ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ซัวเรซสามตุง!หงส์บุกยำคาร์ดิฟฟ์สุดมันส์6-3
ซัวเรซสามตุง!หงส์บุกยำคาร์ดิฟฟ์สุดมันส์6-3
Posted 23/03/2014 by siamsport
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แฮตทริก จ่าฝูง ซัวเรซ ฟุตบอล ผู้ตัดสิน ราฮีม สเตอร์ลิง สเตอร์ลิง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เกือบแย่ครึ่งแรก แต่กลับมาโชว์ฟอร์มฮอตครึ่งหลัง ได้ซัวเรซ กดแฮตทริก, สเคอร์เทล สองตุง และสเตอร์ริดจ์อีกลูก พาทีมบุกชนะ คาร์ดิฟฟ์ สุดมันส์ 6-3 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2557
คาร์ดิฟฟ์ 3 - 6 ลิเวอร์พูล
สนาม : คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จัดทัพเต็มอัตราศึกหวังเก็บชัยเพื่อทำแต้มไล่จี้จ่าฝูงโดยยังส่ง หลุยส์ ซัวเรซ ประสานงาน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ล่าตาข่าย บุกถิ่น "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ที่มี เคร็ก เบลลามี่ และ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ เป็นตัวป่วน
เริ่มเกมมาเพียง3นาที ลิเวอร์พูล เสียใบเหลืองแรกอย่างรวดเร็ว เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ไปเสียบ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ จากด้านหลัง เลยไม่รอดรับใบเหลืองคนแรกของเกม
และเพียงนาทีที่9 กองเชียร์เจ้าถิ่น ได้เฮกันลั่น เมื่อ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ฉกบอลในกรอบเขตโทษของลิเวอร์พูล ก่อนจ่ายบอลให้ จอร์ดอน มัทช์ สับไกยิงส่งบอลตุงตาข่ายให้ คาร์ดิฟฟ์ ขึ้นนำ 1-0
อย่างไรก็ตาม นาทีที่17 สาวก เดอะค็อป ได้เฮกันลั่น เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายบอลตัดหลังแบ็คให้ เกล็น จอห์นสัน หลุดมาเปิดที่เสาแรกให้ หลุยส์ ซัวเรซ ยิงที่จุดนัดพบอย่างสวย ลิเวอร์พูล ตามเสมอ 1-1
แต่แล้ว 8นาทีต่อมา แฟนๆคาร์ดิฟฟ์ ได้กรี๊ดคืนอีกครั้ง เมื่อ จอร์ดอน มัทช์ จ่ายบอลให้ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนล็อคบอลหลบ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และซัดด้วยซ้ายอย่างยอดเยี่ยม คาร์ดิฟฟ์ นำ2-1
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูล พยายามบุกเพื่อทวงประตูคืน แล้วก็มีโอกาสได้จบสกอร์ แต่ลูกเลี้ยงตัดเข้ากลางและยิงด้วยขวาของ คูตินโญ่ หลุดกรอบไปเยอะ
นาที 33 คาร์ดิฟฟ์ มาโดนใบเหลืองแรก จากฆวน กาล่า
นาทีที่41 ลิเวอร์พูล มาตามเสมอได้อีกครั้ง เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โหม่งบอลออกข้างให้ คูตินโญ่ เปิดบอลจากริมสนามฝั่งขวามาที่หน้าประตู มาร์ติน สเคอร์เทล เติมสูงมาจิ้มบอลหน้าประตูไม่เหลือ หงส์แดง ตามเสมอ 2-2
ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล พยายามโหมบุก แต่ยังเจาะประตูเจ้าบ้านไม่ได้ หมดเวลา คาร์ดิฟฟ์ จึงเสมอ ลิเวอร์พูล อย่างสนุก 2-2
ครึ่งหลังผ่านมา 5 นาที คาร์ดิฟฟ์ มาโดนใบเหลืองที่สอง เมื่อ ฟาบิโอ ไปตัดเกมใส่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ จากด้านหลัง บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ
ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลาเยื้องไปทางซ้าย แต่หลุยส์ ซัวเรซ ซัดไปติดกำแพง ก่อนจะซ้ำอีกครั้งก็ไม่ได้ลุ้น
และถึงนาทีที่ 54 กองเชียร์เร้ด แมชีน ก็ได้เฮกันลั่น เมื่อออกนำเป็นครั้งแรก 3-2 จากจังหวะเตะมุมคูตินโญ่ เปิดมาเข้าหัวมาร์ติน สเคอร์เทล โขกลงพื้นเข้าไป เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย
จากนั้นอีก 6 นาที หงส์แดงก็หนีไปเป็น 4-2 จากการขึ้นเกมมาทางขวา เกล็น จอห์นสัน เปิดไปติดกองหลังเจ้าถิ่น เข้าทางสเตอร์ริดจ์ตอกส้นเร็วให้ซัวเรซ แปหน้าประตูไม่เหลือ และเป็นประคูที่สองของซัวเรซ
นาทีที่ 64 คาร์ดิฟฟ์ อยู่ไม่ได้แล้ว ต้องแก้เกมสองคนรวด ถอดเดแคลน จอห์น และคิม โป-คยอง ออก และส่งวิลเฟรด ซาฮา กับมัตส์ โมลเลอร์ ดาเอห์ลี่ ลงแทน
จากนั้นอีก 3 นาที่ หงส์แดงขยับบ้าง ถอด คูตินโญ่ ออก แล้วส่ง ราฮีม สเตอร์ลิง ลงสนาม
นาที 70 เจ้าถิ่นเปลี่ยนคนสุดท้าย ส่งเคนวีน โจนส์ กองหน้าร่างใหญ่ ลงสนามแทน เคร็ก เบลลามี่
และอีก 3 นาที เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนคนที่สองตามมา ถอดจอน ฟลานาแกน และส่งอาลี ซิสโซโก้ ลงมาแทนตำแหน่ง
นาทีที่ 75 ลิเวอร์พูล ก็ขยับนำไกล 5-2 คราวนี้เกล็น จอห์นสัน วางบอลยาวจากแดนตัวเอง สตีเว่น คอลเกอร์ โหม่งไม่ดีเข้าทางหลุยส์ ซัวเรซ เอาบอลลงทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะไหลเข้ากลางเน้นๆ ให้แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เติมขึ้นมาแปจ่อๆสบาย
ก่อนหมดเวลา 2 นาที เจ้าถิ่นไม่ยอมง่ายๆ ไล่มา 5-3 กวิน ธีโอฟิล-กาเธอริน เปิดจากขวาถึงหัว เคนวีน โจนส์ โหม่งตั้งให้จอร์ดอน มัทช์ โขกไม่กี่หลาตุงตาข่าย
ช่วงทดเจ็บ 5 นาที ร็อดเจอร์ส เน้นรับแล้ว ถอดสเตอร์ริดจ์ ออก แล้วส่งมามาดู ซาโก้ ที่หายเจ็บกลับมาฟิตอีกครั้งลงสนาม
และช่วงทดเจ็บ หงส์แดงมาเสียอีกสองใบเหลือง จาก มาร์ติน สเคอร์เทล และ โจ อัลเลน
เท่านั้นไม่พอทดเจ็บนาทีสุดท้ายหลุยส์ ซัวเรซ ได้บอลหลุดเดี่ยวจากการเบิ้ลยาวของ สเคอร์เทล เข้าไปล่อเป้าไม่เหลือ 6-3
และจบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ สุดมันส์ 6-3 รั้งอันดับ 2 ตามเดิมมี 65 แต้ม ตามหลังเชลซี 4 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด
11นักเตะของทั้งสองทีม
คาร์ดิฟฟ์(4-4-2) : เดวิด มาร์แชลล์,ฟาบิโอ ดา ซิลวา, สตีเว่น คอลเกอร์, ฆวน กาล่า, เกวิน ธีโอฟิล-กาเธอริน,เดแคลน จอห์น,แกรี่ เมเดล, จอร์ดอน มัทช์, คิม โป-คยอง,เคร็ก เบลลามี่, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์
สำรอง : เบน เทอร์เนอร์,ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม,เคนวีน โจนส์,อารอน กุนนาร์สสัน,มัตส์ โมลเลอร์ ดาเอห์ลี่,โจ ลูอิส,วิลเฟรด ซาฮา
ลิเวอร์พูล(4-3-3) : ซิมง มินโญเลต์,เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, จอน ฟลานาแกน,สตีเว่น เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจ อัลเลน, คูตินโญ่,แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, หลุยส์ ซัวเรซ
สำรอง : แบร็ด โจนส์,ยาโก้ อัสปาส,วิคเตอร์ โมเสส,มามาดู ซาโก้,อาลี ซิสโซโก้,ลูคัส เลว่า,ราฮีม สเตอร์ลิง
ผู้ตัดสิน : นีล สวอร์บริค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สเตอร์ริดจ์เผยตอร์เรสยังรักหงส์ไม่เสื่อมคลาย
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอก ลิเวอร์พูล เผย เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิง เชลซี ยังคงรัก "หงส์แดง" มาตลอด แถมยกให้เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเล่นด้วย ชี้ไม่ได้มีแค่ดาวเตะสเปนเท่านั้นที่พูดแบบนี้ เพราะ ยอสซี่ เบนายูน ก็เคยบอกเหมือนกันซาโก้ชี้หงส์มีโอกาสดีที่จะคว้าแชมป์ลีก
มามาดู ซาโก้ กองหลัง ลิเวอร์พูล ชี้ต้นสังกัดมีโอกาสดีที่จะหยุดสถิติไร้แชมป์ลีกลงในซีซั่นนี้ หลังทำแต้มไล่จี้ เชลซี จ่าฝูง ในเวลานี้ แต่ยืนยันเป้าหมายสำคัญของ "หงส์แดง" คือการคว้าสิทธิ์ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้สำเร็จลือ!ร็อดเจอร์สจ้องซิววัลบูเอน่า
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวจ้องซิว มาติเยอ วัลบูเอน่า กองกลาง โอลิมปิก มาร์กเซย ร่วมทีม หลังต้นสังกัดในลีกฝรั่งเศสส่อแววโละนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้หงส์จัดเต็มจี้ฝูง!ส่งซัวเรซนำซัดถิ่นบลูเบิร์ดส์
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงเตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกหวักเก็บชัยเพื่อทำแต้มไล่จี้จ่าฝูงโดย ยังส่ง หลุยส์ ซัวเรซ ลงล่าตาข่ายต่อเนื่อง เกมบุกถิ่น "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 22 มี.ค. ศกนี้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
เพิ่งมาก็ไม่รอด! รูเบน อโมริม รับอาจโดนปลดหากแมนยูผลงานยังห่วย
ตามนั้น! วินิซิอุส หน้าบาน โรนัลโด้ เชิดชูแข้งเก่งสุดในโลก
วิเคราะห์บอล ทีมชาติฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 67
แฟนหงส์ว่าไง? เนมานยา วิดิช เผยเคยเกือบเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล
แม้ชนะเกมแรกกุนซือเวียดนามไม่ประมาท เชื่อสิงคโปร์มีทีเด็ด
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์