สโมสรไทยได้โควตาในถ้วยใบใหญ่สุดของเอเชีย หรือเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014 เป็น 1+2 ทีม โดยจะนำแชมป์ลีกไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ ส่วนเพลย์ออฟอีก 2 ทีม คือ เอสซีจี เมืองทอง ส่วนตั๋วอีกใบทาง ''บังยี'' วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยต้องให้สหพันธ์ฟุตบอลเอเชียเป็นผู้ประกาศว่าใครจะได้ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนตรวจคุณสมบัติ พร้อมชื่มชมการได้โควตาครั้งนี้ เพราะว่าฟุตบอลในเมืองไทยมีคะแนนเพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

ความเคลื่อนไหวของการประกาศโควตาในแต่ละประเทศที่จะได้สิทธิ์จำนวนสโมสรเข้าไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014 ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ แมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ได้สรุปโควตาของชาติต่างๆ ออกมาเรียบร้อยแล้ว

โดยประเทศไทยได้รับข่าวดี เมื่อได้โควตา 1+2 นั่นคือทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 1 ทีมในการผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ ส่วนอีก 2 ทีม ที่จะต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ที่แน่นอนแล้วคือ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ขณะที่โควตาอีก 1 ทีม ทางสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี จะมีการประกาศว่าสโมสรใดจะได้ไป ระหว่าง "เดอะ แร็บบิต" บางกอกกล๊าส เอฟซี และชลบุรี ในวันที่ 27 พ.ย.นี้

หลังจากประกาศผลโควตาของแต่ละประเทศที่ได้สิทธิ์ในการเข้าไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014 "บังยี"วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เดินทางเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องสิทธิ์อีก 1 สโมสรว่า ในเรื่องของโควตาอีก 1 ทีมนั้น ระหว่างบางกอกกล๊าส เอฟซี กับชลบุรี เราคงจะให้สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียเป็นผู้ประกาศในวันที่ 27 พ.ย.นี้

เนื่องจากจะมีคุณสมบัติพร้อมกับเงื่อนไขต่างๆ ที่เอเอฟซีจะเป็นผู้ทำการชี้แจง และยังถือเป็นมารยาทที่เราไม่สามารถจะเปิดเผยในเรื่องดังกล่าวได้ ทั้งนี้สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียยังให้ความสำคัญกับแชมป์ลีกและแชมป์ฟุตบอลถ้วยอีกด้วย

         
ซูฮกลีกไทยเป็นที่ 5 ของอีสต์เอเชีย

   
นอกจากนี้ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังกล่าวถึงเรื่องการได้โควตาครั้งนี้ว่า เห็นได้ชัดเลยว่าการที่เราได้เพิ่มสิทธิ์จาก 1+1 เป็น 1+2 พร้อมกับได้ 601.02 คะแนนนั้น ซึ่งอยู่ในอันดับ 5 ของอีสต์ เอเชีย ต่อจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ย่อมทำให้เห็นว่าฟุตบอลบ้านเรามีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งในฤดูกาลหน้าระบบการแข่งขันที่เอเอฟซีวางไว้นั้น จะทำการแยกระหว่าง ทีมจากโซนตะวันออกและทีมจากโซนตะวันตกอย่างชัดเจน นั่นคือเมื่อผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายจนถึงรอบรองชนะเลิศ สโมสรจากทั้ง 2 โซนจะยังไม่พบกัน แต่จะไปเจอกันในรอบชิงชนะเลิศทันที

         
ภูมิใจ "ไทย" เป็นเบอร์ 1 อาเซียน

     
ขณะเดียวกันนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังแสดงความยินดีกับการได้โควตาครั้งนี้ว่า ถือเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจอย่างมากที่สโมสรของเมืองไทย ได้สิทธิ์เพิ่มเป็น 1+2 นั่นแสดงให้เห็นว่าฟุตบอลบ้านเรายังครองความเป็นเบอร์ 1 ในย่านอาเซียนอยู่

สำหรับรอบเพลย์ออฟของศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014 ในโซนตะวันออก มีทั้งหมด 8 ทีม จาก 7 ชาติ นั่นคือ จีน 1 ทีม, ออสเตรเลีย 1 ทีม, ไทย 2 ทีม, สิงคโปร์ 1 ทีม, ฮ่องกง 1 ทีม, เวียดนาม 1 ทีม และอินเดีย 1 ทีม ส่วนลำดับในการให้โควตาสโมสรของโซนตะวันตกทั้ง 5 อันดับ ประกอบด้วย 1 อิหร่าน, 2 ซาอุดีอาระเบีย, 3 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 4 กาตาร์ และ 5 อุซเบกิสถาน

อีกทั้งยังมีการประกาศรางวัล "เอเอฟซี แอนนวล อวอร์ด 2013" ประจำปี 2013 โดยสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเซีย ซึ่งปีนี้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง หัวหอกทีมโต๊ะเล็กทีมชาติไทย คว้ารางวัลนักฟุตซอลยอดเยี่ยมไปครอง ส่วนชลบุรี บลูเวฟ ได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ม