ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก)

วันพุธที่ 2 เมษายน 2557

เรอัล มาดริด (สเปน) - ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน)

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 3 (103), ทรูสปอร์ต เอชดี 1 (115), (เวลา: 01.45 น.)

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)

        คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์คนเก่งชาวอิตาเลี่ยนของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด พาทีมไล่ถล่ม ราโย บาเยกาโน่ ไปกระจุยถึง 5-0 ในลา ลีกา นัดล่าสุด แต่ยังรั้งอันดับ 3 ของตารางเท่านั้น

        ความพร้อมเกมนี้ไม่มี อัลบาโร่ อาร์เบลัว ฟูลแบ็คที่ได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นกระดูกสะบ้าหัวเข่าแตก รวมไปถึง ซามี เคดิร่า กับ เฆเซ่ โรดริเกซ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่

        ส่วน ลูก้า โมดริช กองกลางตัวรุกทีมชาติโครเอเชีย ฟิตกลับมาลงคุมแดนกลางแทน อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้ หลังชวดลงเล่นกับเกมล่าสุดกับราโยฯ เนื่องจากป่วยเป็นไข้

        ในรายของ มาร์เซโล่ วิเอยร่า จะกลับมาลงประจำการแบ็กซ้ายแทน ฟาบิโอ โคเอนเตรา หลังได้โอกาสพักจากเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

        สำหรับ ชาบี อลอนโซ่ กองกลางเชิงรับซึ่งมีอาการเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมกระซวกราโยฯ 5-0 กลับมาลงซ้อมตามปกติและฟิตพร้อมลงเล่น ด้าน อีเกร์ กาซียาส จะกลับมาลงเฝ้าเสาแทน ดีเอโก้ โลเปซ

        สามประสานแดนหน้าให้ แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงมาสังหารประตู

        สลับมาดู "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมแกร่งของบุนเดสลีกา เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มีปัญหาหลายจุดโดยเฉพาะการบาดเจ็บของ สเวน เบนเดอร์, มาร์เซล ชเมลเซอร์, อิลคาย กุนโดกาน, ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ และ เนเว่น ซูโบติช ที่มีอาการบาดเจ็บทั้งหมด รวมไปถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวซัลโวประจำทีมที่ติดโทษแบน

        ข่าวดีคือได้ นูริ ซาฮิน, ลูคัส พิสซ์เซ็ค และ ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมย็อง พร้อมหวนคืนสู่ทีมตัวจริงหลังมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองในเกมล่าสุดกับ สตุ๊ตการ์ท 

        ขณะที่ เซบาสเตียน เคห์ล จะลงคุมเกมแดนกลางกับ นูริ ซาฮิน เปิดทางให้กับ เควิน โกรสครอยท์ซ, เฮนริค มคิตาร์ยาน และ มาร์โค รอยส์ ปั้นเกมรุกสนับสนุน ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมย็อง
กองหน้าตัวเป้าเข้าทำประตู ส่วน ลูคัส พิสซ์เซ็ค แบ็คขวาที่เป็นแค่สำรองในบุนเดสลีกา นัดล่าสุดจะกลับมาเป็นตัวจริง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

        เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - ดาเนียล การ์บาฆัล, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, ชาเบียร์ อลอนโซ่, อังเคล ดิ มาเรีย - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ดอร์ทมุนด์: โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัส พิสซ์เซ็ค, มัทส์ ฮุมเมลส์, โซคราติส ปาปาสธาโดปูลอส, เอริค ดวร์ม - เซบาสเตียน เคห์ล (กัปตันทีม), นูริ ซาฮิน - เควิน โกรสครอยท์ซ, เฮนริค มคิตาร์ยาน, มาร์โค รอยส์ - ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมย็อง

        ผู้ตัดสิน: มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก (อังกฤษ)

ข้อมูลน่าสนใจ
เรอัล มาดริด - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
- เรอัล มาดริด ทำสถิติไร้พ่ายในการลงเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก ตลอด 9 นัดหลังสุด (ชนะ 8 เสมอ 1) ทว่าเกมสุดท้ายที่พวกเขาพ่ายคือการฉะกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมนี้ในรอยบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อเมษายนปีที่แล้ว
- เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ เรอัล มาดริด พลาดการทำประตูในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก (27 เมษายน 2011 พบ บาร์เซโลน่า) ยิงประตูมาแล้ว 33 เกมติดต่อกัน
- ดอร์ทมุนด์ พ่ายให้กับ เรอัล มาดริด เพียงครั้งเดียว จากการฉะกัน 5 ครั้งหลังสุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1) ทว่าความพ่ายแพ้ครั้งดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมเยือน เบร์นาเบว เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (0-2)
- ทีม "เสือเหลือง" เก็บชัยชนะจากการทำศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศได้ตลอด 3 นัดหลังสุด รวมถึงการเอาชนะทีมเพื่อนร่วมชาติของเรอัล มาดริดอย่าง มาลาก้า ด้วยประตูรวม 3-2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูเรอัล มาริดได้ 5 ประตู จากการพบกันในแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 นัดหลังสุด ไม่มีนักเตะคนใดที่ยิงทีม "ราชันชุดขาว" ได้มากกว่าดาวยิงรายนี้
- นอกจากนี้ เลวานดอฟสกี้ ยังมีส่วนร่วมกับการทำ 20 (50%) จาก 40 ประตู ของดอร์ทมุนด์ที่ได้มาในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่แล้ว
- ในบรรดา 8 ทีมที่เหลืออยู่ เรอัล มาดริด เป็นทีมที่ยิงประตูตรงกรอบมากที่สุด (41)
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ได้มากกกว่าที่เคยยิงในปีที่ผ่านๆมา (13) โดยสถิติสูงสุดยังคงเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ยิงไป 14 ประตู เมื่อฤดูกาล 2011/12 (ไม่รวมรอบคัดเลือก)
- โรนัลโด้ ยิงไปแล้ว 48 ประตู บวกกับอีก 11 แอสซิสต์ จากการทำศึกแชมเปี้ยนส์ ลีกทั้งหมด 47 เกมให้กับ เรอัล มาดริด
- โรนัลโด้ มีโอกาสสับไก (41) และยิงเข้ากรอบ (27) มากกว่านักเตะคนอื่นๆในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้
- คาริม เบนเซม่า และอังเคล ดิ มาเรีย เป็นสองนักเตะที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ (5)