ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » 10 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

10 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

Posted 14/12/2013 by goal.com


คริสเตียโน โรนัลโด้ อาจเพิ่งทำลายสถิติดาวซัลโวในรอบแบ่งกลุ่มไป แต่คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เขาอยู่ตรงไหนใน 10 ดาวยิงตลอดกาลของทัวร์นาเมนต์ และใครเป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้


ดางยิงวัย 32 กะรัต เคยลงเล่นในรายการนี้มาแล้วทั้งสิ้น 100 นัด ภายใต้สีเสื้อหลากหลาย ทั้งในชุดของ อาแย็กซ์, ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลนา, เอซี มิลาน และล่าสุดคือ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง

เขาทำไปทั้งสิ้นรวม 39 ประตูในรายการนี้ และในรอบแบ่งกลุ่มที่เพิ่มจบลงไป เจ้าตัวยังทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งด้วยการกดไปทั้งสิ้น 8 ประตู เป็นรองคริสเตียโน โรนัลโด้ เจ้าของสถิติใหม่ในรอบแบ่งกลุ่มเพียงประตูเดียว แม้จะอยู่ในวัยเลยเลขสามมาแล้วก็ตาม


เขาคือเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมยูเวนตุส (190 ประตู) ทั้งยังลงสนามให้เบียงโคเนรีมากกว่าใครในประวัติศาสตร์ (705 นัด) จึงแทบไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอันใดเลยที่นักเตะชาวอิตาเลียนรายนี้จะได้อยู่ในท็อปเทนของเรา

อเล็กซ์ ทำไปทั้งสิ้น 41 ประตู ใน 89 นัด ที่ลงเล่นในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่รายการนี้ เคยได้รางวัลรองเท้าทองคำประจำทัวร์นาเมนต์ไปสองสมัย (1995-96 และ 1997-98) ได้เข้าชิงถึงสี่ครั้ง และไปถึงถ้วยแชมป์ได้หนึ่งสมัยในฤดูกาล 1995-96

แฟนบอลในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่มีทางลืมเลือนดิดิเยร์ ดร็อกบา โดยเฉพาะลูกโขกตีเสมอบาเยิร์น มิวนิคในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2011-12 ก่อนที่สิงห์บลูจะเอาชนะไปได้ด้วยการดวลจุดโทษ ส่งผลให้ดาวยิงไอวอรีโคสต์ได้อำลาสโมสรที่เขารักแห่งนี้ด้วยผลงานที่ยิ่งใหญ่

ดร็อกบาทำไปทั้งสิ้น 42 ประตู จาก 82 นัด จากการลงเล่นให้ทั้งโอลิมปิค มาร์กเซย์, เชลซี และกาลาตาซาราย ทว่าด้วยวัยที่เริ่มมากขึ้นทุกที ส่งผลให้ในรอบแบ่งกลุ่มปีนี้ เขาเพิ่งทำไปได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น

ดาวยิงอิตาเลียนผู้ทำประตูได้ทุกรูปแบบส่งบอลไปกองอยู่ก้นตาข่ายทั้งสิ้น 46 ครั้ง จากการลงสนาม 81 นัด รวมถึง 12 ประตูในฤดูกาลที่มิลานไปถึงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2003 และอีก 6 ประตูสู่แชมป์ถ้วยใบเดิมนี้ในปี 2007

และหากนับรวมทุกรายการบนเวที ฟุตบอลยุโรป อินซากี้ยังเป็นรองเพียง ราอูล กอนซาเลซ ตำนานของเรอัล มาดริด โดยเจ้าตัวทำได้ทั้งสิ้น 70 ประตูในรายการยุโรป ขณะที่หัวหอกชาวสเปนกดไป 77 ประตูด้วยกัน

นอกจากนี้ "ปิปโป้" ยังเคยซัดแฮตทริกในฟุตบอลยุโรปรายการใหญ่ไปแล้วทั้งสิ้น 3 ครั้ง (2 ครั้งกับยูเวนตุส และอีก 1 ครั้งกับมิลาน) เท่ากับไมเคล โอเวน โดยมีเพียงลิโอเนล เมสซี คนเดียวเท่านั้นที่ทำแฮตทริกได้มากกว่าเขา

เชฟเชงโก้ สร้างชื่อกระฉ่อนกับดินาโม เคียฟ ก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จแบบยิ่งใหญ่กับเอซี มิลาน และไปตกอับกับเชลซี โดยแข้งยูเครนยิงไปทั้งสิ้น 48 ประตู จาก 100 นัด ในรายการนี้ รวมถึง 5 ประตูในปี 2002-03 ซึ่งมิลานได้แชมป์ไปครอง

