คริสเตียนโน่ โรนัดโด้ รับบทฮีโร่โหม่งประตูชัยช่วย "ขุนพลฝอยทอง" โปรตุเกส เปิดบ้านเฉือนชัยเหนือ "ขุนพลไวกิ้ง" สวีเดน 1-0 เก็บความได้เปรียบก่อนบุกไปเยือน สวีเดน สัปดาห์หน้า ในศึกฟุตบอลโลก 2014 (รอบเพลย์-ออฟ นัดแรก) เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014

(รอบเพลย์-ออฟ นัดแรก)

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2556

โปรตุเกส 1 - 0 สวีเดน

สนาม: เอสตาดิโอ ดา ลุซ (ลิสบอน, โปรตุเกส)

        "ขุนพลจากแดนฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส จบด้วยการเป็นอันดับ 2 ของฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอฟ มีแต้มตามหลัง รัสเซีย แค่คะแนนเดียว ทำให้ต้องมาลุ้นต่อในรอบเพลย์-ออฟ อีก 2 นัด ที่ต้องเจอกับ สวีเดน

        เกมนี้ โปรตุเกส ได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม รวมทั้งได้ ฟาบิโอ โคเอนเตรา และ ชูเอา เปเรยร่า สองฟูลแบ็กของทีมหายเจ็บกลับมาลงสนามได้

        ในแดนกลางวาง ราอูล เมยเรเลส, มิเกล เวโลโซ่ และ ชูเอา มูตินโญ่ ผนึกกำลังร่วมกัน ส่วนสามประสานแดนหน้าส่ง นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงล่าตาข่ายพร้อมกัน

        ทาง "ขุนพลไวกิ้ง" ทีมชาติสวีเดน จบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ซี ในรอบคัดเลือก ตามหลัง "ขุนพลอินทรีเหล็ก" เยอรมัน เลยทำให้ สวีเดน ต้องมาเหนื่อยอีกครั้ง ด้วยการเพลย์-ออฟ กับ โปรตุเกส

        แนวรุกไว้ใจให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงวัย 32 ปี ที่ลงรับใช้ชาติเป็นนัดที่ 95 ลงล่าตาข่ายกับ โยฮัน เอลมานเดอร์ โดยรายของ ซลาตัน ซัดไปทั้งหมด 7 ประตูให้กับทีมชาติสวีเดนในรอบปี 2013 (6 ประตูในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2014)

        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 5 นาที โปรตุเกส ได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไหลบอลให้ ราอูล เมยเรเลส แทงเข้าเขตโทษไปถึง ชูเอา มูตินโญ่ รับบอลก่อนแตะหนี อันเดรียส อีซัคส์สัน นายทวารสวีเดนไปแล้ว แต่มุมแคบเกินไปเลยยิงไปเข้าข้างตาข่าย

        นาทีต่อมา สวีเดน เกือบได้เหมือนกัน มิคาเอล ลุสติก เปิดบอลจากกราบขวาเข้ากลาง โยฮัน เอลมานเดอร์ สอดมาแหย่เท้ายิงบอลหลุดเสาสองไปนิดเดียว

        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 28 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง ราอูล เมยเรเลส ตักบอลเข้าเขตโทษ มิคาเอล อันตอนส์สัน กองหลังสวีเดนสอดมาแหย่สกัดโดนปลายเท้ายังดีที่ อันเดรียส อีซัคส์สัน นายทวารเพื่อนร่วมทีมไม่หลงรับเอาไว้ได้

        ก่อนหมดครึ่งแรกแค่สองนาที ทีมเยือนมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกเยื้องมาทางซ้าย เซบาสเตียน ลาร์สสัน อาสาปั่นบอลข้ามคานออกไปนิดเดียว หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง โปรตุเกส ได้โอกาส ราอูล เมยเรเลส ลากมาซัดจากระยะร่วม 30 หลาบอลข้ามคานไปในนาทีที่ 61

        ห้านาทีต่อมา เจ้าบ้านเปลี่ยนเอา อูโก้ อัลเมยด้า กองหน้าตัวเก๋าลงมาเล่นแทน เอลแดร์ ปอสติก้า ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก

        มาถึงนาทีที่ 69 ขุนพลฝอยทองได้ลุ้นจากจังหวะที่ นานี่ ปีกตัวเก่งยิงตรงริมกรอบเขตโทษ แต่ อิซัคส์สัน นายทวารสวีเดน เซฟได้สวย

        นาทีต่อมา เอลมานเดอร์ ให้บอลไปที่ อิบราฮิโมวิช ลากมาโยนจากทางด้านซ้าย แต่ ปาตริซิโอ นายทวารเจ้าบ้านสปริงตัวรับไว้ได้

        เขยิบมานาทีที่ 74 โปรตุเกส ลุยขึ้นมาทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้ามายิง อิซัคส์สัน นายทวารสวีเดนปัดออกมาได้ อีกจังหวะ โรนัลดด้ ได้ส่องอีก แต่ อิซัคส์สัน ยังป้องกันได้สวย

        สองนาทีต่อมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ดังของโปรตุเกส มาโดนใบเหลืองไป จากจังหวะที่ ไปทำฟาวล์ อิซัคส์สัน

        ถัดมานาทีเดียว สวีเดน ให้ อันเดอร์ส สเวนส์สัน กองกลงตัวเก๋าลงเล่นแทน คิม คัลล์สตรอม ส่วน โปรตุเกส ส่ง โชซูเอ้ เล่นแทน ราอูล เมยเรเลส

        ท้ายเกมนาทีที่ 82 ขุนพลจากแดนฝอยทองขึ้นนำก่อนจนได้จากจังหวะที่ มิเกล เวโลโซ่ ดันขึ้นมาเปิดจากทางด้านซ้ายเข้ามากลางเขตโทษให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งตัวโหม่งจากระยะแค่ 6 หลาเข้าไปให้โปรตุเกส นำก่อน 1-0

        เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้ จบเกม โปรตุเกส เฉือนชนะไปได้ 1-0 เก็บความได้เปรียบก่อนบุกไปเยือนสนามเฟรนด์ส อารีน่า ในเมืองโซลน่า ของสวีเดน ในรอบเพลย์-ออฟ นัดสอง วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน ศกนี้

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        โปรตุเกส: รุย ปาตริซิโอ - ชูเอา เปเรยร่า, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - ราอูล เมยเรเลส, มิเกล เวโลโซ่, ชูเอา มูตินโญ่ - นานี่, เอลแดร์ ปอสติก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม)

        สวีเดน: อันเดรียส อิซัคส์สัน - มิคาเอล ลุสติก, เพอร์ นีลส์สัน, มิคาเอล อันตอนส์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, คิม คัลล์สตรอม, ราสมุส เอล์ม, อเล็กซ์ คาชานิคลิช - โยฮัน เอลมานเดอร์, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กัปตันทีม) 

        ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)