การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบรองชนะเลิศ นัดแรก

วันพุธที่ 23 เมษายน 2557

เรอัล มาดริด (สเปน) 1-0 บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)
 
         ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ 13 นาที เสือใต้ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน ได้หมุนตัวซัดด้วยซ้ายจากริมกรอบเขตโทษบอลแฉลบหลุดออกหลังไป จากลูกเตะมุม โทนี่ โครส โยนให้กับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โหม่งบอลไปตรงตัวของ อีเกร์ กาซียาส นายทวารจอมหนึบของเรอัล มาดริด
 
         อย่างไรก็ตาม ราชันชุดขาว สวนขึ้นมาทีเดียวได้เรื่องเลย เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายเร็วขึ้นมาทางด้านซ้าย ฟาบิโอ โคเอนเตรา กระชากผ่าน เยโรม บัวเต็ง ไปได้แบบสบายๆแล้วหักเข้ากลางมาเสาสองให้กับ คาริม เบนเซม่า แปจ่อๆเข้าไปง่ายๆให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0 เรียกเสียงเชียร์จากแฟนบอลชุดขาวได้กระหึ่มสนามในนาทีที่ 18 และเป็นประตูที่ 5 ของเบนเซม่า ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้
 
         สองนาทีต่อมาเจ้าถิ่นได้ลุ้นจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย โยนโค้งด้วยซ้ายจากทางกราบขวามาหน้าประตูให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โผนขึ้นโหม่งแต่บอลไปตรงตัวของ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารของบาเยิร์น มิวนิค
 
         เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 23 ชุดขาวได้ลูกเตะมุม กองหลังเสือใต้สกัดมาเข้าทางของอังเคล ดิ มาเรีย ซัดจากริมกรอบเขตโทษ แต่บอลไปเข้าซองของ มานูเอล นอยเออร์ นายด่านเสือใต้
 
         จากนั้นสองนาที เสือใต้มีโอกาสเหมือนกัน ร็อบเบน โยนให้กับ ดันเต้ บอมฟิม โผนขึ้นโหม่งแต่ไม่ผ่านมือของ อีเกร์ กาซียาส นายทวารเรอัล มาดริด
 
         มาถึงนาทีที่ 26 ราชันชุดขาว น่าจะได้ประตูที่สองอย่างยิ่ง เมื่อโต้เร็วขึ้นมาทาง ลูก้า โมดริช ไหลให้กับ เบนเซม่า เปิดจากซ้ายเข้ากลางให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สอดมาแปโล่งๆด้วยขวาบอลหลุดออกข้างอย่างน่าเสียดาย
 
         บาเยิร์น ครองบอลเยอะก็จริง แต่โอกาสจบมีน้อย ต้องรอจนถึงนาทีที่ 36 อาร์เยน ร็อบเบน ปีกชาวดัตซ์ซัดข้ามคานไป
 
         ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 4 นาที เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูเพิ่มอย่างยิ่ง เมื่อ อีสโก้ โยนด้วยขวาโค้งเข้ากลาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โขกไม่ถึง แต่ยังมี อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่าพักอกแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายมุมแคบ บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0 
 
         เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที ชุดขาว มีโอกาสเมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ซัดจากทางกรอบเขตโทษด้านขวา แต่ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารของเสือใต้ ปัดทิ้งออกมาได้
 
         กระเถิบมานาทีที่ 57 อีสโก้ ของเรอัล มาดริด โดนใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกมนี้ หลังจากไปทำแฮนด์บอล
 
         นาทีต่อมา โทนี่ โครส กองกลางของเสือใต้ สบโอกาสส่องไกล แต่บอลเหินข้ามคานขึ้นอัฒจันทน์ไปเลย
 
         ทีมเยือนเร่งเกมขึ้นมาได้โอกาสอีกในนาทีที่ 62 เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน เลี้ยงฝ่าเข้ามาซัดจากริมกรอบเขตโทษแต่บอลเบาไปเลยโดน กาซียาส รับไว้ได้ไม่ยากนัก
 
         จากนั้นนาทีที่ 66 บาเยิร์น แก้เกมด้วยการส่ง ฆาบี มาร์ตีเนซ กองกลางชาวสเปนที่พ้นแบนกลับมาลงเล่นแทน ราฟินญ่า แล้วถอย ฟิลิปป์ ลาห์ม มายืนเป็นแบ็คขวา
 
         ถัดมา 2 นาที เรอัล มาดริด สวนขึ้นมาทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ซัดด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลจะเข้าเสาแรก แต่ มานูเอล นอยเออร์ นายทวารบาเยิร์น ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน
 
         ท้ายเกมนาทีที่ 72 เสือใต้ ถอด ฟร้องค์ ริเบรี่ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกมาพักแล้วส่ง มาริโอ เกิตเซ่ ลงมาเล่นแทน ส่วน เรอัล มาดริด ให้ แกเร็ธ เบล ลงมาเล่นแทน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมให้ ราฟาแอล วาราน ลงเล่นแดนหลังแทน เปเป้ ที่มีอาการบาดเจ็บ ในนาทีต่อมา
 
         เวลาที่เหลือ บาเยิร์น มิวนิค เปิดเกมรุกเต็มสูบเพื่อหวังทวงประตูคืนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด เปิดรังเชือด บาเยิร์น มิวนิค ไปได้ก่อน 1-0 เก็บความได้เปรียบก่อนไปบู๊กันนัดสองที่รังของเสือใต้บ้าง ในวันอังคารที่ 29 เมษายน ศกนี้
 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
         เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - ดาเนียล การ์บาฆัล, เปเป้ (ราฟาแอล วาราน น.73), เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - ลูก้า โมดริช, ชาบี อลอนโซ่, อังเคล ดิ มาเรีย - อีสโก้, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แกเร็ธ เบล น.73)
         สำรองไม่ได้ใช้: ดีเอโก้ โลเปซ (ผู้รักษาประตู) - มาร์เซโล่ วิเอยร่า, คาเซมีโร่, อัลบาโร่ โมราต้า, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้
 
         บาเยิร์น มิวนิค: มานูเอล นอยเออร์ - ราฟินญ่า (ฆาบี มาร์ตีเนซ น.66), เยโรม บัวเต็ง, ดันเต้ บอมฟิม, ดาวิด อลาบา - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (โธมัส มุลเลอร์ น.74) - อาร์เยน ร็อบเบน, โทนี่ โครส, ฟร้องค์ ริเบรี่ (มาริโอ เกิตเซ่ น.72) - มาริโอ มานด์ซูคิช
         สำรองไม่ได้ใช้: ลูคัส เรเดอร์ (ผู้รักษาประตู) - เลโอโพลด์ ซินแกร์เล่ (ผู้รักษาประตู) - เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, มิทเชลล์ ไวเซอร์
 
         ผู้ตัดสิน: ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)