ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 วิคตอเรีย พิลเซ่น

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
 
         แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบไปเรียบร้อย นัดนี้เปิดบ้านเจอกับ วิคตอเรีย พิลเซ่น ที่ตกรอบไปเป็นที่แน่นอนแล้วเช่นกัน ทำให้ทั้งสองทีมมีการหมุนเวียนทีมบางตำแหน่ง เจ้าถิ่นนำโดย เจมส์ มิลเนอร์, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ซามีร์ นาสรี่  และ เอดิน เชโก้ ด้านทีมเยือนฝากความหวังไว้ที่ ดาเนี่ยล โคลาร์ กับ สตานิสลาฟ เทชล์
 
         "เรือใบสีฟ้า" ได้โอกาสก่อน นาสรี่ โยนฟรีคิกเข้าเขตโทษให้ ฆาบี การ์เซีย สอดขึ้นมาชาร์จ บอลพุ่งถากเสาไปนิดเดียวเท่านั้น
 
         ถัดมา แฟร์นานดินโญ่ จ่ายให้ เชโก้ ส่องไกลด้วยขวาจากระยะประมาณ 20 หลา แต่ มาตุส โคซาชิค ยังป้องกันเอาไว้ได้
 
         เจ้าบ้านยังรุกต่อเนื่อง นาทีที่ 14 แฟร์นานดินโญ่ ไหลให้ นาสรี่ ตะบันด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งชนคานดังสนั่น ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย
 
         จากนั้น อเกวโร่ จ่ายให้ มิลเนอร์ กดด้วยซ้าย บอลยังไม่ผ่านมือ โคซาชิค
 
         ความพยายามของ แมนฯ ซิตี้ มาเป็นผลในนาทีที่ 33 เมื่อมาได้จุดโทษจากการที่ อเกวโร่ เปิดบอลไปโดนแขน ฟรานติเซ็ค ราจ์โตรัล ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลทันที และเป็น อเกวโร่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ขึ้นนำ 1-0
 
         อย่างไรก็ตาม ผู้มาเยือนตามเจ๊าได้สำเร็จก่อนจบครึ่งแรก 2 นาที จากจังหวะที่ โคลาร์ ไหลให้ โทมัส โฮราว่า ซัดด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลก บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมจึงเจ๊ากันไปก่อน 1-1
 
         ครึ่งหลัง มานูเอล เปเยกรินี่ จัดการถอด อเกวโร่ ที่มีอาการบาดเจ็บออก พร้อมส่ง เฆซุส นาบาส ลงเล่นแทน
 
         เจ้าถิ่นยังเดินเกมบุกเช่นเคย นาสรี่ จ่ายให้ เชโก้ ซัดด้วยขวา บอลพุ่งหลุดเสาออกหลังไป
 
         ผ่านมาถึงนาทีที่ 62 นาสรี่ เปิดให้ แฟร์นานดินโญ่ เทกตัวโหม่ง ทว่า โคซาชิค ยังเซฟเอาไว้ได้
 
         ลูกทีมของ เปเยกรินี่ มาขึ้นนำเป็น 2-1 ในอีก 3 นาทีต่อมา เมื่อ นาบาส ครอสจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ นาสรี่ ยิงแบบไม่ต้องจับบอลพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย
 
         ทีมเยือนตามตีเสมออีกครั้ง 2-2 นาทีที่ 69 หนนี้ โคลาร์ ทำชิ่งเข้าเขตโทษให้ เทชล์ ซัดด้วยขวาผ่านมือ โจ ฮาร์ท ตุงตาข่าย
 
         เกมค่อนข้างเปิด แมนฯ ซิตี้ มานำเป็น 3-2 ในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ นาบาส หลุดขึ้นทางขวา ก่อนปาดเรียดไปเสาสองให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง แปเข้าไปง่ายๆ
 
         นาทีที่ 89 เจ้าถิ่นมาได้ประตูหนีห่างจากจังหวะที่ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าไปหน้าประตู เอดิน เชโก้ ขึ้นโขกเต็มหัวส่งบอลตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 4-2
 
         ช่วงเวลาที่เหลือ พิลเซ่น ยังพยายามรุกหวังทวงคืนให้ได้ แต่แนวรับเจ้าบ้านไม่พลาดแล้ว จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ พิลเซ่น ไปได้ 4-2
 
         รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
         แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ไมการ์ ริชาร์ดส์, มาร์ติน เดมิเคลิส, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ฆาบี การ์เซีย, แฟร์นานดินโญ่ (ยาย่า ตูเร่ น.64) - เจมส์ มิลเนอร์, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" (เฆซุส นาบาส น.46), ซามีร์ นาสรี่ (อัลบาโร่ เนเกรโด้ น.75) - เอดิน เชโก้
         สำรองไม่ได้ใช้ : คอสเทล พานทิลิม่อน, ปาโบล ซาบาเลต้า, เดดริค โบยาต้า, เอเมียร์ ฮิวส์
 
         พิลเซ่น : มาตุส โคซาชิค - ฟรานติเซ็ค ราจ์โตรัล, มาริยัน ซิซอฟสกี้, วาคลาฟ โปรชาซก้า, โรมัน ฮุบนิค - มิลาน ปิเตอร์เซล่า (ยาน โควาริค น.73), โทมัส โฮราว่า, พาเวล ฮอร์วาธ, มิชาล ดูริส (โทมัส ว้ากเนอร์ น.90) - ดาเนี่ยล โคลาร์ (มาเร็ค บากอส น.86) - สตานิสลาฟ เทชล์
         สำรองไม่ได้ใช้ : ปีเตอร์ โบเล็ค, ลูคัส ไฮจ์ด้า, ราดิม เรซนิค, มาร์ติน ปอสปิซิล