ขจร เจียรวนนท์ บอสใหญ่บียูสั่งทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งล้ม โอสถสภา เพื่อหาชัยชนะเกมแรกปี 2014 หลังฝันร้ายพ่าย 3 เกมติด

ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรฟุตบอล แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ออกมากระตุ้นทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และนักเตะทุกคน ให้รวมใจเป็นหนึ่งเดียว ช่วยกันเสียสละ และทุ่มเทให้กับสโมสรแห่งนี้ เพื่อพา “แข้งเทพ” ไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นในตัวนักเตะว่า ทุกคนสามารถสร้างผลงานที่ดีจนติดอันดับ 1 ใน 5 ตามเป้าหมายสูงสุดที่ทุกคนได้ร่วมกันตั้งเป้าเอาไว้ได้

แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมดังจากย่านดินแดง ภายใต้การทำทีมของ รุย เบนโต ออกสตาร์ทซีซั่นได้ไม่สวยเท่าไหร่ หลังจากพลาดท่าแพ้ 3 เกมรวด นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2014 โดยเป็นการพ่ายแพ้ในไทยพรีเมียร์ลีก 2 นัดที่เจอกับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด และ ศรีสะเกษ เอฟซี รวมถึงตกรอบโตโยต้า ลีก คัพ รอบ 64 ทีม ด้วยการพ่าย ระนอง เอฟซี จากการดวลจุดโทษ ซึ่ง คุณขจร เจียรวนนท์ ในฐานะประธานสโมสร ก็ยังคงเชื่อมั่นในนักเตะทุกคนพร้อมกับกระตุ้นให้ทั้งทีมรวมใจเป็นหนึ่ง เดียวและเดินหน้าต่อไปให้ได้

คุณขจร กล่าวว่า “สถานการณ์ตอนนี้ ผมอยากให้ทีมงาน สตาฟฟ์โค้ชและนักเตะ รวมใจเป็นหนึ่งเดียว ทุกคนจำเป็นต้องเสียสละ ทุ่มเท มุ่งมั่นในการฝึกซ้อม และพาสโมสรไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับเกมที่ผ่านมากับศรีสะเกษ เอฟซี ซึ่งเป็นแมตช์แรกที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทุกคนอาจจะตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองเป็นนัดแรก ในฤดูกาลนี้ ทำให้เกิดความประหม่าได้ แต่ในเมื่อเกมนี้ผ่านไปแล้ว ผมอยากให้ทุกคนเก็บความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นบทเรียนและตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเท กับหน้าที่ของตัวเองให้เต็มร้อยในเกมกับ โอสถสภา เอ็ม-150 ในนัดหน้า”

พร้อมกันนั้น คุณขจร เจียรวนนท์ ยังคงย้ำเป้าหมายของทีมในฤดูกาลนี้เช่นเดิมว่า “ฤดูกาลที่แล้ว แบงค็อก ยูไนเต็ด เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจาก ยามาฮ่า ลีกวัน ซึ่งก็ถือเป็นการศึกษาและเก็บประสบการณ์ แต่ในฤดูกาลนี้ผมคิดว่าทุกคนน่าจะพร้อมแล้วสำหรับการทำผลงานให้ดีขึ้นกว่า เดิม ซึ่งเป้าหมายของผมในฤดูกาลนี้คืออันดับ 1ใน 5 ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนทำได้ ทุกคนมีศักยภาพมากพอ ที่จะพาสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ดแห่งนี้ ไปถึงเป้าหมายสูงสุดที่ทุกคนร่วมกันตั้งมันเอาไว้”

สำหรับคุณขจร เจียรวนนท์ ได้เข้ามาบริหารสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัวเมื่อฤดูกาล 2556 โดยได้มีการเสริมทัพผู้เล่นที่มีชื่อเสียงเข้ามาสู่ทีมมากมายทั้งคนไทยและ ต่างชาติ โดยมีนโยบายในการพา แบงค็อก ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำของประเทศและมีเป้าหมายที่จะพา “แข้งเทพ” ผ่านเข้าไปเล่นในรายการ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า