"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงรักษาสถิติชนะรวดในเอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อไปเป็นนัดที่ 11 หลังจัดการสอย "เดอะบลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 50 คะแนน รั้งรองจ่าฝูง ตามเดิม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2557

 ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2557

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้


        สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

        เรือใบสีฟ้าจัดเต็มสูบ ส่งตัวหลักลงครบทีม โดยมี อัลบาโร่ เนเกรโด้ กับ เอดิน เชโก้ เป็นแกนหลักแดนหน้า พร้อมได้รับข่าวดีเมื่อได้ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ ดาวยิงตัวเก่ง หายเจ็บน่องกลับมาแล้วนั่งสำรอง

        ด้านเดอะ บลูเบิร์ดส์ ส่ง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ศูนย์หน้าตัวความหวังลงตัวจริง ส่วน เคร็ก เบลลามี่ และแข้งใหม่ อย่าง แม็กนุส โวล์ฟ เอคเรม ยังต้องรอโอกาสข้างสนาม

 

        นาทีที 7 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูนำ เมื่อ เอดิน เชโก้ ได้ปั่นด้วยซ้าย บริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเกือบมุดโคนเสา แต่ เดวิด มาร์แชลล์ ผู้รักษาประตูคาร์ดิฟฟ์ยังพุ่งเซฟไว้ได้อย่างหวุดหวิด

      จากนั้นในนาทีที่ 13 แฟนเรือใบได้เฮลั่น จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เลี้ยงบอลถึงเส้นหลัง ก่อนจ่ายกลับมาให้ เอดิน เชโก้ ได้แปง่ายๆ แม้ลูกยิงของศูนย์หน้าทีมชาติบอสเนียฯ จะโดนไม่ดีมากนัก แต่ก็ยังไหลเข้าประตูไป แมนฯซิตี้ออกนำ 1-0

      นาทีที่ 18 อัลบาโร่ เนเกรโด้ ได้รับใบเหลืองเป็นคนของแรกของเกม

     นาทีที่ 24 โอกาสยังเป็นของเจ้าบ้านอย่างต่อเนื่อง อัลบาโร่ เนเกรโด้ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ เดวิด มาร์แชลล์ ประตูเดอะ บลูเบิร์ดส์ ในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่ลูกยิงของ เนเกรโด้ ติดไซด์ก้อยมากเกินไป พุ่งหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

      นาทีที่ 29 คาร์ดิฟฟ์ตามตีเสมอสำเร็จ เมื่อ เคร็ก นูน ได้รับบอลจาก อารอน กุนนาร์สสัน ก่อนพาลากตัดเข้าเขตโทษด้านขวา ล็อกหลบกองหลังแมนฯซิตี้ จากนั้นแปด้วบขวา บอลพุ่งเลียดเสียบเสาแรกเข้าไป ทีมเยือนตามตีเสมอ เป็น 1-1

      ถัดมาอีก 4 นาที แมนฯซิตี้ กลับมาขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ เฆซุส นาบาส ได้บอลจากการสกัดไม่ขาดของกองหลังคาร์ดิฟฟ์ ก่อนจะตัดสินใจยิง บริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งเข้าเสาไกลไปอย่างสวยงาม เรือใบแล่นนำ 2-1

     จากนั้นแม้เจ้าบ้านจะได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ จบครึ่งแรก แมนฯซิตี้ เปิดบ้านนำ คาร์ดิฟฟ์ 2-1

     เริ่มเกมครึ่งหลังมาได้ 4 นาที ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นก่อน จอร์ดอน มัทช์ ได้ส่องไกลนอกกรอบด้านขวา บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ โจ ฮาร์ท ยังบินเซฟเอาไว้ได้

      นาทีที่ 61 แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงเล่นแทน อัลบาโร่ เนเกรโด้

     อีก 2 นาทีที่ต่อมา ทีมเยือน เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ เคร็ก นูน ได้จังหวะลากเดี่ยวจากครึ่งสนาม ก่อนซัดไกลด้วยซ้าย แม้บอลจะพุ่งเข้ากรอบ แต่ โจ ฮาร์ท ยังป้องกันไว้ได้

      นาทีที่ 67 ทีมเยือนปรับเกมรุก สองคนรวดส่ง เคร็ก เบลลามี่ หักหอกจอมเก๋า และ เดแคลน จอห์น แทน ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม และ เควิน แม็คนอห์ตัน

    นาทีที่ 76 ทีมเรือใบสีฟ้าก็นำห่างเป็น 3-1 จนได้เมื่อ ยาย่า ตูเร่ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม และลากมาหน้าประตู เล่นชิ่งกับ อเกวโร่ ก่อนที่ยาย่า จะยิงด้วยซ้ายไม่ต้องจับ ลูกพุ่งเสียตาข่ายไม่เหลือ


        นาทีที่ 78 คาร์ดิฟฟ์ เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง แม็กนุส โวล์ฟ เอคเรม ลงมาแทน อารอน กุนนาร์สสัน


        เจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมบุก นาทีที่ 79 ก็หนีไปไกล 4-1 ยาย่า ตูเร่ วางบอลให้ อเกวโร่ หลุดกับดักล้ำหน้า ลากเข้าไปล็อกหลอกกองหลังคาร์ดิฟฟ์สองจังหวะ ก่อนจะอัดด้วยขวาตุงตาข่าย

 

        นาทีที่ 80 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน ดาบิด ซิลบา


        และนาทีที่ 82 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง กาแอล กลิชี่ ลงมาแทน เฆซุส นาบาส


        ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เดอะบลูเบิร์ดส์ ไล่มาเป็น 4-2 จากจังหวะเตะมุมของ แม็กนุส โวล์ฟ เอคเรม บอลเลยมาถึง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ แปจ่อๆไม่เหลือ

 

        จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มจบ 90 นาที แมนฯ ซิตี้ ยังชนะรวดในบ้านต่อไป เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ 4-2 เก็บเพิ่ม 3 คะแนน มี 50 แต้ม รั้งอันดับ 2 ตามเดิม ตามหลังจ่าฝูงอาร์เซน่อล 1 คะแนน

        รายชื่อผู้เล่นที่สนาม

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, ฆาบี การ์เซีย, เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้, อัลบาโร่ เนเกรโด้

        สำรอง : คอสเตล ปันติลิมอน, โจลีออน เลสค็อตต์, มาติย่า นาสตาซิช, กาแอล กลิชี่, แฟร์นันดินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์, เซร์คิโอ อเกวโร่

        ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรีนี่

        คาร์ดิฟฟ์ : เดวิด มาร์แชลล์, เกแว็ง เตโอฟิล-กาแตร์กรีน, สตีเว่น คอลเกอร์, เบน เทอร์เนอร์, เควิน แม็คนอห์ตัน, เคร็ก นูน, แกรี่ เมเดล, ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม, จอร์ดอน มัทช์, อารอน กุนนาร์สสัน, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์

        สำรอง : โจ ลูอิส, มาร์ค ฮัดสัน, เดแคลน จอห์น, แม็กนุส โวล์ฟ เอคเรม, คิม โบ-คยอง, ปีเตอร์ โอเดมวิงกี้, เคร็ก เบลลามี่

        ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

        ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บริค