ลีกสูงสุดของอังกฤษกำลังอยู่ในช่วงโค้งหักศอกที่แสนตื่นเต้น ทั้งหัวและท้ายตารางมีหลายอย่างที่ต้องพูดถึง สำหรับคุณแล้ว ใครคือทีมแชมป์? และใครคือทีมช้ำ?

เผลอแป๊บเดียวพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็เดินทางมาถึงชั่วโมงสุดท้ายอย่างน่าติดตาม, ความมันและเร้าใจกำลังจะมาเยือนทุกท่านอีกครั้ง ใครจะเป็นผู้คว้าชัย, ใครจะหนีตายอลหม่าน นี่คือความน่าจะเป็น

เมื่อโฟกัสทุกลีกชั้นนำของยุโรปในเพลานี้ ต้องบอกว่าอิงลิชพรีเมียร์ลีกกลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความเร้าใจสุดๆ และคงต้องบอกว่าเป็นที่สุดแล้วในบรรดาทุกเจ้า

เพราะที่เยอรมันและอิตาลีคงจะมีแชมป์แบบนอนมาด้วยคะแนนของบาเยิร์น มิวนิคและยูเวนตุสเจ้าเก่า ขณะที่ลีก เอิงและลาลีกา ก็คงจะเหลือทีมลุ้นแชมป์เพียง 2-3 ทีมตามสถานการณ์เท่านั้น

ทว่าในลีกผู้ดีอังกฤษ เรายังมี 4 ทีมยักษ์ใหญ่อย่างเชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซนอลที่ยังอยู่บนเส้นทางโค้งสุดท้ายแบบไม่มีทิ้ง และนอกจากหัวตารางแล้ว แก๊งค์หนีตายก็ดุเดือดเลือดพล่านไม่แพ้กัน โค้งสุดท้ายของทุกทีมทั้งสองโซนจะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้เลย

โซนหนีตกชั้น

แม้การลุ้นแชมป์จะยังเปิดกว้าง แต่เกมหนีตกชั้นในโซนอันตรายของพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้บอกได้เลยครับว่ากว้างและหฤหรรษ์กว่าเป็นหลายเท่า ตอนนี้เมื่อมองที่ตาราง เรามีถึง 11 ทีมด้วยกันที่มีสิทธิ์ร่วงได้ทุกเมื่อ ไล่ตั้งแต่ฟูแล่มถึงเวสต์แฮม ช่องว่างของคะแนนพวกเขาจากบนสุด (อันดับ 10) ถึงล่างสุด (อันดับบ๊วย) มีเพียง 10 แต้มชนิดหายใจยังเสียวต้นคอ โดยฟูแล่มกำลังอยู่ในช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกสุดๆ เปลี่ยนเทรนเนอร์ไปแล้ว 3 ครั้ง ขณะที่โอเล กุนนาร์ โซลชาและคาร์ดิฟฟ์ ก็ยังมีอาการที่ไม่ได้ดีไปกว่ากัน

อันดับ 10: เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (31 คะแนน)

ขุนค้อนของแซม อัลลาร์ไดซ์เป็นทีมที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะอยู่รอดปลอดภัยและกับตัวผู้เล่นที่มีอยู่คงไม่น่าเป็นห่วงมากนอกจากจะเกิดวิกฤติประเภทฟ้าถล่มแผ่นดินทลายแพ้รวดจริงๆ

อันดับ 11: แอสตัน วิลลา (31 คะแนน)

แม้สิงห์ผงาดจะเป็นทีมที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีก แต่พวกเขาก็ยังมีแต่ไม่เยอะพอที่จะปลอดภัยและสบายใจได้ ทว่าการเล่นของพวกเขาก็ยังเดินหน้าโกยแต้มได้แม้วันที่เล่นได้ไม่ดีมาก นี่อาจเป็นจุดแข็งของวิลลาก็ได้

อันดับ 12: ฮัลล์ ซิตี้ (30 คะแนน)

แม้ผลงานในช่วงปีใหม่เป็นต้นมาจะไม่คงเส้นคงวาสักเท่าไหร่ แต่เชื่อว่ากึ๋นของสตีฟ บรูซและฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในรังของพวกเขาเองจะสามารถพาฮัลล์ ซิตี้ ยืนหยัดต่อไปได้อีกซีซั่น

อันดับ 13: สโต๊ค ซิตี้ (30 คะแนน)

ยอดทีมสุดแกร่งแห่งรังบริทานเนีย สเตเดี้ยมที่ล่าสุดเพิ่งแผลงฤทธิ์ใส่อาร์เซนอล พวกเขาดุดันและมีแรงฮึดที่น่ากลัว แม้คะแนนจะไม่สูงแต่สโต๊คฯ ก็ยังเป็นตัวเก็งที่จะปลอดภัย

อันดับ 14: สวอนซี ซิตี้ (29 คะแนน)

หงส์ขาวแม้จะมีช่วงกระท่อนกระแท่นก่อนหน้านี้ แต่ฟันธงได้เลยว่า ทันทีที่ได้มิชูกลับมา สวอนซีน่าจะเป็นอีกทีมที่เตรียมดีดตัวเองกลับขึ้นไปอยู่กลางตารางด้านบน ด้วยแนวรุกที่ถือว่าหายห่วง

อันดับ 15: นอริช ซิตี้ (28 คะแนน)

นอริชมีช่วงเวลาที่สร้างความประทับใจ แต่ในตอนนี้พวกเขาก็ดูจะช็อตไปดื้อๆ จากตารางคะแนนบ่งบอกว่านกขมิ้นเหลืองอ่อนตัวนี้ยังไม่ปลอดภัยและควรทำประตูใส่คู่แข่งให้มากกว่าความผิดพลาด

อันดับ 16: คริสตัล พาเลซ (27 คะแนน)

โทนี พูลิสยกระดับดิ อีเกิลส์ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่อันดับ 16 ในตอนนี้กับโปรแกรมที่เหลืออยู่พวกเขาต้องสร้างจุดแข็งให้ตัวเองอย่างเร่งด่วนถ้ายังอยากอยู่บนลีกสูงสุดในซีซั่นหน้า

อันดับ 17: เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน (25 คะแนน)

ความพิการของเวสต์ บรอมฯ เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาขายแข้งดังอย่างเชน ลองให้ฮัลล์ ซิตี้ คู่แข่งโซนเดียวกัน แต่อะไรที่เกิดแล้วก็ต้องปล่อยไป เดอะแบ็กกี้ส์ ต้องรีบกลับมาโฟกัสเกมที่เหลือให้ดีที่สุดให้ได้ และอย่างน้อยต้องมีแต้มเพิ่มอีกซัก 10 น่าจะดี

อันดับ 18: ซันเดอร์แลนด์ (24 คะแนน)

โปเยต์มีภารกิจหนักในการพาแมวดำหนีตายในโซนแดงแจ๋ นักเตะทุกคนในทีมน่าจะกำลังอยู่ช่วงรวมใจฝ่าวิกฤติ แต่ 24 คะแนนตอนนี้จะไหวหรือเปล่าจ๊ะ  เบบี๋

อันดับ 19: คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (22 คะแนน)

ปัญหานอกสนามเป็นปัจจัยสำคัญพอสมควรของคาร์ดิฟฟ์และโซลชา ซึ่งอาจทำให้ตำนานของปีศาจแดงรายนี้ต้องลงไปทำทีมในแชมเปี้ยนชิพก่อนซัก 1 ซีซั่น

อันดับ 20: ฟูแล่ม (21 คะแนน)

กลายเป็นทัพเจ้าสัวที่อยู่อย่างตกระกำลำบากแบบสุดๆ แม้พวกเขาจะได้เฟลิกซ์ มากัธมากุมบังเหียน แต่ถ้าทรงยังไม่ดีขึ้น ก็อาจจะต้องโบกมือลาลีกสูงสุดไปก่อน

โซนลุ้นแชมป์

ทั้งเชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้และอาร์เซนอลเป็น 4 ทีมที่ยังมีโอกาสในการเข้าป้ายพอกัน และกับ 10 สัปดาห์ที่เป็นโค้งหักศอกสุดท้าย น่าจะมีช่วงจุดเปลี่ยนหลายช็อตให้เราได้ติดตาม

อันดับ 1: เชลซี (63 คะแนน)

สำหรับเชลซี แม้จุดอ่อนของพวกเขาจะอยู่กองหน้าที่ไม่ค่อยเปรี้ยงปร้าง แต่พวกเขามีระบบทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม มีกุนซืออย่างมูรินโญและแท็คติกที่แสนจะเขี้ยวลากดินพอที่จะทยอยเดินหน้าเก็บแต้มได้เรื่อยๆ นี่จึงเป็นซีซั่นที่น่าจะลงเอยด้วยแชมป์อีกครั้ง

คาดการณ์ : แชมป์

 อันดับ 2: ลิเวอร์พูล (59 คะแนน)

ด้วยความที่ไม่ต้องมีทัวร์นาเมนต์อื่นให้ต้องกังวล ลิเวอร์พูลเป็นม้ามืดที่น่ากลัวมากที่สุดในซีซั่น ด้วยความลงตัวในทุกๆ ตำแหน่งโดยเฉพาะศูนย์ผลิตสกอร์อย่าง SAS จนทำให้พวกเขาแซงหน้าอาร์เซนอลขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงได้แล้ว ทว่าเกมรับและความเสถียรของฟอร์มโดยรวมยังต้องโฟกัสอยู่

 คาดการณ์ – อันดับ 3

อันดับ 3: อาร์เซนอล (59 คะแนน)

อาร์เซนอลยังเป็นทีมที่ขาดความคงเส้นคงวาที่สุดในบรรดาท็อปโฟร์ แม้เกมรับจะเหนียวแน่นแต่ปัญหาการจบสกอร์ก็ยังเป็นที่น่าปวดหัวสำหรับพวกเขา โดยแม้จะอยู่ที่อันดับที่ 3 แต่ด้วยจำนวนนัดที่มากกว่าซิตี้ พวกเขาสามารถตกเป็นที่ 4 ได้ทุกเมื่อหากเรือใบสีฟ้าคว้าชัยได้ในเกมที่ตกค้าง

 คาดการณ์ – อันดับ 4

อันดับ 4: แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (57 คะแนน)

เรือใบสีฟ้ามีโปรแกรมที่เยอะกว่าเพื่อน พร้อมกับอีกทุกรายการที่ลงลุ้นแชมป์ แม้ฟอร์มบางนัดจะเล่นกันแบบผีเข้าผีออก แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ก็มีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยม และด้วยถ้วยคาร์ลิงคัพที่เพิ่งคว้ามาหมดๆ ก็น่าจะเป็นแรงผลักดันที่ดีภายในทีมให้ลุ้นแชมป์กันจนหยดสุดท้าย

คาดการณ์ – รองแชมป์