ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ รับบทฮีโร่ ซัดประตูชัยช่วยให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สุดมันส์ 3-2 พร้อมยึดตำแหน่งจ่าฝูงของตารางต่อไป ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2014 ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2557

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2014

วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2557

ลิเวอร์พูล 3-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

        สนาม : แอนฟิลด์

        เจ้าบ้าน หงส์แดง ส่ง คู่หู "เอสเอเอส" แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ หลุยส์ ซัวเรซ ลงล่าตาข่าย โดยมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงบัญชาเกมในแดนกลาง

        ด้าน ''เรือใบสีฟ้า'' จัดแนวรุกเต็มกำลังศึก นำทีมโดย เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่ และ เอดิน เชโก้

         นาที 4 หลุยส์ ซัวเรซ ได้รับใบเหลือง จากจังหวะทำฟาวล์ มาร์ติน เดมิเคลิส


         นาทีที่ 6 เดอะค็อปได้เฮลั่น ราฮีม สเตอร์ลิง รับบอลจาก หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนใช้ความสามารถเฉพาะโยกหลบ โจ ฮาร์ท และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ผู้เล่นของแมนฯ ซิตี้ 2 จังหวะ แล้วแปเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม หงส์แดงออกนำไว 1-0


        นาที 14 ยังเป็นเกมรุกของเจ้าบ้าน ราฮีม สเตอร์ลิง เติมเกมขึ้นมากราบขวา ปาดบอลเข้าไปบริเวณกรอบ 6 หลา แดเนียล สเตอร์ริดจ์ สอดเข้ามาแปด้วยขวา บอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว


         นาที 18 เรือใบสีฟ้า เปลี่ยนผู้เล่นคนแรก ส่ง ฆาบี การ์เซีย ลงแทน ยาย่า ตูเร่ ที่ได้รับบาดเจ็บบาดเจ็บเข่าขวา


         ถัดมา 2 นาที ฆาบี การ์เซีย ที่พึ่งลงสนาม ได้รับใบเหลือง จากการตัดฟาวล์ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน


        จากนั้นนาที 25 ยังเป็นโอกาสของลิเวอร์พูล จากจังหวะ เตะมุมด้านขวา สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้เทคโหม่งโล่งๆ  โจ ฮาร์ท ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟ ป้องกันไว้ได้


         จากจังหวะต่อเนื่อง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมด้านซ้าย บอลลอยไปเข้าหัว มาร์ติน สเคอร์เทล ได้โฉบโหม่งเสาแรก บอลพุ่งผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าประตูไป หงส์แดงทิ้งห่าง 2-0


        นาที 41 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ฉกบอลได้จาก เอดิน เชโก้ บริเวณหน้าเขตโทษของแมนฯ ซิตี้ ก่อนได้จังหวะซัดไกล แต่ลูกยิงไม่ตรงกรอบ


        ช่วงท้ายเกมครึ่งแรกทีมเยือนได้ลุ้นตีตื้น แฟร์นันดินโญ่ ได้จังหวะยิง แต่ ซิมง มิโญเล่ต์ ยังพุ่งปัดออกไปได้


         นาที 45 แฟร์นันดินโญ่ โดนใบเหลือง


        จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ แมนฯ ซิตี้ 2-0


         นาที 50 เรือใบสีฟ้า ปรับเกมรุก ถอด เฆซุส นาบาส ออก แล้วส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงเล่นแทน


         นาที 57 เรือใบสีฟ้ากลับมามีความหวังอีกครั้ง เจมส์ มิลเนอร์ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ แฟร์นันดินโญ่ หลุดไปถึงเส้นหลัง ก่อนได้จังหวะเปิดบอล ให้ ดาบิด ซิลบา ที่วิ่งสอดขึ้นมาแปเข้าไปง่ายๆ แมนฯ ซิตี้ไล่ตาม 1-2


         นาที 62 แฟนบอลทีมเยือนได้เฮอีกครั้ง ซามีร์ นาสรี่ จ่ายต่อให้ ดาบิด ซิลบา ได้โอกาสคลอสบอลในกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลไปแฉลบเท้า เกล็น จอห์นสัน เข้าประตูตัวเองไป เรือใบสีฟ้า ตามตีเสมอ 2-2


         นาที 64 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัว โจ อัลเลน ลงแทน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่มีอาการบาดเจ็บ


        นาที 66 จากความผิดพลาดของเกมรับลิเวอร์พูล บอลไปเข้าทาง เอดิน เชโก้ ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ ซิมง มิโญเล่ต์ ล้มตัวป้องกันไว้ได้หวุดหวิด


         นาที 68 แมนฯ ซิตี้ ทิ้งทีเด็ด ส่ง เซร์คิโอ อเกวโร่ ลงแทน เอดิน เชโก้


        นาที 75 ทีมเยือนเดินเกมรุกต่อเนื่อง เซร์คิโอ อเกวโร่ ฉีกหนี มาร์ติน สเคอร์เทล แล้วจ่ายต่อให้ ดาบิด ซิลบา พุ่งชาร์จบริเวณกรอบ 6 หลา แต่ยิงไม่เต็มเท้า บอลหลุดออกหลัง


         นาที 77 บาโบล ซาบาเลต้า ได้รับใบเหลือง 


         ลิเวอร์พูลแซงนำได้อีกครั้ง จากจังหวะเตะมุมด้านขวา แว็งซ็องต์ ก็องปานี สกัดพลาด บอลเลยไปเข้าทาง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ วิ่งกลับมาตวัดด้วยขวา เข้าไปอย่างสวยงาม หงส์แดงออกนำ 3-2


         นาที 88 เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 2 ส่ง วิคเตอร์ โมเซส ลงแทน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่


        ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 5 นาที


         นาที 92 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้รับใบแดง จากจังหวะพุ่งสไลด์หนักใส่ ซามีร์ นาสรี่


         นาที 94 หงส์แดง ส่ง ลูคัส เลว่า ลงแทน ราฮีม สเตอร์ลิง


        จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนชนะ แมนฯ ซิตี้ สุดมันส์ 3-2 พร้อมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป

        ผู้เล่นที่ลงสนาม

        ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์, เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, จอน ฟลานาแกน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ราฮีม สเตอร์ลิง, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, หลุยส์ ซัวเรซ

        สำรอง : เบรด โจนส์, โคโร่ ตูเร่, แดเนียล แอ็กเกอร์, ลูคัส เลว่า, โจ อัลเลน, วิคเตอร์ โมเซส, ยาโก้ อัสปาส

        ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, มาร์ติน เดมิเคลิส, กาแอล กลิชี่, ยาย่า ตูเร่, แฟร์นันดินโญ่, เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, ซามีร์ นาสรี่, เอดิน เชโก้

        สำรอง : คอสเตล ปันติลิมอน, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ฆาบี การ์เซีย, เจมส์ มิลเนอร์, อัลบาโร่ เนเกรโด้, เซร์คิโอ อเกวโร่

        ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรินี่

        ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก