คริส โวคส์ : กัลเลียนี ตำนานตลาดนักเตะผู้พ่ายแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลง
Posted 30/11/2013 by goal.com
ซีอีโอของรอสโซเนรีเคยได้รับการยกย่องในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดนักเตะในวงการฟุตบอล ก่อนที่ยุคสมัยแห่งความยิ่งใหญ่ของเขาจะหมดลงด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
กาลครั้งหนึ่ง เอเดียโน กัลเลียนี เคยมีงานที่ดีที่สุดในโลกลูกหนัง ในฐานะรองประธานและซีอีโอที่เอซี มิลาน เขามีโอกาสได้ใช้เงินของคนอื่นเพื่อร่วมสร้างทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล
ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของธุรกิจสื่อผู้กลายมาเป็นนักการเมืองอย่างซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี กัลเลียนีถือเป็นบุคคลสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของปีศาจแดงดำ จากการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย, เซเรีย อา 8 สมัย และเกียรติประวัติอีกมากมายทั้งในบ้านและต่างแดน
ทุกๆ ความสัมพันธ์ใหม่ที่แบร์ลุสโคนีมีเนื่องจากความได้เปรียบทางการเมือง ส่งผลให้กัลเลียนีได้รับการจดจำในฐานะชายผู้มีอำนาจเหลือล้นในถิ่นซานซิโร นักเตะอย่าง รุด กุลลิต, มาร์โก ฟาน บาสเทน, จอร์จ เวอาห์, ริคาร์โด กาก้า และอังเดร เชฟเชงโก้ ถูกดึงตัวเข้ามาเพื่อยกระดับสโมสร ความสำเร็จเหล่านั้นนำมาซึ่งเสียงชื่นชมมากมาย ในฐานะนายใหญ่ด้านการซื้อขายนักเตะ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นที่สุดของที่สุด
อย่างไรก็ดี เทพนิยายสุดวิเศษเรื่องนี้กลับจบลงแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กัลเลียนีออกมาประกาศว่าจากปัญหาเรื่องอำนาจในการบริหารและความขัดแย้ง เรื่องงานกับบาร์บารา ลูกสาวของแบร์ลุสโคนี ซึ่งเพิ่งตำหนิซีอีโอรายนี้ต่อหน้าสาธารณะ ส่งผลให้เขาต้องออกจากสโมสรที่เขามีอิทธิพลร่วมกับซิลวิโอมาตลอด 27 ปี
"ผมจะลาออกภายในไม่กี่วันนี้ บางทีอาจจะเป็นหลังเกมกับอาแย็กซ์" กัลเลียนีบอกผู้สื่อข่าว "ผมจะออกจากสโมสร ไม่ว่าจะมีค่าชดเชยหรือไม่ก็ตาม
"ผมเข้าใจดีว่าเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงจะต้องมาถึงในสักวันหนึ่ง แต่ไม่ใช่แบบนี้ ชื่อเสียงของผมถูกทำลาย เรื่องนี้ควรจะได้รับการจัดการแบบประณีตกว่านี้"
ข่าวเมื่อวันศุกร์จึงออกมาแบบน่าประหลาดใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทุกวันนี้ กัลเลียนีกลับกลายเป็นหมาป่าตัวใหญ่นิสัยแย่ๆ ตัวหนึ่งมากกว่าจะเป็นชายที่หยิบจับอะไรก็กลายเป็นทองไปเสียหมดเหมือนในอดีต อนาคตของมิลานเริ่มดิ่งลงเหวจากความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในตลาดซื้อขาย ขณะที่ปัญหาทางการเงินของสโมสรก็เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ในโลกที่โค้ชมากมายรู้สึกเหมือนถูกฟันข้างหลังเมื่อทีมทำผลงานได้ไม่ดี ซีอีโอคือคนที่สมควรได้รับเสียงวิจารณ์มากที่สุดในทีมเอซี มิลาน
ข้อเท็จจริงที่ว่านายใหญ่แห่งรอสโซเนรีอย่างมัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ไม่ค่อยถูกตำหนิติเตียนจากผลงานอันย่ำแย่ในตำแหน่งโค้ช และยังได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป บ่งบอกอะไรได้มากมายว่าเขาได้รับการหนุนหลังจากกัลเลียนี ในทางกลับกัน การที่อัลเลกรียังเป็นลูกจ้างของมิลานอยู่ก็เหมือนเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถูก ใช้เป็นไม้แข็งเพื่อปราบซีอีโอวัย 69 ปีด้วย
นอกจากนี้ เขายังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากซิลวิโอ แบร์ลุสโคนีเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะมีการเซ็นสัญญาสำคัญสักกี่ครั้งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าของสโมสรที่ได้รับเสียงชมเชยไปเสียหมด ตอนเซ็นสัญญากับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และโรบินโญ เมื่อปี 2010 แม้กระทั่งกัลเลียนีก็ยังบอกเราว่า นี่ไม่ใช่อะไรอื่นเลย นอกเสียจากของขวัญอันแสนวิเศษจากท่านอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ทว่าเมื่ออิบราฮิโมวิชถูกขายออกจากทีมเพื่อพยุงตัวเลขในบัญชี ขณะที่แข้งบราซิเลียนซึ่งมีปัญหาเรื่องการปรับตัวกลายเป็นนักเตะที่ไม่มีใคร ต้องการ กัลเลียนีกลับต้องเป็นคนแบกรับเสียงวิจารณ์ไปเต็มๆ
หายนะในการเซ็นสัญญาอย่างต่อเนื่องไม่ได้ทำให้ราคาหุ้นของกัลเลียนีเพิ่ม ขึ้นแม้แต่น้อย เอซี มิลาน ขายนักเตะอย่างอิบราฮิโมวิชและติอาโก้ ซิลวา ให้ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัวที่น้อยกว่าข้อเสนอที่พวกเขาได้รับเมื่อสองสัปดาห์ก่อนหน้านั้น 2 ล้านยูโร จากเงินจำนวนดังกล่าว 12.5 ล้านยูโรถูกนำมาจ่ายเป็นค่าตัวของกองหน้าสำรองอินเตอร์ มิลาน อย่าง จามเปาโล ปาซซินี, อีก 4 ล้านยูโรจ่ายให้เจนัวเพื่อเซ็นสัญญาคว้าตัว ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี ส่วนที่เหลือจ่ายไปกับการต่อสัญญานักเตะในทีมชุดใหญ่อย่าง บากาเย ตราโอเร, โบยาน เคอร์คิช, บาร์ตอสซ์ ซาลามอน และคริสเตียโน ซัคคาร์โด้ ทว่าพอมาถึงตอนที่ มาริโอ บาโลเตลลี ถูกดึงตัวมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็กลายเป็นแบร์ลุสโคนีอีกครั้งที่ได้รับเครดิตไปเต็มๆ
ซัมเมอร์ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งที่มิลานทำผลงานได้ย่ำแย่ สำหรับสโมสรที่สมควรต้องรัดเข็มขัดทางการเงิน การเซ็นสัญญาอเลสซานโดร มาตรี ถือเป็นความล้มเหลวระดับปรากฏการณ์ หากรวมเงินค่าซื้อขาย, ค่าเหนื่อย, ภาษี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ กองหน้ารายนี้ย้ายจากยูเวนตุสมาร่วมทีมรอสโซเนรีด้วยเงินถึง 30 ล้านยูโรเลยทีเดียว
เมื่อรวมกับการตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอ 35 ล้านปอนด์เพื่อซื้อปาโต้ของเปแอสเช เพียงเพื่อจะขายเขาออกไปด้วยค่าตัวแค่ 15 ล้านยูโรในปีถัดมา นั่นก็ชัดเจนว่ามิลานคือทีมที่ล้าหลังในตลาดนักเตะในช่วงหลายปีมานี้
กัลเลียนีต้องทำงานเหมือนถูกมัดมือมาข้างหนึ่งโดยตลอดในระยะหลัง ซึ่งต้องขอบคุณการเพิ่งมาตระหนักเมื่อสายของแบร์ลุสโคนีว่าช่วงเวลานี้ยาก ลำบากกว่าที่พวกเขาเคยเป็นอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์ แต่แม้กระทั่งพิจารณาในเรื่องนั้นแล้ว การเจรจาในช่วงหลังๆ ก็ยังต้องถือว่าตกต่ำกว่าตอนที่ดีที่สุด ด้วยการบริหารงานที่ไม่มีทิศทาง, ขาดความสามารถในการระบุและเจรจากับเป้าหมายที่หมายตาเอาไว้ทั้งต่อหน้าและ ลับหลัง รวมถึงการยังคงยืนยันอย่างต่อเนื่องว่าอัลเลกรีนั้นเหมาะสมกับงานแล้ว นั่นก็เป็นเหตุผลที่มากมายเพียงพอจะทำให้แฟนบอลหลายคนอยากเห็นกัลเลียนีออก ไป การยึดติดกับโค้ชนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การยืนหยัดเคียงข้างชายผู้ไม่มีความสามารถจะใส่แท็คติกหรือเทคนิคใหม่ๆ ใดๆ ให้นักเตะได้เลยตลอด 2 ปีครึ่งจนทีมตกต่ำอย่างรวดเร็วเป็นอีกเรื่องที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง
ข่าวดีสำหรับแฟนบอลเอซี มิลานก็คือมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่มองเห็นว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทิศทางใน ถิ่นซานซิโร นั่นคือ บาร์บารา แบร์ลุสโคนี และเธอคือพลังสำคัญที่บีบบังคับให้กัลเลียนีต้องกระโดดลงจากตำแหน่งก่อนจะ ถูกผลักออกมา ผู้อำนวยการวัยเยาว์ค่อยๆ พัฒนาความรู้เรื่องการบริหารอย่างอดทนตลอดหลายปีหลัง และดูเหมือนว่าจะได้รับอำนาจจากบิดาของเธอเพิ่มขึ้นทุกที
ไม่ว่าใครคงไม่มีทางลืมเลือนอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่กัลเลียนีเคย มีในอดีต แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันส่งผลให้เขาไม่ได้อยู่ภายใต้แสงไฟที่เจิดจ้ามาก มายนัก เขาจะได้รับการจดจำในฐานะตำนานของมิลาน แต่การตัดสินใจลาออกในครั้งนี้ถือเป็นผลดีสำหรับทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตกต่ำกว่าเดิม! อันเช่ ชี้มิลานเจ๊งแน่ หากกัลเลียนีไป
คาร์เล็ตโต้ เชื่อว่าอดีตต้นสังกัดของเขาคิดผิดมากๆที่ตัดสินใจแยกทางกับรองประธานสโมสรคนเก่ง อย่างอาเดรียโน กัลเลียนีกาก้าเชื่อมิลานแกร่งขึ้นหลังทุบเซลติก
ริคาร์โด้ กาก้า จอมทัพประสบการณ์สูงของ เอซี มิลาน เชื่อเพื่อนร่วมทีมของตนมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่บุกไล่ต้อน เซลติก 3-0 เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมระบุตอนนี้มีความสุขดีกับฟอร์มการเล่นของตัวเองอัลเลกรียันมิลานเล่นเหมือนเดิมเกมอัดเซลติก
มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ชื่นชมลูกทีมเล่นกันได้ยอดเยี่ยม และสมควรอย่างยิ่งที่เป็นฝ่ายกำชัยชนะเหนือ "ม้าลายเขียว-ขาว" กลาสโกว์ เซลติก 3-0 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวานนี้ พร้อมเชื่อว่าทีมก็ไม่ได้เล่นแตกต่างจากหลายเกมก่อนหน้านี้สักเท่าไร เพียงแค่ช่วงก่อนหน้านี้โชคอาจไม่เข้าข้างกาก้ารับห้องแต่งตัวมิลานตึงเตรียดก่อนฉะเซลติก
ริคาร์โด้ กาก้า มิดฟิลด์คนสำคัญ เอซี มิลาน รับช่วงนี้ทีมมีบรรยากาศในห้องแต่งตัวค่อนข้างตึงเครียด หลังจากมีงานยากจำเป็นต้องบุกไปชนะ กลาสโกว์ เซลติก ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันอังคารนี้ เพื่อรักษาโอกาสผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ และที่สำคัญคือลดแรงกดดันจากแฟนบอล หลังทีมไม่ชนะใครมา 7 นัดติดต่อกันแล้ว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์