด้ การ์เซีย, คาร์เมโล่ กอนซาเลซ, ไค ฮิราโนะ

       สำรอง : ยศพล เทียงดาห์, สุรีย์ สุขะ, สุรัตน์ สุขะ, ชาริล ชัปปุยส์, เอกชัย สำเร, จักรพันธ์ แก้วพรม, อดิศักดิ์ ไกรษร

       เทรนเนอร์ : อเลฮานโดร เมเนนเดส

       บางกอกกล๊าส เอฟซี (4-2-3-1) : นริศ ทวีกุล, วสันต์ ฮมเสน, ประวีณวัช บุญยงค์, โกรัน ซูบาร่า, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, ปีเตอร์ แลง, เลอันโดร ดอส ซานโตส, ฟลาเวียน มิเชลินี่, ธีรเทพ วิโนทัย, ศุภเสกข์ ไก่แก้ว, ชาตรี ฉิมทะเล

       สำรอง : กฤษณะ กลั่นกลิ่น, อำนาจ แก้วเขียว, สุวรรณภัทร์ กิ่งแก้ว, ภูริทัต จาริกานนท์, ซารูตะ ฮิโรโนริ, องอาจ ภมรประเสริฐ, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา   

       เทรนเนอร์ : อรรถพล ปุษปาคม