พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพระปรีชา ทำผลงานยอดเยี่ยม ผ่านเข้ารอบ 12 คน ประเภทบุคคล ศิลปะบังคับม้า จากนักกีฬาทั้งหมด 24 คน 6 ชาติ เช่นเดียวกัน เทวินทร์ มานะธัญญา เป็นอีกหนึ่งนักกีฬาไทยที่ผ่านเข้ารอบ พร้อมลงแข่งขันชิงทอง 14 ธ.ค.นี้

ขี่ม้า ชิง 1 ทอง ที่สนามขี่ม้าอควอสเทรียม โดยทีมนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยนำโดย "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์" ทรงนำนักกีฬาไทยประกอบด้วย นิธิภัทร เหง้าโอสา, ภัคจิรา ธงภักดิ์ และเทวินทร์ มานะธัญญา ลงแข่งขันในประเภทศิลปะบังคับม้า โดยทีมไทยมี เทวินทร์ มานะธัญญา แข่งขันเป็นคนแรก จากนั้นเป็นทางด้าน นิธิภัทร เหง้าโอสา เจ้าของเหรียญเงินจากครั้งที่แล้ว และภัคจิรา ธงภักดิ์ เป็นคนที่สาม ก่อนที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงม้าแข่งที่ชื่อว่า "Htate Kwet" หรือ "เท็ท เคว็ท" เป็นม้าของประเทศเมียนมาร์ลงแข่งขัน

ซึ่งทรงทำตามเทสต์ของการแข่งขันได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทรงม้าเข้าสู่สนาม ควบคุมม้าให้เดินตรง ให้ม้าหยุด เข้ามุม วิ่งโค้ง วงกลม ซึ่งทรงมีพระปรีชาควบคุมม้าตามกติกาที่กำหนดดังกล่าว ก่อนที่จะได้รับการปรบมือจากกองเชียร์ชาวไทย และผู้ชมที่มาชมการแข่งขันอย่างกึกก้อง โดยผลการแข่งขันปรากฏว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงทำได้ 63.069 คะแนน, นธิภัทร เหง้าโอสา  57.552 คะแนน, เทวินทร์ มานะธัญญา 59.62 คะแนน และภัคจิรา ธงภักดิ์ ถูกดิสควอลิฟาย หลังจากม้ากระโดดระหว่างแข่งขัน

     เสียดายม้า "ภัคจิรา" พยศทำชวดทองทีม

ขณะที่สื่อมวลชนชาวไทยต่างชื่นชมในพระปรีชาติดตาม รายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการแข่งขันม้าแข่งทั้ง 4 ตัวมีม้าที่ชื่อ "Badaruka Camego" ซึ่งเป็นม้าจากออสเตรเลียเพียงตัวเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ "เอ๋ย" ภัคจิรา ต้องเสียคะแนนและโดนตัดไป เนื่องจากม้าตัวดังกล่าวกระโดด และไม่ทำตามที่ควบคุม โดยเจ้าม้าแข่งตัวนี้เป็นตัวที่พยศที่สุดของทั้งหมด 24 ตัว ของนักกีฬาจาก 6 ชาติ ชาติละ 4 คน ซึ่งมีอารมณ์ร้อน หงุดหงิด และโดดบ่อยครั้งตั้งแต่ทำการฝึกซ้อมใน 3 วันที่ผ่านมา กระทั่งวันแข่งขันทำให้คะแนนออกมาไม่ดี ส่งผลให้ไทยชวดเหรียญประเภททีมไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่เหรียญทองตกเป็นของอินโดนีเซีย เหรียญเงิน "เจ้าภาพ" เมียนมาร์ และเหรียญทองแดง สิงคโปร์

     เผยไม่กดดันตัวเองเก็บทุกรายละเอียด

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานโอกาสสัมภาษณ์หลังการแข่งขันว่า ตอนเข้าสนามไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น มาตื่นเต้นตอนแข่งเสร็จแล้ว และกลัวม้าจะตื่นมากกว่า ซึ่งถ้าม้าไม่ตื่นเชื่อว่าจะสามารถสู้ฝรั่งได้หมดแน่ โดยม้าตัวนี้เหมือนม้าบ้านนอก ที่มีความทะเยอะทะยานไปดังในเมืองหลวง ส่วนพระองค์แล้วก่อนแข่งขันพยายามทำสมาธิให้มากที่สุด ไม่อยากกดดันตัวเอง และสู้กับตัวเองให้มากที่สุด ตอนซ้อมพยายามเก็บรายละเอียดให้มากที่สุด และหากคะแนนติด 1 ใน 12 ของนักกีฬาที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด จะได้ผ่านไปแข่งในประเภทบุคคล และจะคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้

     พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ชื่นชมทรงทำได้ดีกว่าซ้อม

ด้าน พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา เลขาธิการสมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย และในฐานะผู้ถวายการฝึกสอนส่วนพระองค์ เปิดเผยว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงทำได้ดีกว่าที่ซ้อม หากให้คะแนนตอนซ้อม 8 ตอนแข่งให้ 9 จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งพระองค์ต้องลงแข่งระดับนานาชาติบ่อยๆ เพื่อลดอาการตื่นเต้นที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทรงร่วมแข่งขันกีฬาขี่ม้า ถือว่าทรงทำได้ดีเกินคาดสำหรับการเริ่มต้น ถ้ามีประสบการณ์มากกว่านี้ เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้นและประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ต้องชื่นชมท่านที่สามารถทำได้ดีมาก ซึ่งครั้งนี้เราเสียโอกาสที่ได้ม้าเกเรที่สุดในม้าทั้งหมด 1 ตัว แม้นักกีฬาจะเก่งพอและมีความสามารถที่จะควบคุมได้ แต่อยู่ในระหว่างการแข่งขันควบคุมได้ยาก ทำให้โดนตัดสิทธิ์ออกไป ซึ่งคิดว่าจะมีนักกีฬาไทยติดใน 12 คนที่จะแข่งขันประเภทบุคคลอย่างแน่นอน

     ทรงผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้ายบุคคล

นอกจากที่จะทรงทำคะแนนดีที่สุดของนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติ ไทยแล้ว แม้ว่าทีมขี่ม้าไทยจะไม่ได้เหรียญรางวัลในประเภททีม อย่างไรก็ตาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเป็นหนึ่งใน 12 นักกีฬาขี่ม้าประเภทศิลปะบังคับม้าที่ผ่านไปแข่งขันในประเภทบุคคล โดยจะคัดเอานักกีฬาชาติละ 2 คน ที่มีคะแนนดีที่สุดเข้าไปแข่งขัน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ ที่สนามแข่งม้าซีเกมส์ กรุงเนย์ปิดอว์ นอกจากนั้นยังมี เทวินทร์ มานะธัญญา ที่มี 59.62 คะแนน จะได้ผ่านเข้าไปแข่งในประเภทบุคคลอีกด้วย