นอกจากนี้ เขายังเป็นเพียง 1 ใน 10 นักเตะที่ประวัติศาสตร์ที่ทำได้ 4 ประตูในนัดเดียวในรายการนี้ โดยทำได้ในเกมพบเฟเนร์บาห์เช เมื่อฤดูกาล 2005-06

ไม่จำเป็นต้องเตือนกัน แฟนปืนทุกคนย่อมรู้ดีว่าเขาคือเจ้าของดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร ด้วยจำนวน 228 ประตูรวมทุกรายการ และบางทีเขาอาจจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลเท่าที่ประวัติศาสตร์ทีมอาร์ เซนอลเคยมี

อองรีทำไปทั้งสิ้น 50 ประตู จากการค้าแข้งให้ โมนาโก, อาร์เซนอล และบาร์เซโลนา นอกจากนี้ เขายังทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งด้วยการยิงนับเฉพาะในรอบน็อคเอาท์ไปถึง 38 ประตูด้วยกัน ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพคับแก้วที่เจ้าตัวมีอยู่ได้เป็นอย่างดี


ในช่วงเวลาที่เธียร์รี อองรี กำลังรุ่งเรืองอยู่กับอาร์เซนอลด้วยทักษะชั้นยอด, การลากบอลที่เหนือชั้น รวมถึงประตูที่งดงาม ทางฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีดาวยิงคนละสไตล์ที่มีความอันตรายเทียบเคียงกันอย่างรุด ฟาน นิสเตลรอยเป็นคู่แข่ง โดยทางศูนย์หน้าทีมชาติฮอลแลนด์ในขณะนั้นจะเน้นการเคลื่อนไหวในกรอบเขตโทษและเข้าฮอสทำประตูเหมือนศูนย์หน้าพันธุ์แท้ทั่วๆ ไปมากกว่า

ดาวยิงดัตช์ทำประตูในเกมยุโรปให้ปีศาจแดงทั้งสิ้น 38 ประตู เมื่อรวมกับผลงานยามสวมชุดพีเอสวี ไอด์โฮเฟน และเรอัล มาดริด ทำให้เขาแซงหน้าอองรีแบบเฉียดฉิวด้วยจำนวน 56 ประตู จาก 73 นัด

นอกจากนี้ นิสเตลรอย ยังเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์สามสมัย (2001-02, 2002-03 และ 2004-05) แต่ไม่เคยได้ชูถ้วยแชมป์รายการนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

ปีกชาวโปรตุกีส คือ เจ้าของสถิติทำประตูสูงสุดตลอดกาลในฤดูกาลเดียวของรอบแบ่งกลุ่มรายการนี้ หลังทำไปทั้งสิ้น 9 ประตูจาก 6 นัดที่เพิ่งจบไป และเป็นประตูที่ 44 ให้เรอัล มาดริด ในฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่

นอกจากนี้ หากนับรวมตั้งแต่สมัยเขายังค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยแล้ว สตาร์แดนฝอยทองยังทำไปถึง 59 ประตู จาก 97 นัด ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน

 

เมสซีคว้าบัลลงดอร์มาแล้วสี่สมัย และนั่นไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คหรือบังเอิญแต่อย่างใด หนึ่งในหลักฐานชั้นดีคือผลงานการทำประตูในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ตอนนี้เจ้าตัวทำไปแล้วทั้งสิ้น 65 ประตูจาก 82 นัด (น้อยกว่าโรนัลโด้ 15 นัด) คิดเป็นค่าเฉลี่ย 0.79 ประตูต่อนัด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน

นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2012 เขายังเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์รายการนี้ที่ทำได้ 5 ประตูในนัดเดียว (เกมถล่มเลเวอร์คูเซน 7-1) เป็นคนเดียวที่เคยทำแฮตทริกได้ถึง 4 ครั้ง และเป็นรองราอูล กอนซาเลซ อยู่จนถึงเวลานี้เพียง 6 ประตู ซึ่งคงเหลือเพียงแต่ว่าเมื่อไหร่ที่สตาร์อาร์เจนไตน์จะก้าวขึ้นไปอยู่ใน ตำแหน่งหมายเลขหนึ่งแทน

อดีตดาวยิงทีมชาติสเปนและขวัญใจระดับตำนานแห่งทีมเรอัล มาดริด ทำได้ 71 ประตู จาก 142 นัด นั่นหมายความว่าเขาทำได้เฉลี่ย 2 นัดต่อหนึ่งประตู แต่จนถึงปัจจุบัน เขาก็ยังเป็นนักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดตลอดกาลของรายการนี้

ราอูลเคย คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว สามสมัย (1997-98, 1999-2000 และ 2001-02) และทำได้สองประตูในรอบชิงชนะเลิศ นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเตะคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูได้อย่างน้อยหนึ่งลูกถึง 14 ฤดูกาลติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 1996-2011

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »