อัซซูร์รี่แค่เจ๊า!ไล่ตีเสมออินทรีมรกต2-2
Posted 19/11/2013 by siamsport
"อัซซูร์รี่" อิตาลี ยังเก็บชัยไม่ได้เป็นนัดที่ห้าติดต่อกัน หลังก่อนหน้านี้เสมอมาสี่นัดรวด เกมนี้เป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอ "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย ไปแบบสนุก 2-2 ในเกมฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ
วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2556
อิตาลี 2-2 ไนจีเรีย
สนาม: คราเวน ค็อตเทจ, (ลอนดอน, อังกฤษ), (สนามกลาง)
"อัซซูร์รี่" อิตาลี ที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่บราซิล ช่วงกลางปีหน้าได้แล้วนั้นไม่มี อันเดรีย บาร์ซายี่ เพราะเจ็บกล้ามเนื้อขาจากเกมแรก ไม่ได้เดินทางไปลอนดอนด้วย ทำให้ อันเดรีย ราน็อคเคีย ได้เล่นแทน ตำแหน่งผู้รักษาประตูพัก จานลุยจิ บุฟฟ่อน แล้วส่ง ซัลวาตอเร่ ซิริกู ลงมาเฝ้าเสา
แนวรุกใช้งาน อันโตนิโอ คันเดรว่า ปั้นเกมให้กับ มาริโอ บาโลเตลลี่ และ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ คู่กองหน้าเข้าทำประตู
ทางด้าน "อินทรีมรกต" ไนจีเรีย ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่บราซิล กลางปีหน้าได้แล้วเช่นกัน เดินทางมาอุ่นเครื่องกับ อิตาลี ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ (สนามกลาง)
เกมนี้ ไนจีเรีย ไม่ได้เรียกตัว อิเคชุควู อูเช่ เข้ามาติดทีม โดยวาง จอห์น โอบี มิเกล คุมเกมตรงกลางสนาม ปล่อยให้ เอ็นนัมดี้ โอดูอามาดี้, ไบรท์ ดิเก้ และ วิคเตอร์ โมเซส ทำเกมรุกสนับสนุน โชล่า อเมโอบี้ กองหน้าตัวเป้าเข้าทำสกอร์
เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 4 นาที ไนจีเรีย สวนขึ้นมาจนได้ฟรีคิก วิคเตอร์ โมเซส รับหน้าที่ยิงด้วยขวาเฉี่ยวเสาขวาไป
อย่างไรก็ตามเป็น อัซซูร์รี่ ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ ผ่านไปให้กับ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ที่เพิ่งหายจากอาการไข้หวัดกลับมาลงสนามได้นั้น ยิงด้วยขวาเข้ากลางประตูไปให้ อิตาลี นำเร็ว 1-0 ในนาทีที่ 12
สองนาทีต่อมา ไนจีเรีย ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ จอห์น โอบี มิเกล ผ่านให้กับ โอเกนยี่ โอนาซี่ ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ไปติดเซฟของ ซัลวาตอเร่ ซิริกู นายทวารทีมชาติอิตาลี
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 23 อิตาลี ได้ลุ้นจากจังหวะที่ เอมานูเอเล่ จั๊คเครินี่ เปิดให้กับ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ ส่องด้วยขวาบอลหลุดเสาสองไป
ผ่านมา 32 นาที อิตาลี ได้ลุ้นต่อเนื่องทีเดียว มอนโตลิโว่ ไหลบอลให้กับ บาโลเตลลี่ สับไกยิงด้วยขวาไม่ผ่านมือของ ออสติน เอยิเด้ นายทวารไนจีเรีย
อย่างไรก็ตาม ไนจีเรีย ตามตีเสมอจนได้ในสนาทีที่ 35 เมื่อ โชล่า อเมโอบี้ โยนจากทางซ้ายไปเสาสองให้กับ ไบรท์ ดิเก้ ที่เทคตัวได้เหนือกว่า มานูเอล ปาสกวาล ก่อนที่ ไบรท์ ดิเก้ จะโหม่งผ่านมือของ ซิริกู นายทวารอิตาลี เสียบมุมขวาเข้าไปให้ไนจีเรีย ตามมาเป็น 1-1
สี่นาทีต่อมา อินทรีมรกต พลิกแซงนำจากจังหวะที่ เบนจามิน ฟรานซิส โยนมาเสาแรกให้กับ โชล่า อเมโอบี้ กองหน้าตัวเก่งกระหน่ำด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลาบอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสุดสวยช่วยให้ ไนจีเรีย นำ 2-1
ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 3 นาที อัซซูร์รี่ ขึ้นมาบ้าง มาริโอ บาโลเตลลี่ ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษแต่ติดมือของ ออสติน เอยิเด้ ผู้รักษาประตูไนจีเรีย หมดครึ่งแรก ไนจีเรีย นำก่อน 2-1
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ไนจีเรีย เปลี่ยนเอา จอห์น โอกู ลงมาเล่นแทน เอ็นนัมดี้ โอดูอามาดี้
ทว่ากลายเป็น อิตาลี ได้ประตูตีเสมอ 2-2 เมื่อ บาโลเตลลี่ ตอกส้นมาให้กับ รอสซี่ แตะกลับให้ อันโตนิโอ คานเดรว่า เปิดบอลไปเสาไกลให้กับ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ยิงด้วยซ้ายเข้าไปในนาทีที่ 47
กระเถิบมานาทีที่ 53 อัซซูร์รี่ เปลี่ยนรวดเดียวสามรายให้ อเลสซานโดร เดียมานติ, มาร์โก ปาโรโล่ และ อันเดรีย ปีร์โล่ ลงเล่นแทน จูเซ็ปเป้ รอสซี่, ติอาโก้ ม็อตต้า และ ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่
อิตาลี ได้โอกาสในนาทีที่ 59 เมื่อ อันเดรีย ปีร์โล่ ได้จังหวะซัด แต่ ออสติน เอยิเด้ นายทวารไนจีเรีย ปัดออกมาเข้าทางของ มาร์โก ปาโรโล่ ยิงซ้ำข้ามคานไป
ข้ามมานาทีที่ 66 ไนจีเรีย จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา วินเซนต์ เอ็นเยียม่า ลงมาเฝ้าเสาแทน ออสติน เอยิเด้ นายทวารที่มีอาการบาดเจ็บ
ทัพอินทรีมรกต มีลุ้นในนาทีที่ 74 จากจังหวะที่ อาห์เหม็ด มูซ่า ตัวสำรองผ่านให้กับ จอห์น โอกู ที่ลงมาเป็นสำรองเช่นกันนั้นซัดด้วยซ้ายจากนอกเขตบอลพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่ ซัลวาตอเร่ ซิริกู นายทวารอิตาลี ปัดออกหลังไปได้ทัน
ท้ายเกมนาทีที่ 85 อิตาลี ได้ฟรีคิก อเลสซานโดร เดียมานติ ตัวสำรองยิงด้วยซ้ายบอลโค้งไปชนคานออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาทีต่อมา มานูเอล ปาสกวาล แบ็คของอิตาลี ดันขึ้นมาส่องจากนอกเขตโทษบอลเข้ากรอบ แต่ วินเซนต์ เอ็นเยียม่า นายทวารของไนจีเรีย ที่ลงมาเป็นสำรองในเกมนี้เซฟไว้ได้ เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบเกมเสมอกันไปสนุก 2-2
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อิตาลี: ซัลวาตอเร่ ซิริกู - คริสเตียน มาจโจ้, อันเดรีย ราน็อคเคีย, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, มานูเอล ปาสกวาล - ติอาโก้ ม็อตต้า (มาร์โก ปาโรโล่ น.53), ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่ (อันเดรีย ปีร์โล่ น.54), เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ (อันเดรีย โปลี น.76) - อันโตนิโอ คันเดรว่า (อเลสซิโอ แซร์ซี่ น.65) - มาริโอ บาโลเตลลี่, จูเซ็ปเป้ รอสซี่ (อเลสซานโดร เดียมานติ น. 53)
ไนจีเรีย: ออสติน เอยิเด้ (วินเซนต์ เอ็นเยียม่า น.66) - ก็อดฟรีย์ โอบัวโบน่า, อซูบุยเก้ เอ็กวูเอเก้, เบนจามิน ฟรานซิส, โซโลมอน ควัมเบ้ - โอเกนยี่ โอนาซี่, จอห์น โอบี มิเกล - เอ็นนัมดี้ โอดูอามาดี้ (จอห์น โอกู น.46), ไบรท์ ดิเก้ (อาห์เหม็ด มูซ่า น.65), วิคเตอร์ โมเซส (อิเดเย่ บราวน์ น.76) - โชล่า อเมโอบี้ (เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ น.65)
ผู้ตัดสิน: มาร์ติน แอ็ตกินสัน (อังกฤษ)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์