"ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ช้ำชวดขึ้นมาอยู่ท๊อปทรี หลังเปิดบ้านพ่าย "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล 0-1 โลอิก เรมี่ ฮีโร่ซัดชัยตั้งแต่ น.13 เก็บสามแต้มล้ำค่า ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2556

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-1 นิวคาสเซิ่ล

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน


         เกม วันนี้ เจ้าบ้าน "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ วาง คริสเตียน อีริคเซ่น ลงทำเกมรุกกับ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สันและแอนดรอส ทาวน์เซนด์ ส่วนทีม "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ให้ ชีค ตีโอเต้ และโยอัน กาบาย ลงคุมแดนกลาง เกมรุกยังเป็น โยอัน กุฟฟร็อง และโลอิก เรมี่ เช่นเคย


         ก่อน เกมเริ่มขึ้น นักเตะทั้งสองทีม รวมถึงแฟนบอลได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เพื่อรำลึกวีรกรรมของบรรพบุรษทหารเนื่องในวันทหารผ่านศึก 


         เกม ผ่านมาได้ 10 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อน จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเปิดไปที่กลางประตู โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ได้โขกเต็มๆ แต่ยังไม่แม่นพอ บอล้ขามคานออกหลังไป


         จังหวะ ต่อมา นิวคาสเซิ่ล ตอบโต้บ้าง จากจังหวะแทงบอลขนานเส้นจากแดนกลางให้ โลอิก เรมี่ สปีดเอาชนะ ไมเคิ่ล ดอว์สัน รับบอลในเขตโทษเจ้าถิ่น ทว่าจังหวะสับไกยิง ยังมี วลาด คิริเคส วิ่งเข้ามาจิ้มบอลทิ้งออกหลังไปได้ก่อน


         กระทั่งนาทีที่ 13 เป็นทีมเยือนที่ขยับสกอร์ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โชล่า อเมโอบี้ ตัดบอลจาก มุสซ่า เด็มเบเล่ ได้ที่กลางสนาม แล้วแทงทะลุช่องให้ โลอิก เรมี่ รับบอลในเขตโทษสเปอร์ส ล็อคหลบ แบรด ฟรีเดล แล้วแปเข้าประตูไปแบบสบายๆ


         ช่วง นาทีที่ 30 สเปอร์สได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะลูกตั้งเตะทางฝั่งซ้าย คริสเตียน อีริคเซ่น เปิดโค้งไปที่เสาแรก โรเบร์โต้ โซลดาโด้ โฉบมาโขกเช็ดบอลย้อยจะเข้าสามเหลี่ยมเสาแรก แต่ ทิม ครูล ยังพุ่งมาปัดทิ้งออกหลังไปได้


         ต่อมานาทีที่ 38 เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ คริสเตียน อีริคเซ่น ได้บอลที่หน้าเขตโทษนิวคาสเซิล แล้ววอลเล่ย์ทันที บอลพุ่งหาปากประตู ทว่า ทิม ครูล ยืนตำแหน่งดี เซฟไว้ได้อีกครั้ง


         จังหวะต่อมา ทีมสาลิกาดงเกือบจะได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ โยอัน กาบาย แทงบอลทะลุช่องไปให้ โชล่า อเมโอบี้ วิ่งตัดกองหลังเจ้าบ้าน รับบอลที่กรอบ 6 หลา ล็อคหลบแบรด ฟรีเดล แปเข้าประตู ทว่ากรรมการเป่าเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน


         นาทีที่ 42 เจ้าบ้านได้เฉียดจะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะเล่นกันสั้นๆที่หน้าเขตโทษผุ้มาเยือน จังหวะสุดท้าย เปาลินโญ่ ปั่นด้วยขาว บอลโค้งหาสามเหลี่ยมเสาแรก แต่ ทิม ครูล ยังป้องกันไว้ได้อีกครั้ง จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล บุกมานำ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อยู่ 1-0


         ครึ่งหลัง ไก่เดือยทอง ต้องเปลี่ยน 2 คนเพราะอาการบาดเจ็บ ถอด คิริเคส กับ เดมเบเล่ ออก แล้วส่ง ยูเนส กาบุล กับ ซานโดร ลงแทน


         นาทีที่ 50 สเปอร์ส น่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ ทาวน์เซนด์ ผ่านจากด้านขวาให้ เอริคเซ่น จับแล้วแปด้วยขวาระยะแค่ 12 หลา แต่ยิงเบาไปติดปลายเท้าของ ครุล เซฟได้อย่างหวุดหวิด


         3 นาทีให้หลัง เจ้าบ้านได้ฟรีคิกระยะอันตราย 23 หลา กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ปั่นแฉลบหัวกำแพงเปลี่ยนทางเข้ากลางประตู ครุล ที่เอียงตัวไปแล้วยังผวากลับมาเซฟได้ เปาลินโญ่ ปรี่เข้าซ้ำระยะแค่สองหลา แต่ยังไปติด ยองกา-เอ็มบิว่า เตะทิ้งจากเส้นประตูอย่างเหลือเชื่อ


         สเปอร์ส ต้องส่งกองหน้าลงไปเสริม เจอร์เมน เดโฟ แทน ซิกูร์ดส์สัน ในนาที 69


         นาที ที่ 71 ครุล ก็ยังโชว์ฟอร์มพระเอก เซฟลูกยิงเท้าซ้ายของ ทาวน์เซนด์ จากระยะ 22 หลาเอาไว้ได้ ไม่เข้าทาง โซลดาโด้ ที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วย


         10 นาทีท้าย สเปอร์ส พับสนามบุก นาทีที่ 82 ทาวน์เซนด์ ผ่านเรียดจากด้านขวา เปาลินโญ่ ปรี่เข้าจิ้มด้วยขวาระยะ 12 หลายังไปติดขา ครุล เซฟออกมาได้


         อีก 3 นาทีถัดมา จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายของเจ้าบ้าน เอริคเซ่น โยนลึกไปเสาสอง ยาน แฟร์ทองเก้น ขึ้นโหม่งเต็มๆ ครุล เซฟไม่ทันแล้ว แต่ก็ยังมีคานประตูช่วยเซฟให้ทีมเยือนอีก


         จบเกม นิวคาสเซิ่ล บุกชนะ สเปอร์ส 1-0 เป็นชัยชนะนัดที่ 2 ในลีกติดต่อกันของ สาลิกาดง

 รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

 สเปอร์ส : แบร๊ด ฟรีเดล, ไคล์ วอล์คเกอร์, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, วลัด คิริเคส (ยูเนส กาบูล น.45), ยาน แฟร์ต็องเกน, มุสซ่า เดมเบเล่ (ซานโดร น.45), โชเซ่ เปาโล เบแซร์ร่า มาซิเอล จูเนียร์ "เปาลินโญ่", แอนดรอส ทาวน์เซนด์, คริสเตียน เอริคเซ่น, กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน (เจอร์เมน เดโฟ น.68), โรเบร์โต้ โซลดาโด้ 
 
 สำรองไม่ได้ใช้ : เอวเรโญ่ โกเมส, อารอน เลนน่อน, เอริค ลาเมล่า, ลูอิส โฮลท์บี้  

 นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล, มาติเยอ เดอบูชี่, ไมค์ วิลเลียมสัน, มาปู ย็องก้า-เอ็มบีว่า, ดาวิเด้ ซานตอน, ชีคห์ ติโอเต้, โยฮัน กาบาย, โยอันน์ กรุฟฟร็อง (กาเบรียล โอแบร์กต็อง น.84), มุสซ่า ซิสโซโก้, โลอิก เรมี่ (ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ่ น.74), โชล่า อเมโอบี้ (ฟูร์นอน อนิต้า น.59)        

 สำรองไม่ได้ใช้ : ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ร็อบ เอลเลียตต์, แซมมี่ อเมโอบี้    

 ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย