ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » สเตอร์ริดจ์โขก!สิงโตเปิดถิ่นขย้ำโคนม1-0

สเตอร์ริดจ์โขก!สิงโตเปิดถิ่นขย้ำโคนม1-0

Posted 06/03/2014 by siamsport

-

        ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ดาวยิงฟอร์มแรงของสโมสรลิเวอร์พูลรับบทฮีโร่ของเกมหลังโหม่งพังประตูโทนช่วยให้ "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดบ้านเฉือนชนะ เดนมาร์ก 1-0 ในเกมฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ

วันพุธที่ 5 มีนาคม 2557

อังกฤษ 1-0 เดนมาร์ก


สนาม : เวมบลีย์
 
         ก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยให้กับทั้งเซอร์ ทอม ฟินนีย์อดีตขุนพลทีมชาติอังกฤษผู้ล่วงลับเช่นเดียวกับริชาร์ด โมลเลอร์ นีลเซ่นอดีตกุนซือทีมโคนมชุดแชมป์ยูโร 1992 โดยนักเตะของทั้งสองทีมสวมปลอกแขนดำเช่นกัน
 
         สิงโตคำรามเล่นเกมรุกเอาใจแฟนบอลทันที แต่ทีมเยือนไม่หวั่นโชว์การต่อบอลสั้นบนพื้นสู้ได้อย่างน่าดูชม
 
         แต่แล้วนาทีที่ 12 ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ไปหงายปุ่มบล็อคจังหวะผ่านบอลของแจ็ค วิลเชียร์แถวกลางสนาม จึงทำให้มิดฟิลด์อาร์เซน่อลล้มเจ็บตามระเบียบ ส่อแววว่าน่าจะเดี้ยงยาว
 
         อย่างไรก็ดี หลังจากแพทย์ลงไปดูอาการ กองกลางร่างเล็กก็ลุกขึ้นมาเดินลงน้ำหนักได้ก่อนกลับเข้ามาจากริมสนามเล่นต่อได้ไหว
 
         ผ่านมาถึงนาทีที่ 18 แคสเปอร์ สล็อตถูกเจอร์ราร์ดแย่งบอลได้แถวหน้าเขตโทษ ทำให้ต้องไล่กวดตามไปดักล้มพร้อมรับใบเหลือง แต่จากลูกฟรีคิกระยะ 23 หลา เวย์น รูนีย์วิ่งเข้าปั่นโด่งข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น
 
         ถึงตรงนี้ เกมเริ่มตกเป็นของทีมสิงโตคำรามอย่างชัดเจนแล้ว  และนาทีที่ 24 ก็มาได้ลูกเตะมุมด้านขวา เจอร์ราร์ดจึงวางไปหน้าประตูแล้วแกรี่ เคฮิลล์พักอกก่อนวอลเลย์จาก 12 หลาข้ามคานไปนิดเดียว
 
         เจ้าถิ่นกดดันอาคันตุกะอย่างต่อเนื่องทันที กระทั่งนาทีที่ 33 สเตอร์ริดจ์ฉีกตัวไปเก็บบอลทางขวาแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านจากมุมแคบทันทีโดยที่บอลพุ่งไปหาเสาไกล แต่รูนีย์ทะยานแหย่ขาไม่โดน
 
         ถึงนาทีที่ 43 อังกฤษเกือบมีสกอร์อีกหนเมื่อรูนีย์ไหลบอลออกทางซ้ายให้โคลเติมมาปาดไปหน้าปากประตูโดยมีสเตอร์ลิ่งปรี่เข้าชาร์จเผาขน แต่โชคไม่เป็นใจบอลทะลักไปชนเสาไกล
 
         เข้าสู่ช่วงทดเวลา เจ้าบ้านบุกหนักจนได้ลูกเตะมุมด้านซ้ายแล้ว เคฮิลล์ โดดโขกทะลักไปหน้าประตู สเตอร์ริดจ์จึงโฉบเข้าซัดเหน่งๆระยะห้าหลา ทว่าชไมเคิ่ลทิ้งตัวใช้ขาสกัดได้เหลือเชื่อ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมจึงเสมอกันอยู่ 0-0
 
         ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนเอา ลุค ชอว์ แบ็คซ้ายดาวรุ่งลงประเดิมสนามในนามทีมชาติเป็นนัดแรกโดยลงมาแทน แอชลี่ย์ โคล
 
         เกมในช่วงต้นครึ่งหลังค่อนข้างสูสี และนาทีที่ 59 เจ้าบ้านก็เปลี่ยนวิลเชียร์ออกโดยมีอดัม ลัลลาน่าได้ลงสนามโดยจังหวะนี้แอกเกอร์ทำฟาวล์รูนีย์ด้วย ทำให้อังกฤษได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านขวาโดย รูนีย์ ซัดไปติดกำแพงแล้ว เจอร์ราร์ด ซ้ำจาก 25 หลาออกเสาสอง
 
         ล่วงมาถึงนาทีที่ 64 ราสมุสเซ่น ได้ใบเหลืองจากการทำฟาวล์ เจอร์ราร์ด และพริบตาเดียวอังกฤษก็เกือบเสียท่าเมื่อ ราสมุสเซ่น ทะลุเข้าเขตโทษไปซัดติดหว่างขาของ โจ ฮาร์ท อย่างน่าเสียวไส้
 
         จากนั้นในนาทีที่ 68 เดนมาร์กก็ทำพลาดเช่นกันเมื่อปล่อยให้ เวลเบ็ค ได้ลากบอลจากกราบซ้ายตัดเข้ามากระทุ้งเต็มแรงจากระยะ 18 หลา ดีที่ว่า ชไมเคิ่ล ปัดทิ้งได้เยี่ยม
 
         เกมของเจ้าถิ่นดุดันเต็มพิกัดแล้ว และน่าจะได้เฮอีกหนในนาทีที่ 72 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตวัดบอลสั้นเข้าเขตโทษให้ แดนนี่ เวลเว็ค ตัวสำรองหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
 
         นาทีที่ 82 แฟนสิงโตคำรามก็ได้เฮกันลั่น อดัม ลัลลาน่า ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนเปิดบอลไปที่เสาสองให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ขึ้นโขกเต็มหัวส่งบอลผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปตุงตาข่าย อังกฤษ ออกนำ 1-0
 
         ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม อังกฤษ เปิดบ้านเอาชนะ เดนมาร์ก ไปได้ 1-0
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
         อังกฤษ :
โจ ฮาร์ท, เกล็น จอห์นสัน, แกรี่ เคฮิลล์, คริส สมอลลิ่ง, แอชลีย์ โคล (ลุค ชอว์ น.46), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น.77), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แจ็ค  วิลเชียร์ (อดัม ลัลลาน่า น.59), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แอนดรอส ทาวน์เซนด์ น.86), เวย์น รูนีย์ (แดนนี่ เวลเบ็ค น.60), ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (เจมส์  มิลเนอร์ น.88)
         สำรอง : เฟรเซอร์ ฟอสเตอร์, จอห์น รัดดี้, เบน ฟอสเตอร์, เลห์ตัน เบนส์, สตีเว่น คอลเกอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, รอสส์ บาร์คลีย์, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์  , ริคกี้ แลมเบิร์ต , เจอร์เมน เดโฟ , เจย์ โรดริเกซ
 
         เดนมาร์ก : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น (แคสเปอร์  คุสค์ น.46), ซิมอน เคียร์ (อันเดรียส เบลแลนด์ น.62) , ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ปีเตอร์  อังเคอร์เซ่น, วิลเลี่ยม  ควิสต์, แคสเปอร์ สล็อต (นิกี้  ซิมลิ่ง น. 62), ยาค็อบ โพลเซ่น (แดนนี่  โอลเซ่น น.81), ไมเคิ่ล โครห์น เดห์ลี, เอมิล ลาร์เซ่น (เยสเปอร์ ยูลส์การ์ด น.46), นิคลาส เบนด์เนอร์ (มอร์เท่น ราสมุสเซ่น น.62) 
         สำรอง : สเตฟาน อันเดอร์เซ่น, โยนาส ลอสเซิ่ล, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก, โธมัส เดลานีย์, ยาค็อบ อังเคอร์เซ่น,  ซิมอน มาคีน็อค คริสตอฟเฟอร์เซ่น
 
         ผู้ตัดสิน : เควิน บลอม (ฮอลแลนด์)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »