“อั้ม” เผยต้องยกความดีให้เพื่อนที่เป็นกาวใจทำให้ได้คืนดี “แอมป์” บอกทำเอาเพื่อนไม่ได้หลับได้นอน พร้อมป้องฝ่ายชายไม่ได้บล็อกไอจีตน แต่เป็นตนที่บล็อกอีกฝ่ายก่อน ฟุ้งเพิ่งควงแอมป์ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว

ก่อนหน้านี้อยู่ๆ นางเอก “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ก็ออกมาประกาศว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่ม “แอมป์ พิธาน องค์โมษิต” เหตุเพราะฝ่ายชายไม่เข้าใจที่ตนรักน้องหมามากเกินไป แต่ผ่านไปไม่ไม่กี่วันทั้งคู่ก็กลับมาคืนดีกันจนหลายคนงง ตามข่าวไม่ทัน ซึ่งอั้มได้ออกมาเปิดใจในระหว่างมาร่วมงานเปิดร้านอาหาร “ครัวนกยูงทอง” ณ ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง ว่าต้องยกความดีให้เพื่อนที่เป็นกาวใจให้

“คือต้องยกความดีให้เพื่อนค่ะ เพื่อนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพื่อนวางแผนให้เจอกันแล้วก็แฟนคลับ ต้องบอกก่อนว่าเขาไม่ได้บล็อกไอจีของอั้มก่อน คืออั้มบล็อกของเขามันเลยเด้งอั้มออกในไอจีเขา ส่วนเพื่อนเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งนานแล้วค่ะ กลุ่มเดียวกันก่อนเราจะเป็นแฟนกัน”

“แผนก็ไม่มีอะไรมากมาย แค่เจอกันก็ปกติต่างคนต่างคุยก็ไม่ได้ปรับความเข้าใจค่ะ คือเป็นช่วงที่เราเสียใจมากๆ ทำไมถึงไม่เข้าใจแต่จริงๆ เขาเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว แต่คือเราให้เยอะไป ไม่กินข้าวไม่อะไรเลย คุยกับใครก็ไม่คุยเลยอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว อั้มไม่เคยเสียใจอะไรขนาดนี้ อั้มเลี้ยงมา 16 ปี อยู่ด้วยกันทุกวัน อยู่ด้วยกันตลอดมันเหมือนโดนอะไรพรากไป กินข้าวไม่ได้เหมือนคนบ้า”

เผย “แอมป์” ไม่ได้ขอโทษเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ผิด
“ไม่มีใครขอโทษเลยค่ะ พอเจอกันก็คุยกันเพราะเพื่อนอยู่เยอะ จริงๆ เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร ไม่ได้ร้ายกาจอะไร เขาเป็นคนดี คือเหมือนเราหายจากความเสียใจหลายๆ วันเราก็ค่อยคุยได้ ทุกวันนี้ยังคิดถึงกลับบ้านก็คิด เอาขนเขาติดตัวมา แต่ไม่ได้ร้องไห้แล้ว ตอนนี้ก็กลายเป็นถ้าเราพูดถึงสุนัขเขาก็จะเข้ามาปลอบเรา”

หลังจากคืนดีกันไม่นาน “อั้ม” ก็ควงคู่ “แอมป์” ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว
“อ๋อ ใช่ค่ะ ก็ไปโอซาก้ากับเกียวโต ก็ใส่ชุดกิโมโนกัน ตอนแรกทั้งอั้ม แอมป์ ทั้งพ่อจะไม่ใส่ แต่ก็คือเรามาไกลนะกว่าจะมาถึง ก็เลยใส่ก็ใส่ ไปนั่งรอยืนรอเลย จริงๆ อยากได้ชุดเต็มกว่านั้นแต่มันต้องไปรอเป็นวัน แต่งเป็นวันเลย ใส่แบบนั้นก็เขินค่ะ (ยิ้ม) ตลกดี แล้วคนที่นั่นก็กลายเป็นมาถ่ายรูปเรา พอถ่ายเสร็จก็เปลี่ยนชุดเลยมันอึดอัดหน่อย ปกติแอมป์ก็ไปเที่ยวกับที่บ้านอั้มบ่อย ไปรับก็มีค่ะ”

ก่อนหน้านี้เห็นใส่แหวนข้างขวา แต่แล้วก็เลิกใส่ ล่าสุด “อั้ม” ก็กลับมาใส่อีก จึงอดแซวไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนมาใส่ข้างซ้าย เจ้าตัวก็แง้มว่าข้างซ้ายต้องใหญ่กว่านี้
“ก็กลับมาใส่แหวนแล้วค่ะ ใส่ข้างขวาค่ะ ข้างซ้ายใหญ่กว่าข้างขวานะคะ (บอกเขาไหมว่าต้องใหญ่กว่า?) ก็ไม่ได้บอกเขาค่ะว่าต้องใหญ่กว่า”